
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.68 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ “ทนายอั๋น บุรีรัมย์” พร้อมด้วยทีมงานทางกฎหมาย เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ เพื่อขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการขออนุญาตสร้างสนามบินส่วนตัวของตระกูลรัฐมนตรีคนหนึ่งในรัฐบาลนี้ ว่าเข้าข่ายเป็นการรุกล้ำที่ดินสาธารณประโยชน์ ประเภทประชาชนใช้ร่วมกัน หรือบุกรุกที่ดิน ส.ป.ก. หรือไม่
โดยขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ดังนี้ 1. การสร้างสนามบินดังกล่าวในพื้นที่ ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เป็นการรุกล้ำที่ดินสาธารณะหรือไม่ 2. การขออนุญาตใช้ถนนสาธารณะที่มีประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันเป็นปกติ ทำเป็นรันเวย์ชั่วคราวนั้น สามารถกระทำได้หรือไม่ กรณีเป็นการแทรกแซงจากบุคคลผู้มีฐานะเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ จึงขอให้ดีเอสไอ ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและพิจารณารับไว้เป็นคดีพิเศษ เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
โดยมี พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค และในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นผู้แทนรับเรื่อง

นายภัทรพงศ์ กล่าวว่า สำหรับเรื่องที่ตนมาร้องขอให้ดีเอสไอดำเนินการตรวจสอบนั้น เป็นกรณีที่ปรากฏตามหน้าสื่อก่อนหน้านี้ เนื่องจากมีเอกชนไปใช้ถนนของชาวบ้าน ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ขององค์การบริหารส่วนตำบล มาทำเป็นรันเวย์ส่วนตัว มีการมอบอำนาจโดยรัฐมนตรีคนดัง มอบอำนาจให้นายทหารยศ “พล.อ.ต.” จึงต้องการให้ตรวจสอบว่ามีหนังสือมอบอำนาจจริงหรือไม่ และบุคคลนี้มีการมอบอำนาจไปเพื่อขอ อบต. ให้อำนวยความสะดวก กรณีเครื่องบินส่วนตัวจะมาใช้สถานที่รีสอร์ต แหล่งท่องเที่ยวสนามกอล์ฟให้อำนวยความสะดวก กั้นรถ กั้นคน กั้นเด็กที่จะมาวิ่งเล่นในถนนดังกล่าว จึงขอเรียนว่าถนนเป็นของ อบต. เขาจะมีการปิดถนนเวลาจะใช้เป็นรันเวย์ ถนนมีความยาว 1.5 กิโลเมตร
คือปิดถนนทั้ง 1.5 กิโลเมตร เพื่อใช้เป็นรันเวย์ มีเครื่องบินขึ้น-ลงวันละ 20 เที่ยวบินต่อวัน (ไม่ใช่ทุกวัน) จึงมีข้อเคลือบแคลงสงสัยว่าทำได้หรือไม่ เพราะเท่าที่ทราบ ไม่มีการทำประชามติ ไม่มีการแจ้งเตือนบอกชาวบ้าน ทั้งที่ชาวบ้านใช้เส้นทางนี้สัญจรปกติ อย่างไรก็ดี ทราบว่ามีการตรวจสอบแล้วพบว่าไม่มีการขออนุญาตใช้ ไม่มีการทำประชาคม หรือประชามติของหมู่บ้าน ไม่มีการลงทะเบียนเข้า-ออกของอากาศยาน ซึ่งมองว่ามันเป็นความผิดต่อพ.ร.บ.ทางหลวง พ.ศ. 2535 พ.ร.บ.การเดินอากาศ พ.ศ. 2497 พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 เป็นต้น จึงถามว่าเอาอำนาจอะไรมาทำอย่างนั้น

นอกจากนี้ ได้มีชาวบ้าน ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง นำป้ายมาติดประกาศห้ามไม่ให้ใช้ เรื่องดังกล่าวถือเป็นการใช้อำนาจแทรกแซงของรัฐมนตรี หรือไม่ อย่างไร อยากให้ดีเอสไอตรวจสอบข้อเท็จจริง ผิดว่าตามผิด ดูว่าจะเข้าข้อกฎหมายอย่างไร และดีเอสไอจะพิจารณารับเป็นคดีพิเศษอย่างไร หากดีเอสไอมีการลงพื้นที่ ตนก็พร้อมลงพื้นที่ร่วมกับดีเอสไอ
“การเริ่มต้นใช้ถนนเป็นรันเวย์นั้น ตนทราบว่ามีหนังสือไปขออนุญาตเมื่อวันที่ 9 เม.ย.68 แต่อาจมีการใช้ก่อนหน้านั้น อย่างไรข้อเท็จจริงที่เป็นประเด็นใหญ่เช่นนี้ ชาวบ้าน ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง เดือดร้อน ลงบันทึกประจำวัน มูลเหตุ ขอให้ดีเอสไอได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ ว่ามีการใช้ถนนตรงนี้ไปเป็นรันเวย์สำหรับเครื่องบิน คำถามคือเป็นการรุกล้ำป่าไม้ ที่ดิน ส.ป.ก. หรือไม่ อันนี้คืออีกประเด็นที่สงสัย จึงมองว่าเรื่องนี้หากหนังสือมอบอำนาจของรัฐมนตรี เป็นการมอบอำนาจให้คนดังกล่าวจริง มันเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องที่เหิมเกริมต่อการใช้อำนาจ ถ้าตรวจสอบเป็นเรื่องจริง รัฐมนตรีคนนี้อาจถูกดำเนินการทางกฎหมาย ขั้นร้ายแรงก็คือการติดคุก” นายภัทรพงศ์ กล่าว

ทางด้าน พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า ภายหลังจากรับเรื่องร้องเรียนตรวจสอบแล้ว เบื้องต้นเตรียมเสนอเรื่องไปยังกองบริหารคดีพิเศษ เพื่อประชุมพิจารณาความเห็น ก่อนเสนอไปยังอธิบดีดีเอสไอ เพื่ออธิบดีจะได้มอบหมายสั่งการมายังกองคดีที่จะรับผิดชอบดำเนินการต่อไป ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นกองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม