
เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 68 นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย โพสต์ว่า “บันทึกจากนายกสมาคมทนายความฯ”
ตามที่หลายฝ่ายเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี แสดงความรับผิดชอบ กรณีฮุน เซน ปล่อยคลิป ด้วยการขอให้นายกรัฐมนตรียุบสภาหรือลาออกนั้น ผมไม่เห็นด้วยที่นายกจะยุบสภาในขณะนี้ เพราะจะทำให้ประเทศชาติได้รับความเสียหายทางด้านเศรษฐกิจและการเมือง ส่วนการลาออกก็จะเกิดปัญหาอีกเหมือนกัน ดังนี้ ครับ
กรณีเกิดการยุบสภาจะเกิดผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ ทั้งนี้เนื่องจากเมื่อยุบสภาจะไม่มีผู้แทนราษฎรทำหน้าที่พิจารณาและให้ความเห็นชอบกับพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญ หากยุบสภาจะต้องรอให้มี สส.ชุดใหม่ มาพิจารณากฎหมายงบประมาณแทน สส.ชุดเดิม อันจะทำให้รัฐบาลไม่มีงบประมาณรายจ่ายประจำปีเพื่อใช้สอย
โดยเฉพาะรัฐบาลจะไม่สามารถใช้งบลงทุน เพื่อกระตุ้นและแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ทำให้เศรษฐกิจไทยที่แย่อยู่แล้วจะต้องแย่หนักขึ้นไปอีก
ความเสียหายต่อมาเป็นความเสียหายทางการเมือง เมื่อเกิดการยุบสภาจะทำให้รัฐมนตรีทั้งคณะพ้นจากตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 167 (2) แม้รัฐธรรมนูญมาตรา 168 จะให้รัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่งอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อก็ตาม แต่การปฏิบัติหน้าที่จะทำได้เฉพาะเรื่องที่จำเป็นตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 169 (1) – (4) เท่านั้น อันจะทำให้รัฐบาลรักษาการไม่สามารถแก้ไขปัญหาของประเทศ โดยเฉพาะปัญหากับกัมพูชา ซึ่งทวีความตึงเครียดจึงต้องการรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มแก้ไขปัญหาที่ยุ่งยากซับซ้อนดังกล่าว รัฐบาลรักษาการจะอยู่ในสภาพเป็ดง่อยทำอะไรไม่ได้เต็มที่
ดังนั้น การยุบสภาในขณะนี้จึงไม่ใช่ทางเลือกที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ เพราะจะทำให้การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาความมั่นคงระหว่างประเทศเกิดข้อจำกัดมากขึ้น กลายเป็นเข้าทางฮุน เซน และฝ่ายเผด็จการที่ต้องการให้ประชาธิปไตยของประเทศถึงทางตัน

ส่วนการให้นายกฯ ลาออก ก็จะเกิดปัญหาทางการเมืองเช่นกัน เพราะรัฐธรรมนูญ มาตรา 88 บัญญัติให้เสนอชื่อนายกรัฐมนตรีได้ เฉพาะผู้ที่พรรคการเมืองเคยเสนอรายชื่อต่อ กกต. ไว้เท่านั้น ทำให้พรรคประชาชนไม่มีผู้ได้รับการเสนอชื่อ ส่วนพรรคเพื่อไทยก็เหลือเพียงนายชัยเกษม นิติสิริ ซึ่งมีปัญหาด้านสุขภาพ
ในขณะที่พรรคการเมืองอื่นมีเสียงรวมกันไม่ถึงครึ่ง เพราะพรรคประชาชนประกาศแล้วว่า จะไม่ร่วมจัดตั้งรัฐบาล จึงทำให้เสียงไม่พอจัดตั้งรัฐบาลได้ การเมืองก็จะถึงทางตัน เมื่อนายกฯ ขอโทษประชาชนแล้ว ทางออกที่ดีที่สุดก็ควรให้นายกฯ ปรับคณะรัฐมนตรี สรรหาผู้ที่เหมาะสมมาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ โดยเฉพาะปัญหากับกัมพูชาและชายแดนใต้
เมื่องบประมาณผ่านสภาและสถานการณ์ปัญหาระหว่างไทยกับกัมพูชาคลี่คลายลงแล้ว ประกอบกับเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม นายกฯ ก็ควรยุบสภาเพื่อคืนอำนาจให้ประชาชน แต่ก่อนยุบสภาก็ควรร่วมมือกันแก้ไขยกเลิก มาตรา 88 ของรัฐธรรมนูญเสียก่อน เพื่อให้สามารถหาผู้ที่มีเหมาะสมมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้ โดยไม่มีข้อจำกัด ปัญหาของประเทศต้องแก้ไขโดยสติโดยไม่ใช้อารมณ์เป็นตัวนำ และการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธีคือทางออกที่ดีที่สุด