กฟผ. ยกระดับระบบไฟฟ้า เปิดสถานีไฟฟ้าแรงสูงดิจิทัลแห่งแรกทางภาคเหนือ “แม่เมาะ 2” รองรับพลังงานหมุนเวียนที่เพิ่มขึ้นด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีอัจฉริยะ ช่วยลดค่าใช้จ่ายการบำรุงรักษาและการใช้พื้นที่ลดลง สามารถช่วยลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าลงได้
นายจำลักษ์ กันเพ็ชร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง และ นายกิตติ เพ็ชรสันทัด รองผู้ว่าการระบบส่ง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมพิธีเปิดสถานีไฟฟ้าแรงสูงดิจิทัลแห่งแรกของภาคเหนือ “แม่เมาะ 2” ณ ตำบลแม่เมาะ อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง
นายจำลักษ์ กันเพ็ชร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวว่า เป็นเรื่องน่ายินดีที่สถานีไฟฟ้าแรงสูงดิจิทัล แม่เมาะ 2 ช่วยเสริมความมั่นคงของระบบไฟฟ้า รองรับการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นของภาคเหนือและจังหวัดลำปาง จากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องทางด้านธุรกิจและการท่องเที่ยว ตลอดจนโครงการพัฒนาต่าง ๆ เช่น ทางหลวงพิเศษหมายเลข 5 บางปะอิน-เชียงใหม่ รถไฟฟ้าความเร็วสูงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ทางคู่ขนานลอยฟ้าถนนพหลโยธิน นอกจากนี้ ยังรองรับการพัฒนาอำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง ให้เป็นเมืองน่าอยู่ ก้าวสู่เมืองเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำด้วยเทคโนโลยีทันสมัยที่มีการผลิตและใช้ไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานสะอาดหรือพลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้นในอนาคต
ด้าน นายกิตติ เพ็ชรสันทัด รองผู้ว่าการระบบส่ง กฟผ. กล่าวเสริมว่า สถานีไฟฟ้าแรงสูงแม่เมาะ 2 เป็นส่วนหนึ่งของแผนบริหารจัดการโครงข่ายระบบไฟฟ้าให้มีความทันสมัยและมั่นคง (Grid Modernization) ของ กฟผ. รองรับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่เพิ่มขึ้น ในช่วงที่เปลี่ยนผ่านด้านพลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลไปสู่พลังงานสะอาดตามแผนพลังงานชาติ มุ่งขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2593
สถานีไฟฟ้าแรงสูงแม่เมาะ 2 ขนาดแรงดัน 115 กิโลโวลต์ เป็น 1 ใน 4 สถานีไฟฟ้าแรงสูงนำร่องที่ปรับปรุงและพัฒนาเป็นสถานีไฟฟ้าแรงสูงแบบดิจิทัลแล้วเสร็จเดือนพฤษภาคม 2566 มีการใช้อุปกรณ์ควบคุมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะแบบดิจิทัลในการรับและส่งสัญญาณด้วยแสง ผ่านสายใยแก้วนำแสง (Fiber Optic) ช่วยลดการใช้สายไฟฟ้าแบบทองแดง ลดค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงระบบควบคุมและป้องกันความสูญเสียในการจ่ายไฟฟ้า การบำรุงรักษาอุปกรณ์ ลดพื้นที่อาคารควบคุมและพื้นที่ลานไกไฟฟ้า โดยทั้งหมดนี้นำไปสู่ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าที่ลดลง ช่วยลดภาระให้กับประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าในระยะยาว
ทั้งนี้ กฟผ. มีการปรับปรุงสถานีไฟฟ้าแรงสูงแบบดิจิทัลที่ดำเนินการเสร็จแล้วอีก 3 แห่ง ได้แก่ สถานีไฟฟ้าแรงสูงตราด สถานีไฟฟ้าแรงสูงสตูล และสถานีไฟฟ้าแรงสูงกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยมีแผนการพัฒนาสถานีไฟฟ้าแรงสูงสู่รูปแบบดิจิทัลครอบคลุมทั่วประเทศภายในปี 2580