น่าสนใจว่าอาการกลับลำ 180 องศาของฝ่ายต่อต้านทักษิณ! รอบนี้ หวังเพียงแยกปลาจากน้ำ...ทำลาย 312 เสียงของ 8 พรรคประชาธิปไตย เพื่อจัดตั้งรัฐบาลผสมพันธุ์...ข้ามขั้ว! จะนำบ้านเมืองไทยเข้าสู่สถานการณ์ใด? หาก 4 ส.ค. หรือวันข้างหน้าจะโหวตเลือกนายกฯ คนที่ 30 ได้ งานนี้...จะเข้าตำรา “เดิมพันประเทศไทย” หรือไม่?
…
อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร จะกลับไทยหรือไม่? ถึงนาทีนี้...ยังสรุปไม่ได้! แต่ในโลกโซเชียลฯ คุยกันให้เปรอะ...
ทักษิณกลับแน่... ไม่กลับไทย ก็กลับกลอก!!!
ฝ่ายที่เชื่อว่า...อดีตนายกฯ ทักษิณ จะไม่กลับไทยในวันที่ 10 ส.ค. 2566 ยังคงยืนยันในแนวคิดนี้ ไม่ว่าจะเป็นอดีตคนเคยรักกันและแกนนำเสื้อแดง อย่าง “จตุพร พรหมพันธุ์” หรือ “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย ที่ต่างพูดในทิศทางเดียวกัน ทำนอง...อดีตนายกฯ ทักษิณจะไม่กลับไทยในวันนั้น เหตุผลสนับสนุนคือ...
ทีมงานของอดีตนายกฯ มิอาจเจรจาต่อรองกับฝ่ายกุมอำนาจของประเทศ กระทั่งทำให้อายุความและจำนวนวันที่จะต้องติดคุกในทันทีที่เดินทางกลับไทย... ลดลงอย่างที่วาดหวัง เมื่อลดจำนวนวันติดคุกไม่ได้ จึงต้องเปลี่ยนแผนและยกเลิกแผนการจะเดินทางกลับไทย
สำทับซ้ำอีกว่า...รอบนี้ อดีตนายกฯ ทักษิณ และพรรคเพื่อไทย อาจจะยังถูกหลอกในทางการเมืองจากผู้มีอำนาจตัวจริง! ต่อไป
โดยเฉพาะคำยืนยันหนักแน่นจาก “ชูวิทย์” ได้นำมาซึ่งอาการตอบโต้รุนแรงผ่าน...วลีออนไลน์ ที่ “อุ๊งอิ๊ง - แพรทองธาร ชินวัตร” ตอกกลับในเพจข่าวของ “กรรมกรข่าว-คนดัง” ว่า...“เพ้อเจ้อ”
และเป็น “ชูวิทย์” ที่ร้องเพลงที่ชื่อ “ไว้ใจ (วงไมโคร)” ตอบกลับ...โฟกัสบางท่อนของเนื้อร้องที่ว่า... “จุดอ่อนคือการที่ไว้ใจ คือโดนทำร้ายแทบเสียคน จุดอ่อนจากการเชื่อถือคนบางคน ผลลัพธ์คือต้องผิดหวัง...”
เนื้อร้องข้างต้น “ชูวิทย์” ต้องการจะสื่อไปยัง...พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล
ส่วนทั้ง 2 พรรคจะรับไว้พิจารณาหรือไม่? สุดแล้วแต่ใจจะไขว่คว้า
แต่ที่แน่ๆ กลุ่มคนที่เคยต่อต้านและร่วมกันสร้างวลี “ผีทักษิณ” ตลอดระยะเวลาเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา...ถึงวันนี้ ส่วนใหญ่พากัน “กลับลำ 180 องศา” หันมาเชียร์ อดีตนายกฯ ทักษิณ แล้วผลักให้ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” และพรรคก้าวไกล กลายเป็น “ผีตัวใหม่” เสียเอง
“สนธิ ลิ้มทองกุล” อดีตแกนนำพันธมิตรฯ และเป็นคนที่ต่อต้านแบบสุดลิ่มทิ่มประตู เพิ่งจะพูดในรายการ “สนธิทอล์ค” ถึงเรื่องที่อดีตนายกฯ ทักษิณ จะเดินทางกลับไทย
ก่อนหน้านี้ ตัวเขาและกลุ่มพันธมิตรฯ ต่อสู้กับพรรคไทยรักไทยและอดีตนายกฯ ทักษิณ ใน 2 ประเด็น คือ หนึ่ง...มีการคอร์รัปชั่นเชิงนโยบาย และ 2. มีพฤติกรรมที่ไม่จงรักภักดีต่อสถาบันเบื้องสูง
ทว่าผ่านมากว่า 17 ปี ที่ อดีตนายกฯ ทักษิณ ต้องลี้ภัย...ใช้ชีวิตอย่างเดียวดายในต่างแดน เมื่อคิดได้ในภายหลัง...หันกลับมาจงรักภักดี โดยไม่คิดแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 และยินดีจะกลับติดคุก
เมื่อได้ประกาศต่อสาธารณะ ก็ไม่แปลก หาก “สนธิ” จะประกาศได้ยินทั่วกันว่าง..หลังจากที่ตัวเขาได้ทำใจอย่างเป็นกลาง... จึงยอม OK ต่อการที่อดีตนายกฯ ทักษิณ จะเดินทางกลับไทย
ย้ำกันชัดๆ ผ่าน วลี OK ถึง 2 ครั้ง ในรายการวันนั้น นั่นเท่ากับยืนยันว่า...คนในฝั่งที่เคยต่อต้านและเป็นศัตรูตัวฉกาจต่อกันมายาวนานเกือบ 20 ปี มาวันนี้...พร้อมจะหันมา “จูบปาก” และเปิดประเทศรอรับการกลับมาของอดีตนายกฯ ทักษิณ กันแล้ว
ท่าทีดังกล่าว ทำให้นักวิเคราะห์การเมืองไทยหลายคน...ทั้งนักวิชาการ นักการเมือง และสื่อมวลชน วิเคราะห์ตรงกัน...
หรือนี่คือการดึงเอา “ตัวพ่อ” ฝ่ายประชาธิปไตย มาย้อมแมวให้เป็นเสือ! เพื่อเปิดแผนพิฆาตกระแส...กลิ่นความเจริญและสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง!!!
หวังสร้างทฤษฎี...คณิตวิบัติ! ชู 187 เสียงของฝั่งสืบทอดอำนาจเผด็จการฯ ให้มีค่ามากกว่า 312 เสียงของ 8 พรรคการเมืองฟากประชาธิปไตย
หนึ่งในคนที่วิเคราะห์การเมืองอย่างตรงไปตรงมา เป็นทั้ง...อดีตคนเพื่อไทยและเจ้าของแนวคิด “เอ็มโอยู แอ็ดวานซ์” อย่าง... น.ต.ศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย มองปรากฏการณ์ “คนเคยเกลียด มารุมเชียร์...รุมรักทักษิณ” ครั้งนี้ เป็นแค่ยุทธการ “แยกปลาออกจากน้ำ”
หวังทำลาย 312 เสียงของ 8 พรรคการเมือง และฉีกทิ้งเอ็มโอยูข้างต้น
มุมมองดังกล่าว...ได้ถูกนำไปขยายผลจนบางคน? ในบางพรรคการเมือง? ร้อนตัว...อยู่ไม่ติด! เพราะทุกฝ่ายต่างรู้ดีว่า...การเลือกตั้งครั้งนี้ ประชาชนเจ้าของประเทศ ผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยตัวจริง ต่างมีฉันทามติเลือกให้พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และให้ “พิธา” นั่งเก้าอี้นายกฯ คนที่ 30
แม้จะถูกอำนาจจาก “สว.ธิปไตย” ขัดขวาง และมีกระบวนการ “ล้มพิธา” และทำลายพรรคก้าวไกล ดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม ทว่าความคาดหวังของคนไทยส่วนใหญ่ ก็ยังอยากจะเห็น “พิธา” เป็นนายกฯ คนที่ 30 หรืออย่างน้อยพรรคก้าวไกลก็ต้องอยู่ร่วมเป็นรัฐบาลฝั่งประชาธิปไตย
ผิดจากนี้ หรือใคร? ทั้งคนและพรรคการเมืองคิดเห็นเป็นอื่นไปจากกระแสความต้องการของประชาชน “สำนักข่าวเนตรทิพย์” พูดได้เลยว่า... หมดอนาคตในทางการเมืองแน่ๆ
ล่าสุด มีสื่อ/องค์กรหลายสำนัก ทำแบบสอบถามคนไทย ผ่านช่องทางออนไลน์ ประมาณว่า...หากมีการเลือกตั้งครั้งหน้า...คุณจะเลือกใคร? ผลที่ออกมาคร่าวๆ 93% เลือกพรรคก้าวไกล 3% เลือกพรรคเพื่อไทย และอีก 4% เลือกพรรคการเมืองอื่นๆ
แม้จะยังไม่เป็นที่สิ้นสุดและยืนยันได้ว่า...ตัวเลขดังกล่าวจะเป็นจริงหรือไม่? ทว่าหลายคนในหลายพรรคการเมืองก็จะนิ่งเฉยต่อไปคงไม่ได้...
พวกเขา มีทางเลือก 2 ทาง คือ หันกลับมาอิงกระแสความต้องการของประชาชน หรือไม่ก็...สวนทางตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว อยู่เป็นรัฐบาลสมัยนี้ 4 ปี หลังจากนั้น...ค่อยว่ากันใหม่
หากจะไม่ได้กลับเข้าสภาฯ หรือไม่ได้เป็นรัฐบาล แม้กระทั่งเกือบจะสูญพันธุ์ในทางการเมือง ก็คงไม่เป็นไร? เพราะ 4 ปีที่เป็นรัฐบาลผสมพันธุ์...ข้ามขั้ว ก็น่าจะกักตุนเสบียงกรังรองรับการเมืองวันข้างหน้ากันไปเยอะแล้ว
แนวโน้มที่คนไทยจะรู้สึกเจ็บปวดใจกับการจัดตั้ง...รัฐบาลผสมพันธุ์...ข้ามขั้ว ด้วยเหตุผลที่เดากันได้ไม่ยาก ก็คือ...จะปล่อยเวลาให้เนิ่นนานคงไม่ได้ เดี๋ยวประเทศไทยจะสูญเสียโอกาส ภาคเอกชนจะได้รับความเสียหาย ประเทศไทยจะขาดโอกาสการลงทุนจากนักลงทุนรายใหญ่ต่างชาติ สูญเสียภาพลักษณ์ที่ดีและความไว้วางใจจากนานาประเทศ
สารพัดจะยกอ้างสร้างเหตุผลเข้าข้างตัวและพวกพ้อง หวังถีบพรรคก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้าน และสร้างสถานการณ์ความจำเป็นจะต้อง “เสียสัตย์เพื่อชาติ” ร่วมกับฟากตรงข้ามจัดตั้งรัฐบาลผสมพันธุ์...ข้ามขั้วขึ้นมา
ไม่สนใจด้วยซ้ำว่า...ระหว่างการบริหารประเทศ 4 ปีเป็นอย่างมากนั้น จะมีกลุ่มก้อนประชาชนคนไทยสักกี่กลุ่ม ออกมาเดินขบวน...ชุมนุมประท้วงขับไล่ สร้างความบอบช้ำให้กับประเทศ ทั้งในทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่อาจจะมีตามมา..แค่ไหน???
น่าสนใจว่า...การนัดหมายของประธานสภาฯ “วันนอร์” ที่จะมีขึ้นในวันที่ 4 ส.ค.นี้ การสรรหานายกฯ คนที่ 30 จะเกิดขึ้นหรือไม่? พรรคการเมืองทั้ง 2 ซีก รวมถึง 250 สว.จะสนับสนุน “แคนดิเดท - นายกรัฐมนตรี” จากพรรคเพื่อไทยหรือไม่? อย่างไร?
และหากได้ตัวนายกฯ คนที่ 30 จริงๆ แล้ว พรรคการเมืองที่จะร่วมเป็นรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย จะมีหน้าตาอย่างไร?
ทั้งหมดคือ...เดิมพันประเทศไทย!!!