การ “ตระบัดสัตย์” ในทางการเมือง! ใครจะคิดว่า สิ่งนี้...อาจนำไปสู่ความเลวร้ายครั้งสุดท้าย! ของคนในตระกูลการเมืองชื่อดัง ระดับ...เคยนั่งเก้าอี้นายกฯกันมาแล้ว 2 คน 3 สมัย ชนิด “สูญสิ้นไปจากแผ่นดินไทย” ได้ คนไทยทั้งแผ่นดินจะเป็นผู้ให้คำตอบนี้ หากมีกรณี “น้ำผึ้งหยดเดียว” ในทางการเมือง!
...
การเมืองไทย ในยุค...ตระบัดสัตย์ สับปรับ ตอแหล! อะไรๆ ก็แปรเปลี่ยน ไม่มีเสถียร...แม้แต่คำพูดระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ก็แปลงค่าให้เป็นได้แค่การทำ “โฆษณาชวนเชื่อ” ในทางการเมือง เพียงเพื่อจะขอคะแนนเสียงจากชาวบ้านไปวันๆ
ไม่สนใจว่า...จะต้องปฏิบัติ ยึดมั่น เยี่ยง “สัญญาประชาคม” ที่นักการเมืองและพรรคการเมืองที่ดี ควรยึดถือและปฏิบัติตามคำพูดหาเสียงก่อนถึงวันหย่อนบัตรเลือกตั้งใหญ่ หรือไม่?
เสมือนหนึ่ง...“หลอกรับประทาน” คะแนนเสียงจากชาวบ้านที่เขา เชื่อมั่น ศรัทธา และให้ความไว้วางใจไปวันๆ ก็เท่านั้น
สถานการณ์การจัดตั้ง “รัฐบาลผสมพันธุ์ข้ามขั้ว” ร่วมกับ “พรรคร่วมรัฐบาลเดิม” ที่พรรคเพื่อไทยประกาศเป็นความจำเป็น และเรียกว่าเป็น “รัฐบาลพิเศษ” สลายสงครามสีและความขัดแย้งที่มีมาตลอด 20 ปีเศษ ยังคงยืนอยู่บนความไม่เสถียรในทางการเมือง
ถึงนาทีนี้...แม้คะแนนเสียงของรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทย เป็นแกนหลัก และมี “เศรษฐา ทวีสิน” เป็นว่าที่นายกฯ คนที่ 30 จะมีเกินกึ่งนึง เพราะได้... “หลานของ 2 ลุง” อพยพบางส่วน หรืออาจ “ยกเต็มพรรค” มาร่วมรัฐบาล กระทั่งอาจได้คะแนน สส.ในมือมากถึง 268 เสียงจาก 10 พรรคเล็ก-ใหญ่
บวก “เต็มพรรค” ของพรรคพลังประชารัฐ 40 เสียง และ 36 เสียงจากพรรครวมไทยสร้างชาติ
ก็ยังไม่มีหลักประกันอันใดว่า...ที่สุดคะแนนรวม 12 พรรค (บวกเสียง สส.เต็มพรรคของ 2 ลุงแล้ว) 344 เสียงที่มี มันจะผ่านการโหวตเลือกนายกฯ คนใหม่ได้หรือไม่?
ยังขาดเสียงสนับสนุนอีกราว 30 เสียง
แน่นอนว่า...เสียงจาก “โหวตเตอร์” ในสายของพรรคก้าวไกล ชัดเจนแล้วว่า...ส่วนใหญ่หรือเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่เห็นด้วยที่พรรคก้าวไกลจะโหวตเลือก นายกฯ คนใหม่ ที่กำลังทำหน้าที่เป็น “นั่งร้าน” ให้กับเครือข่ายอำนาจเผด็จการ
คงเหลือแต่เสียงสนับสนุนจากฝั่งของ สว.
หากได้ 2 พรรคลุงมาร่วม “รัฐนาวาลำใหม่” จริง! แนวโน้มจะผ่านการโหวตเลือกนายกฯ คนใหม่ 274-276 เสียง ก็มีสูง...
ฟังเสียงจาก สว.วันชัย สอนสิริ เจ้าของไอเดีย (สมัยเป็นสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช.)...สร้างคำถามพ่วงท้าย “ประชามติ” ก่อนโหวตหนุนรัฐธรรมนูญปี 2560 ด้วยการ...มอบอำนาจให้ สว. มีส่วนร่วมเลือกนายกฯ ร่วมกับ สส. ที่เพิ่งจะยืนยันหนักแน่นเมื่อไม่นานมานี้...
ระบุว่า...การเลือกนายกฯ รอบนี้ สว.สำนึกผิด! กับพฤติการณ์เลือกนายกฯ ครั้งก่อน (พิธา ลิ้มเจริญรัตน์) จนเป็นเหตุให้ประชาชนก่นด่า กล่าวหาว่าเป็น “ตัวปัญหา” ของการเมืองเกมนี้ ทว่ารอบนี้... สว.พร้อมกจะยกมือให้กับพรรคการเมืองที่รวบรวมคะแนนเสียงของ สส.เกินกึ่งหนึ่ง (251 เสียงขึ้นไป) ได้เป็นนายกฯ คนใหม่
ประมาณว่า...ทำคุณไถ่โทษ!
แต่เพราะความไม่แน่นอนในทางการเมือง ที่อะไรๆ ก็แปรเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ดังนั้นคนอย่าง... “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” และ “จตุพร พรหมพันธุ์” จึงมีความเห็นที่เป็นอื่น...
“2 กูรูการเมือง” ผู้ที่เคยทำนายปรากฏการณ์การเมืองได้ถูกต้องในหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะ “ปมกลับบ้านของอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร” ว่า...จะไม่เกิดขึ้นจริงในวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา แล้วมันก็เป็นจริงตามนั้น
2 คนนี้...คาดการณ์ว่า “เศรษฐา ทวีสิน” จะไม่ได้เป็นนายกฯ ในการโหวตครั้งใหม่กลางเดือน ส.ค.นี้ ด้วยเหตุผล... สว.จะไม่ยกมือให้
ตรงกับมุมมองของ “อดีตคนสื่อ” ที่ผันตัวเองไปเป็นนักวิชาการ...วิเคราะห์การเมือง อย่าง...รศ.ธนพร ศรียากูล ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์การเมืองและนโยบาย ในฐานะ “นักวิชการด้านรัฐศาสตร์” ที่เคยให้สัมภาษณ์กับ “หมาแก่ – ดนัย เอกมหาสวัสดิ์” ในรายการ...เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand เมื่อหลายวันก่อน...
ทำนอง...ผู้กุมอำนาจรัฐตัวจริง! และบรรดา สว. อยากได้ “อุ๊งอิ๊ง - แพรทองธาร” ลูกสาวอดีตนายกฯ ทักษิณ และเป็น 1 ใน 3 แคนดิเดทนายกรัฐมนตรี จากพรรคเพื่อไทย มานั่งเก้าอี้ “นายกฯ คนที่ 30”
ด้วยเหตุผลเดียว! คือ...ยึดเป็น “ตัวประกัน” ในทางการเมือง! ป้องกันการบิดพลิ้วของ “คนเป็นพ่อ”
ในมุมมองของ รศ.ธนพร นั้น แม้เนื้อหาจะไม่ตรงกับสิ่งที่ “จตุพร - ชูวิทย์” ตั้งข้อสังเกตเอาไว้ แต่ปลายทางเป้าหมายเหมือนกัน คือ...
“เศรษฐา ทวีสิน” จะหลุดเก้าอี้ “นายกฯ คนที่ 30” และจะเป็น “อุ๊งอิ๊ง” ที่จำต้องฝืนกล้ำกลืน...กลับมานั่งเก้าอี้ตัวนี้ เพราะพรรคเพื่อไทย ในยามนี้...แทบไม่เหลือทางเลือกอะไรอีกแล้ว แม้ว่า “พ่อ (ทักษิณ) และแม่ (คุณหญิงอ้อ)” รวมถึงทุกคนในครอบครัว จะไม่เห็นด้วยกับแนวทางนี้ก็ตาม
สมมุติ คำนายทายของ “2 กูรูการเมือง” + “1 นักวิชาการ...วิเคราะห์การเมือง” จะผิดพลาด! และเป็น “เศรษฐา ทวีสิน” ที่ได้ขึ้นมานั่งเก้าอี้ “นายกฯ คนที่ 30”
มันก็แค่...ชะลอหรือยืดอายุ “นักการเมือง” จากตระกูล “ชินวัตร” ไปได้แค่ 4 ปี แต่ก็มีแนวโน้มว่า...มันอาจจะเร็วกว่านี้
ไม่ว่า “เศรษฐา ทวีสิน” จะได้นั่งเก้าอี้ “นายกฯ คนที่ 30” หรือไม่? และ “อุ๊งอิ๊ง” จะถึงคิวรับไม้ต่อในช่วงเวลาใด?
หลายเสียงในทุกวงการ (นักการเมือง, นักวิชาการ, นักวิเคราะห์การเมือง, สื่อไทยและสื่อต่างประเทศ) ต่างวิเคราะห์ตรงกัน...จากพฤติกรรมในทางการเมืองของคนไทยยามนี้ ที่แทบไม่มีใครจะคาดคิดว่า...บรรดาแฟนคลับ ทั้งสาวก “คนเสื้อแดง” หลายสิบล้านคน และคนที่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงอีกนับล้านคน...และในอดีตเคยรัก...เคยเชียร์...เคยเป็น “ทัพหน้า - หน่วยกล้าตาย” ให้กับพรรคเพื่อไทย และคนในตระกูลชินวัตร
มาบัดนี้...จะกระทำในสิ่งตรงกันข้าม! ชนิด...ยอมเปลี่ยนฟ้าสูงเป็นเหวต่ำ! ได้มากมายสักเพียงนี้
วันใดที่ “อุ๊งอิ๊ง” กระโดดลงมาเล่นการเมืองแบบเต็มตัว! และก้าวสู่การเถลิงเก้าอี้ “นายกฯ คนใหม่” ก็ให้นับวันถอยหลังได้เลยว่า...วาระสุดท้ายของ “ตระกูลชิน (วัตร)” ในทางการเมือง ก็จะเริ่มนับหนึ่งทันที!
ฟังการวิเคราะห์ของ “จตุพร พรหมพันธุ์” คนเคยที่รับ “ออเดอร์ตรง” จาก...อดีตนายกฯ ทักษิณ ก็ให้รู้สึกสะดุ้ง! เล็กน้อยถึงปานกลาง...
ไม่เพียง “อุ๊งอิ๊ง” จะเป็น...“ตระกูลชินคนสุดท้าย” เท่านั้น หากแต่อาจถึงขั้นที่เธอนี้...จะไม่มีแผ่นดินจะอยู่ เฉกเช่น...พ่อและอาหญิงของธอก็เป็นได้!!!
การวิเคราะห์และคำทำนายข้างต้นจะเป็นจริงหรือไม่? เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์และตัดสิน แต่บนความรู้สึกลึกๆ ที่เสมือนหนึ่ง...โดนตบหน้า หักหลัง และให้ร้าย! ของประชาชนคนไทยในฝั่งประชาธิปไตยกว่า 25 ล้านคน กับพฤติการณ์ “ตระบัดสัตย์” ของพรรคเพื่อไทย ที่...ดูเหมือนจะกระสันต์ในอำนาจ และหวังจะพา “อดีตนายกฯ ทักษิณ” กลับประเทศไทย โดยปราศจากพันธนาการใดๆ ทั้งสิ้นนั้น
มันคือสัญญาณการ “ไม่เอา” คนตระกูลชิน อีกแล้ว!!! และอาการ “ไม่เอา” นี้ รอเพียง...เหตุการณ์แห่งอาณัติสัญญาณ “น้ำผึ้งหยดเดียว!” ในทางการเมืองก็เท่านั้น!