ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย หรือ UOB ต่อยอดความสำเร็จโครงการยู-โซลาร์ เปิดตัว ยู-โซลาร์ 2.0 (U-Solar 2.0) ขยายเครือข่ายพันธมิตรไปยังผู้จัดหาอุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์ชั้นนำของประเทศรวม 9 ราย ภายใต้โครงการยู-โซลาร์ 2.0 นี้ ธนาคารพร้อมสนับสนุนโซลูชันทางการเงินให้แก่ทุกภาคส่วน เพื่อส่งเสริมให้อุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ของประเทศไทยพัฒนาอย่างรวดเร็วและเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมี นาย คมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ให้เกียรติเป็นประธานในงานแถลงข่าว
โครงการยู-โซลาร์ 2.0 ได้ขยายขอบเขตความร่วมมือไปยังพันธมิตรผู้ผลิตอุปกรณ์แผงโซลาร์ อินเวอร์เตอร์ และระบบติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวนรวม 9 บริษัท ประกอบด้วย Antai, Canadian Solar, Fimer, Huawei, JA Solar, Jinko Solar, LONGi, Sungrow และ Trina Solar และยังได้รับความร่วมมือจาก Polytechnology ในฐานะตัวแทนจำหน่ายชั้นนำ เข้ามาเป็นพันธมิตรโครงการ เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจให้แก่ผู้พัฒนาและผู้รับเหมาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งในประเทศไทยและทั่วภูมิภาคอาเซียน
นอกจากนี้ ยูโอบีได้แต่งตั้งให้ Sitron Power เป็นผู้รับเหมาออกแบบติดตั้ง (EPC Contractor) ของโครงการยู-โซลาร์เพิ่มอีก 1 ราย เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจและประชาชนทั่วไป ที่ต้องการปรับเปลี่ยนมาใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ทั้งในเรื่องการติดตั้งและควบคุมระบบ และแพคเกจบริการหลังการขาย
นายตัน ชุน ฮิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า “ธนาคารยูโอบี มุ่งมั่นในการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบเศรษฐกิจแบบ net zero ของทั้งภูมิภาค โครงการ ยู-โซลาร์ เป็นหนึ่งในความพยายามเหล่านั้น โดยทำหน้าที่เป็นตัวกลางที่เชื่อมต่อในทุกภาคส่วนตั้งแต่ผู้พัฒนาโครงการ ผู้รับเหมา และ ผู้ผลิต ช่วยให้การเข้าถึงสินเชื่อเพื่อความยั่งยืน เพื่อปรับเปลี่ยนมาใช้พลังงานแสงอาทิตย์เป็นไปอย่างสะดวกขึ้น ส่งเสริมการพัฒนาด้านพลังงานหมุนเวียนและการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืนในประเทศ”
นับตั้งแต่ที่ธนาคารยูโอบี ประเทศไทยเปิดตัวโครงการนี้ในปื 2563 ธนาคารได้อนุมัติสินเชื่อสีเขียวกว่า 3.12 พันล้านบาท ให้แก่บริษัทและที่อยู่อาศัยรวมกว่า 1,800 แห่ง เปลี่ยนมาติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์
โครงการยู-โซลาร์ 2.0 ได้ออกแบบมาเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานให้แก่ผู้พัฒนาโครงการด้านพลังงานแสงอาทิตย์ และผู้รับเหมาออกแบบและติดตั้ง (EPC Contractor) ที่ประสบปัญหาการขาดสภาพคล่องและเงินทุนหมุนเวียน ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย พร้อมสนับสนุนสินเชื่อสีเขียวและข้อเสนอพิเศษทางการเงิน ให้แก่ผู้พัฒนาโครงการและผู้รับเหมาที่เลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากบริษัทผู้จัดหาอุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์ที่เข้าร่วมโครงการ ช่วยให้สามารถมีเงินทุนหมุนเวียนในการพัฒนาและติดตั้งโครงการพลังงานแสงอาทิตย์หลายๆ โครงการพร้อมกัน ทั้งนี้ จะช่วยเร่งให้การพัฒนาด้านพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยเป็นไปอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
โครงการยู-โซลาร์ เป็นส่วนหนึ่งของกรอบแนวคิดการเข้าถึงเงินทุนที่ยั่งยืนเพื่อเมืองอัจฉริยะของยูโอบี (UOB Smart City Sustainable Finance Framework) สำหรับโครงการยู-โซลาร์ 2.0 ธนาคารได้ขยายกรอบการอนุมัติให้สินเชื่อไปยังทุกภาคส่วนตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่าของอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ ภายใต้กรอบแนวคิดการให้สินเชื่อสีเขียวและเงินทุนหมุนเวียนอย่างยั่งยืน (UOB Green Trade and Working Capital Sustainable Finance Framework) โดยกรอบแนวคิดทั้งสองจะสนับสนุนการเปลี่ยนมาใช้พลังงานสีเขียวและส่งเสริมความร่วมมือระหว่างพันธมิตรในอุตสาหกรรมให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพื่อที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถบรรลุเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ปัจจุบัน โครงการยู-โซลาร์ของกลุ่มธนาคารยูโอบีทั่วภูมิภาคอาเซียน ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 186,000 ตันคาร์บอนไดออกไซต์เทียบเท่า (tCO2e) หรือเทียบได้กับการลดการใช้รถยนต์ลงเกือบ 40,000 คันต่อปี หรือปลูกต้นไม้มากกว่า 3 ล้านต้นภายในระยะเวลากว่า 10 ปี
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการยู-โซลาร์ได้ที่ www.uobgroup.com/u-solar-th/
เกี่ยวกับธนาคารยูโอบี
ธนาคาร ยูโอบี เป็นธนาคารชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย มีสำนักงานใหญ่ที่ประเทศสิงคโปร์และมีการดำเนินธุรกิจในจีน อินโดนิเซีย มาเลเซีย ไทย และเวียดนาม อีกทั้งยังมีเครือข่ายระดับโลกที่ประกอบด้วยสำนักงานประมาณ 500 แห่ง ใน 19 ประเทศและเขตการปกครอง ทั้งในเอเชียแปซิฟิก ยุโรปตะวันตก และอเมริกาเหนือ นับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปีพ.ศ 2478 ธนาคารยูโอบีได้พัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่องผ่านการควบรวมกิจการที่สำคัญ ปัจจุบันธนาคารยูโอบีได้รับการจัดลำดับให้เป็นธนาคารที่มีความแข็งแกร่งในระดับสากลจากบริษัทจัดลำดับความน่าเชื่อถือระดับโลก ได้แก่ ความน่าเชื่อถือระดับ Aa1 โดย มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส และ ความน่าเชื่อถืออยู่ในลำดับ AAA (tha) จาก ฟิทช์ เรทติงส์ และเอสแอนด์พี โกลบอล เรทติงส์
ตลอดระยะเวลาเกือบ 9 ทศววรษ ธนาคารยูโอบีดำเนินธุรกิจโดยยึดความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลางเพื่อสร้างคุณค่าให้แก่ธุรกิจในระยะยาวโดยการปรับกลยุทธ์เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคผ่านพลังงานแห่งความสร้างสรรค์และความมุ่งมั่นในการทำสิ่งที่ถูกต้องแก่ลูกค้า ยูโอบีพร้อมที่จะพัฒนาอนาคตของภูมิภาคอาเซียนในเติบโต ทั้งประชากรและธุรกิจให้มีความเชื่อมโยงกันอย่างทั่วถึงในภูมิภาค
เรายังมีส่วนในการเชื่อมต่อโอกาสทางธุรกิจภายในภูมิภาคนี้ ผ่านเครือข่ายทางการเงินที่แข็งแกร่ง เรามีการจัดทำฐานข้อมูลและรวบรวมข้อมูลเชิงลึกสำหรับพัฒนาและนำเสนอประสบการณ์ทางการเงินส่วนบุคคล และบริการทางการเงินที่เหมาะสมเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีการเปลี่ยนแปลง ยูโอบีมีความมุ่งมันที่จะสร้างความยั่งยื่นในการดำเนินธุรกิจให้แก่ลูกค้า ผ่านกิจกรรมการมีส่วนร่วมทางสังคม สร้างผลกระทบที่ดีต่อสื่งแวดล้อม พร้อมไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจ ธนาคารเชื่อมั่นในการเป็นผู้บริการทางการเงินที่มีความรับผิดชอบ พร้อมทำสิ่งที่ถูกต้องเพื่อชุมชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ผ่านการสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคมด้านศิลปะ เยาวชน และ การศึกษา
เกี่ยวกับธนาคารยูโอบี ประเทศไทย
ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย เป็นธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในประเทศไทย มีเครือข่ายทั่วประเทศ 151 สาขาและเครื่องเบิกเงินสดอัตโนมัติ 349 เครื่อง (ข้อมูลถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565) โดยได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำ ได้แก่ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส (อันดับความน่าเชื่อถือเงินฝากระยะยาวที่ A3) และฟิทช์ เรทติ้งส์ (อันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ระยะยาวที่ A- และความน่าเชื่อถือภายในประเทศระยะยาวที่ AAA (tha))