จับตา กลุ่ม "กบฎ 21 ส.ส." จะไปทางไหน หลังโดนเขี่ยกระเด็นพ้น พปชร. ย้อนรอยปมร้าวระหว่าง "บิ๊กตู่-ธรรมนัส" และท่าทีของ "บิ๊กป้อม" จะป็นกาวใจ ประสานรอยร้าวสำเร็จหรือไม่ ท่ามกลางสถานการณ์ที่สุกงอม
ถือเป็นปรากฏการณ์ ที่ทำการเมืองไทยสะเทือนเลื่อนลั่น กรณีเมื่อวันที่ 19 ม.ค.2565 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีมติขับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาฯ พปชร. พร้อมกับ ส.ส.อีก 20 คน ออกจากการเป็นสมาชิก ด้วยเหตุผลที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน รอง หน.พรรค พปชร. ในฐานะทีมกฎหมายระบุว่า "เป็นเหตุที่ร้ายแรงที่กระทบกับเสถียรภาพและเอกภาพของ พปชร." ทำให้ต้องหาพรรคใหม่สังกัดภายใน 30 วัน
กลายเป็นข่าวใหญ่ ตีหัวไม้ขึ้นหน้าหนึ่ง นสพ.แทบทุกฉบับในวันรุ่งขึ้น ...ว่ากันว่า คู่กรณีของ "ผู้กองธรรมนัส" ไม่ใช่ "บิ๊กป้อม" พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะ หน.พรรค พปชร. แต่เป็น "บิ๊กตู่" พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ศูนย์กลางอำนาจเบอร์ 1 ของเมืองไทย
หลายฝ่ายคงสงสัยว่า "ผู้กองธรรมนัส" กับ "บิ๊กตู่" มีปัญหาบาดหมางกันเมื่อไร ? และเพราะอะไร ??
ศึกระหว่างบุคคลทั้งสอง เริ่มเปิดหน้าชนกันตั้งแต่อภิปรายไม่วางใจรัฐบาล เดือน ก.ย. ปี 2564 และหนักหน่วงต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเกมนี้นักวิเคราะห์การเมืองหลายคนกลับมองว่า ไม่ใช่ความเพลี่ยงพล้ำของผู้กองธรรมนัส แต่เป็นการปรับยุทธศาสตร์ สร้างอำนาจต่ออรองได้อย่างน่าสะพรึงกลัว
การอภิปรายไม่วางใจรัฐบาลครั้งนั้น ไฮไลต์สำคัญไม่ได้อยู่ที่การเปิดโปงและโจมตีรัฐบาลของพรรคฝ่ายค้าน
แต่กลับไปอยู่ที่ปฏิบัติการหวังโค่น "บิ๊กตู่" กลางสภาฯ ที่มี รอ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นหัวเรือใหญ่ แต่ข่าวเกิดรั่วเสียก่อน ทำให้ "บิ๊กตู่" เข้าไปเจรจากับ "บิ๊กป้อม" พี่ใหญ่แห่ง 3 ป. สุดท้าย ธรรมนัส ยอมถอย ส่งผลให้ "บิ๊กตู่" รอดการถูกเชือดกลางสภาไปได้ หวุดหวิด ผ่านโหวตอภิปรายไม่วางใจฯ แต่ได้คะแนนอันดับรองบ๊วย
ปฏิบัติการณ์ของธรรมนัส ย่อมสร้างรอยแค้นให้ "บิ๊กตู่" และหลังการโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจฯ ผ่านไปไม่กี่วัน คำสั่งปลด "ธรรมนัส" และ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ออกจาก ครม.ทันควัน กรณีนี้ นักวิเคราะห์การ มองว่า เป็นความผิดพลาดของ "บิ๊กตู่" ที่ใช้อารมณ์เหนือเหตุผล เพราะรอยร้าวตรงนี้จะขยายวงกว้างทำให้เกิดความแตกแยกใน พปชร. และยังหักหน้า "บิ๊กป้อม" ที่ได้ออกปากขอไว้แล้วก่อนหน้านี้
แม้จะถูกปลดจาก ครม. แต่ "ผู้กองธรรมนัส" ก็ยังนั่งอยู่บนเก้าอี้ เลขาฯ พปชร. จึงสามารถเขย่าเก้าอี้นายกฯ และสร้างความปั่นป่วนได้ทุกเมื่อ ดังนั้นความพยายามเขี่ยให้พ้นตำแหน่ง เลขาฯ พปชร. จึงตามมา โดยรัฐมนตรีในสายของ "บิ๊กตู่" ได้กดดันบิ๊กป้อมให้เปิดประชุมใหญ่ เพื่อปรับโครงสร้างพรรค ดีด "ผู้กองธรรมนัส" ออกจากตำแหน่งเลขาธิการ
แต่แล้วเกมกลับพลิก โดยก่อนการประชุมใหญ่ของพรรคเพียงวันเดียว "บิ๊กป้อม" ได้เรียกแกนนำพรรคเข้าพูดคุยเจรจากัน พร้อมทิ้งไพ่หากยังวุ่นวายกับธรรมนัสไม่เลิก จะประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค ทำให้ธรรมนัสได้ไปต่อ และ บิ๊กตู่ ต้องเสียหน้าอีกรอบ ส่วนธรรมนัสบารมีทางการเมืองพุ่งกระฉูด จากการที่ "บิ๊กป้อม" ยอมเอาตัวเข้าแลก
หลังรอดพ้นการถูกเขี่ยออกจากตำแหน่งเลขาฯ พปชร. ธรรมนัส ก็ไม่ต่างอะไรกับ ”เสือติดปีก” อีกทั้งบิ๊กตู่และเครือข่ายยอมถอยไปตั้งหลัก ทำให้เขาหายใจหายคอโล่งขึ้น และเดินแผนหวังดับบารมี "บิ๊กตู่" ผ่านการเลือกตั้งซ่อม พื้นที่ภาคใต้ "สงขลา-ชุมพร" ด้วยการไม่ชู "บิ๊กตู่" หาเสียงเหมือนที่แล้วมา แต่กลับชู "บิ๊กป้อม" แทน หวังให้ พปชร. ชนะการเลือกตั้งซ่อม "บิ๊กตู่" ก็อาจกลายเป็นบุคคลที่ไม่มีความสำคัญ กับพรรคอีกต่อไป
ทว่า เกมไม่ได้เป็นไปอย่างที่ "ผู้กองธรรมนัส" คาดหวัง พปชร.พ่ายเลือกตั้งซ่อมทั้ง "สงขลา-ชุมพร" และที่สำคัญ ปัจจัยหลักที่ทำให้พ่ายแพ้ มาจากการหาเสียงในโค้งสุดท้ายที่ "ธรรมนัส" ขึ้นเวทีปราศรัยให้คนใต้ เลือกคนรวย คนมีเงิน ทำให้คู่แข่งอย่าง ประชาธิปัตย์ (ปชป.) ขยายผลนำไปเป็นประเด็น "ดูถูกคนใต้"
หลังผลออกมาว่า ปชป. ชนะเลือกตั้งซ่อมทั้งชุมพร และสงขลา ทำให้ธรรมนัสตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากทันที เมื่อรัฐมนตรีพลังประชารัฐในเครือข่าย "บิ๊กตู่" โดยเฉพาะ "เสี่ยเฮ้ง" นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แงงาน ใช้จังหวะนี้โจมตีธรรมนัสอย่างหนักหน่วง
โดยเสนอให้มีการทำโพลว่า "ผู้กองธรรมนัส" ทำให้ พปชร.ตกต่ำหรือไม่ โดยว่ากันว่าเป็นการพูดคุยกันในไลน์กลุ่ม ก่อนเกิดกรณีไลน์หลุด และนี่คือ นาทีสุดท้ายทำให้ ร.อ.ธรรมนัส พรมเผ่า นำ 20 ส.ส.ออกมาจาก พปชร.
แต่การจะลาออกง่ายๆ ก็ไม่ใช่คนอย่าง ร.อ.ธรรมนัส ที่ผ่านเกมการเมืองมาอย่างโชกโชน เพราะหากลาออกเอง ก็จะสิ้นสุดสมาชิกภาพ ส.ส. ในทันที แต่ถ้าถูกขับออกจากพรรค เพื่อหาพรรคใหม่สังกัดได้ภายใน 30 วัน สมาชิกภาพ ส.ส.ก็ยังคงอยู่
ซึ่งพรรคการเมืองอื่น ย่อมยินดีอ้าแขนรับ ส.ส.จำนวนมากถึง 21 คน เพื่อเติมพลังการต่อรอง ตามหลัก "คณิตศาสตร์การเมือง"
ที่สำคัญ ตัวเลขจำนวน 21 เสียงนั้น หากเข้าร่วมรัฐบาลก็ต้องได้รับโควตารัฐมนตรีระดับว่าการถึง 2 กระทรวง จึงไม่ต่างอะไร กับการทวงคืนเก้าอี้รัฐมนตรี พร้อมดอกเบี้ย หลังถูกปลดฟ้าผ่าออกจากเก้าอี้ รมช.เกษตรฯ เมื่อปีที่แล้ว
ฉะนั้น หากต้องการรักษาเสถียรภาพให้กับรัฐบาล "บิ๊กตู่" ก็ต้องยอมปรับ ครม. และให้โควตารัฐมนตรีกับธรรมนัส อย่างน้อยๆ 2 เก้าอี้ แต่ในกรณีที่ไม่ยอม "ผู้กองธรรมนัส" ที่ไม่ใช่ ส.ส.ของ พปชร. อีกต่อไป มีอิสระในการเคลื่อนไหวและเขย่าเก้าอี้ "บิ๊กตู่" ได้อย่างเต็มที่
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การประชุมสภาฯ เมื่อมีวาระด้วยกฎหมายสำคัญของรัฐบาล เข้ามาพิจารณาหาก "กลุ่มกบฎ 21 ส.ส.พปชร." ไม่ยกมือหนุน ทำให้กฎหมายโดนตีร่วง โดยทางการเมืองแล้ว รัฐบาลก็อยู่ไม่ได้ยิ่งในภาวะ "เสียงปริ่มน้ำ" อันมีบทเรียนให้เห็นมาแล้วหลายครั้ง จากวิกฤต “สภาล่ม” โดนฝ่ายค้านเล่นเกมหนีประชุม
แต่เชื่อหรือไม่ งานนี้ "บิ๊กตู่" ยอมหักไม่ยอมงอ เพราะจากการประชุม ครม.ล่าสุด เมื่อวันอังคารที่ 21 ม.ค.2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ปล่อยภาพตัวเอง พร้อมกับบทเพลง "อย่ายอมแพ้" ของ อ้อม-สุนิสา สุขบุญสังข์ โดยร้องเพื้อเพลงท่อนที่ว่า "อย่าหยุดยั้ง ก้าวไป ขออย่ายอมแพ้" พร้อมประกาศลั่น “ผมไม่มีแพ้ใครอยู่แล้ว ทุกคนต้องไม่ยอมแพ้ เพื่อประเทศชาติ ประชาชนที่รักยิ่งของพวกเรานะครับ ขอบคุณท่านรัฐมนตรี ขอบคุณท่านรองนายกฯ ทุกท่าน เรากำลังทำภารกิจที่สำคัญให้กับประเทศชาติเวลานี้”
ย้อนกลับมาที่ "ผู้กองธรรมนัส" กับ อีก 20 ส.ส.จะเดินหน้าต่อไปอย่างไร ซึ่งไม่ใช่เรื่องยาก เพราะชั่วโมงนี้ แน่ๆ เลย คือ พรรคเศรษฐกิจไทย รอเปิดประตูบ้านต้อนรับเต็มที่ และ หน.พรรค ก็ไม่ใช่ใครที่ใไหน คือ "บิ๊กน้อย" พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา อดีตประธานกรรมการยุทธศาสตร์ พปชร. คนสนิท ”บิ๊กป้อม” โดยมีชื่อ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เป็นที่ปรึกษาพรรค
ล่าสุด มีความเห็นจาก "เนติบริกร" นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ระบุว่า หากมี ส.ส.ในกลุ่ม 21 คน ไปร้องศาล รธน. กรณี ถูกมติพรรคขับออกจาก พปชร. ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นธรรม การนับ 1 ให้หาพรรคใหม่สังกัดใน 30 วัน ต้องหยุดลงทันที และหากกลุ่ม ส.ส. 21 คนนี้ จะขอกลับไปอยู่พรรคเก่าก็ทำได้
พร้อมกับหัวเราะก๊ากออกมาด้วยความขบขัน...ไม่มีทีท่าว่า จะรู้สึก ตื่นเต้น ตกใจ แต่อย่างใด ก่อนจะทิ้งท้ายว่า "จะไปหาพรรคใหม่ก็ได้ หรือจะกลับไปที่พรรคเก่า และหากพรรคเก่าที่ไปไล่เขาออก แล้วจะไปรับกลับเข้ามาอีกก็ทำได้ มันตลก เมืองไทยมันมีเรื่องตลกบ่อย ช่างมันเถอะ"
ก็หลากหลายประเด็น แต่บทสรุป มันก็อยู่ที่ กลุ่ม 21 ส.ส.พปชร. จะเอาอย่างไร รวมทั้ง "บิ๊กป้อม" ต้องยอมกลืนน้ำลาย โยนมติ พปชร. ที่ขับ ร.อ.ธรรมนัส กับพวก ทิ้งไป แล้วไปจับเข่าเจรจาแบบพี่น้องกับ "บิ๊กตู่" ให้ลืมๆ เรื่องที่ผ่านมาทั้งหมด เริ่มต้นใหม่ เพื่อประเทศชาติบ้านเมือง !!