ตราบเท่าที่อดีต...ไม่มีทางชนะอนาคต? การชุมนุมของนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชน ย่อมไม่สิ้นหวังต่อการจะสร้างปรากฏการณ์ “อนาคตไล่ล่าความผิดปกติ” ที่เกิดขึ้นกับสังคมไทย(เมื่ออนาคตไล่ล่าคุณ)...หนังสือพ็อกเก็ตบุ๊กส์ขายดีติดอันดับโลก ที่ ฮวน เอ็นริเควซ (Juan Enríquez) นักธุรกิจ นักเขียน และนักพูดชาวอเมริกัน เชื้อสายแม็กซิกัน เขียนไว้ เมื่อราว 20 ปีก่อน ยังคงทันสมัยอยู่เสมอ..แม้หลายสิ่งที่เกิดขึ้นกับโลกในวันนี้...จะล้ำหน้าไปกว่าสิ่งที่ ฮวน เอ็นริเควซ เคยเขียนเอาไว้...ในหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊กส์เล่มนี้ทว่าหลายอย่าง...ก็ปรับใช้ทดแทนกันได้ครั้งหนึ่ง...อดีตนายกทักษิณ ชินวัตร เคยแนะนำให้รัฐมนตรีของเขาอ่านหนังสือเล่มนี้...“รัฐมนตรีทุกคนควรอ่านหนังสือเล่มนี้ เพื่อปรับตัวให้ทันกับการพัฒนาที่รวดเร็ว ถ้าปรับตัวไม่ทัน เราจะอยู่อย่างลำบาก”ผ่านมา 14 ปี...หลังการทำรัฐประหาร เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 คณะรัฐมนตรีในรัฐบาล “ทักษิณ ชินวัตร” อ่านหรือไม่? ไม่รู้...แต่ที่รู้ “คนถืออำนาจรัฐ” และ “บิ๊กทหาร” ในกองทัพฯ จากยุค คมช. เมื่อวันวาน ถึง คสช. ที่แปลงร่างเป็น “รัฐบาลลุงตู่” ในวันนี้...คงไม่ได้อ่านหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊กส์เล่มนี้!เพราะถ้าอ่าน...ไม่มีการส่งสัญญาให้ใคร? คณะใด? ออกมาฉีกรัฐธรรมนูญ ด้วยการยึดอำนาจประชาชน ที่ส่งต่ออำนาจ ผ่านนักการเมืองในยุคสมัยนั้นอย่างแน่นอนไม่เพียงไม่อ่าน...หากแต่คนกลุ่มนี้ โดยเฉพาะพวกที่ยังคงมีลมหายใจ กลับไม่สนใจในวลีที่ว่า “เมื่ออนาคตไล่ล่าคุณ” ด้วยซ้ำ!พวกเขาจึงไม่ตระหนักรู้ว่า...อะไรคืออนาคต? และอนาคตมีความสำคัญอย่างไร?การรวมตัวออกมาเรียกร้องใน “3 + 10 ข้อ” ของคณะประชาชนปลดแอก ภายใต้การนำของเด็กและเยาวชนคนรุ่นใหม่ นับแสนคน ณ บริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 19-20 กันยายนที่ผ่านมา สะท้อนว่า..ผู้ถืออำนาจรัฐ และผู้บงการอยู่เบื้องหลัง...กำลังมีปัญหากับเด็กๆ กลุ่มนี้กลุ่มที่ถือเป็น “อนาคต” ของประเทศไทยจะแปลกอะไร...หากพวกเขา จะไล่ล่าเอา “ความผิดปกติ” ออกไปจากสังคมไทยและประเทศไทยทว่าเป็นความบังเอิญที่จงใจหรือไม่? หากเด็กเหล่านี้...จะมองเห็น ผู้ถืออำนาจรัฐ และผู้บงการอยู่เบื้องหลัง รวมถึงบางคนในกองทัพ และกลุ่มผู้สนับสนุน ทั้งในและนอกสภาฯ คือ “ความผิดปกติ” ที่ว่านี้...ของสังคมไทยไม่ว่า...กลุ่มนักเรียน นักศึกษา ประชาชน แม้กระทั่ง “คนเสื้อแดง” จะมีใครอยู่เบื้องหลังหรือไม่? อย่างไร? แต่จังหวะการต่อสู้ ทั้งในมิติเชิงสัญลักษณ์ และเสมือนการประกาศสงคราม ล้วนมียุทธศาสตร์และยุทธวิธีในการต่อสู้ ไม่ต่างจากคนในฝ่ายความมั่นคงสักเท่าใด?“หลอกว่าจะตีซ้าย แต่กลับทะลวงขวา” ทำเอารัฐบาลและฝ่ายความมั่นคง...เสียรังวัดไปไม่น้อยทั้งงบประมาณ กำลังพล รวมถึงลวดหนามและแท่งปูนแบริเออร์ ที่อีกฝ่ายทุ่มสรรพกำลัง...ใส่กันไปไม่ยั้ง หวังปิดกั้นเส้นทางการชุมนุมของกลุ่มประชนปลดแอก บริเวณพื้นรายรอบทำเนียบรัฐบาล อันเป็นที่ตั้งศูนย์บัญชาการอำนาจรัฐทว่า...เอาเข้าจริง! กลับกลายเป็น “กลลวง” จากฝ่ายเด็กและเยาวชนเจ้าหน้าที่รัฐ...ตั้งแต่ตำรวจ ทหาร รวมถึงหน่วยงานฝ่ายปกครองและความมั่นคง...กลายเป็น “ตัวตลก” ให้เด็กๆ กลุ่มนี้...หัวร่องอก่องอขิง กันในที่ลับ!สะท้อนว่า...อนาคตไม่ใช่เรื่องล้อเล่น และกดขี่กันไม่ได้ง่ายๆ เหมือนเช่นกลุ่มผู้ชุมนุมในอดีต...การชุมนุมครั้งใหญ่ในวันที่ 19-20 กันยายนผ่านพ้นไป พร้อมกับการได้ยื่นข้อเรียกร้อง “3 + 10 ข้อ” ของคณะประชาชนปลดแอก ต่อ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล หวังส่งต่อไปยังองคมนตรี..กับความเชื่อที่ว่า...พวกเขาชนะในเบื้องต้นทว่า...การนัดชุมนุมครั้งใหม่ วันที่ 24 กันยายนที่จะถึงนี้ ฝ่ายผู้ชุมนุม...เลือกให้ตรงกับวันที่มีการประชุมรัฐสภา ว่าด้วยการหารือถึงแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560แน่นอนว่า...ครั้งนี้อาจไม่ใหญ่และมีนัยสำคัญในเชิงปริมาณเท่าครั้งก่อน เพราะจำนวนฝูงชนคงจะถูกทอนลงด้วยสภาพแวดล้อมของสถานที่ ซึ่งก็คือ....“สัปปายะสภาสถาน” หรือรัฐสภาแห่งใหม่ของประเทศไทยกระนั้น ในเชิงคุณภาพ เชิงคุณค่า และเชิงสัญลักษณ์แล้ว อาจถือว่าการนัดชุมนุมบริเวณด้านของ “สัปปายะสภาสถาน” ในครั้งนี้ น่าจะหวังผลได้มากกว่าการชุมนุนเมื่อ 19-20 กันยายนเพราะผลพวงจากการประชุมฯ ระหว่าง...สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กับสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่มีออกมา ย่อมสร้างปฏิกิริยาให้กับกลุ่มผู้นำชุมฯ ที่มีธงในใจจากบ้านมาแล้ว..สถานการณ์ในวันนั้น...จะเป็นเช่นใด? หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องคงพอจะประเมินได้กัน...แต่ที่ยากจะวิเคราะห์ ยากจะประเมิน และยากจะคาดการณ์ ก็คือ ในวันที่ “อนาคตกำลังไล่ล่าคุณ” อยู่นั้น คุณจะเตรียมการรับมือกันอย่างไร? ท่ามกลางสายตาของพี่น้องคนไทยและชาวโลก ที่กำลังจับจ้องกับปรากฏการณ์เช่นนี้นักเรียน นิสิตและนักศึกษา หลายคน...มีพ่อแม่ผู้ปกครอง ที่เคยและยังคงยืนข้างรัฐบาลและกองทัพ รวมถึงอยู่ในกลุ่มคนผู้สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะฯความรุนแรง ทั้งโดยเนื้อหาแห่งกฎหมาย และ/หรือ เนื้อหาแห่งการปฏิบัติการพิเศษ ล้วนมีผลเชิงประจักษ์ต่อกลุ่มคนผู้สนับสนุนรัฐบาลและกองทัพ รวมถึง พล.อ. ประยุทธ์ และคณะฯการจะผลักมิตรไปเป็นศัตรู! ในทางการศึกสงคราม...ผู้นำฯไม่ควรกระทำอย่างยิ่งในห้วงเวลานี้..แต่การจะปล่อยให้ “อนาคต...เดินหน้าไล่ล่า” กันอย่างนี้...เชื่อว่า ทั้ง คนถืออำนาจรัฐ และผู้บงการอยู่เบื้องหลัง ก็คงจะยอมกันไม่ได้...ถึงได้บอกยังไงว่า...ยุทธศาสตร์และยุทธวิธีของเด็กและเยาวชนกลุ่มนี้...เดินเกมกันแบบไม่ธรรมดาเล่นกับ “อนาคตแห่งความหวัง”...ไม่มีทางที่ “อดีตอันขมขื่น” จะชนะในบั้นปลายท้ายที่สุดได้ง่ายๆ..หากจะมีใคร “ปั่นกระแส” ความเกลียดชัง ด้วยหวังสร้างความรุนแรง...ไม่แน่ว่ารอบนี้ อาจกลายเป็นความเปลี่ยนแปลงจนไม่อาจมองเห็นปลายทางสุดท้ายว่าจะจบลงตรงจุดไหน? อย่างไร?เมื่ออนาคตไล่ล่าคุณ...คุณควรจะหลีกทางให้หรือไม่? วันที่ 24 กันยายน อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ที่นำไปหาคำตอบในท้ายที่สุด!อนาคต...แม้จะสดใส แต่ก็ช่างน่ากลัวนัก!