นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การประกาศให้วันที่ 31 ก.ค. เป็นวันหยุดราชการกรณีพิเศษในครั้งนี้ หอการค้าฯ เชื่อว่าภาพรวมจะส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจ เนื่องจากอยู่ระหว่างคาบเกี่ยวกับวันอาสาฬหบูชา ซึ่งเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาที่ประชาชนจะออกไปทำบุญและเข้าร่วมกิจกรรมตามจุดต่าง ๆ ของประเทศ ประกอบกับการหยุดยาวจะช่วยกระตุ้นให้ประชาชนเกิดการเดินทาง การท่องเที่ยว และการจับจ่ายใช้สอย โดยจะช่วยสร้างบรรยากาศความคึกคักและรายได้ให้ผู้ประกอบการทั้ง โรงแรม ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า และอื่นๆ ทั้งนี้ หอการค้าฯ ประเมินว่าจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนเพิ่มเติมในช่วงวันหยุดดังกล่าวประมาณ 5 – 7 พันล้านบาท ขณะที่แรงงานบางส่วนที่ยังต้องทำงานในช่วงวันดังกล่าวก็จะได้รับอัตราค่าจ้างเพิ่มขึ้นจากกรณีประกาศเป็นวันหยุดเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม การประกาศวันหยุดเพิ่มเติมออกมากระชั้นชิด ส่งผลให้บางกลุ่มธุรกิจหรือบางอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการผลิต จำเป็นต้องจ้างงานในช่วงเวลาที่รัฐบาลประกาศหยุดยาว อาจมีผลต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับค่าแรงและค่าล่วงเวลาที่เพิ่มสูงขึ้นบ้าง แต่เชื่อว่าส่วนนี้ไม่น่าจะกระทบแผนการดำเนินธุรกิจของภาคธุรกิจอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยหอการค้าฯ มองว่า การที่รัฐบาลประกาศวันหยุดยาวต่อเนื่องถือเป็นเจตนาที่ดี แต่ถ้าหากสามารถกำหนดช่วงเวลาและสื่อสารล่วงหน้าสักระยะก่อนได้ จะเป็นประโยชน์และช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถวางแผนการดำเนินธุรกิจให้มีความเหมาะสม ขณะที่ประชาชนก็จะสามารถวางแผนการท่องเที่ยวหรือทำกิจกรรมต่างๆ ล่วงหน้าซึ่งจะช่วยให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศมากยิ่งขึ้นด้วย