ภาพความเป็นจริง! กับทุกสิ่งที่ พรรคเพื่อไทย กระทำตลอด 3 เดือน คือ...คำตอบในคำถามที่ว่า...ทำไม? จึงทิ้งประชาชนฝั่งประชาธิปไตย! เหตุเพราะหลายคนในพรรคเพื่อไทย แม้กระทั่ง “ผู้ถืออำนาจตัวจริง” ต่างรอวันปลดระวาง...สิ้นอายุขัยในทางการเมือง พวกเขาจึงไม่สนใจในคำมั่นสัญญาต่อประชาชน ที่สำคัญ ได้วางทายาทการเมือง ฝังในพรรคประชาธิปไตยแห่งอนาคตกันไปแล้ว ถึงตรงนี้ คนไทย...เข้าใจรึยัง???
…………………………
สถานการณ์การเมืองวันนี้...คนไทยไม่ต้องคิดอะไรมาก? เพราะวันที่ 22 สิงหาคม 2566 เพียงวันเดียว...มี 2 เรื่องใหญ่ๆ ให้ได้ลุ้นกันแรงๆ!
ช่วงเช้า! ลุ้นว่า... อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร จะได้กลับเมืองไทยหรือไม่? และตลอดทั้งวัน! ยังได้ลุ้นกันต่อว่า... “เศรษฐา ทวีสิน” จะผ่านการโหวตของสมาชิกรัฐสภา กระทั่งได้เสียงเกินกึ่งหนึ่ง 374 เสียง (เสียงของสมาชิกรัฐสภาเท่าที่เหลืออยู่จริง!) หรือเปล่า?
2 เรื่องนี้...มีเดิมพันที่สูงมาก!!!
เดิมพันสูงมากอย่างไร? ก็อย่างที่พรรคเพื่อไทยและแกนนำพรรคฯ ทำกันมาตลอดนั่นแหละ... ตั้งแต่เมื่อคราวป่วนการเซ็น MOU 8 พรรคร่วมฝ่ายประชาธิปไตย
มีคนอ่านสถานการณ์ออกและจับทางได้ โดยขอให้พรรคเพื่อไทยเพิ่มดีกรีจาก MOU ธรรมดา เป็น MOU Advance จนคนพูด (ผู้พันปุ่น - น.ต.ศิธา ทิวารี) เกือบโดนต่อยปากนั่นแหละ
ครั้งนั้น... คนไทยในฟากฝั่งประชาธิปไตย ยังอ่านเกมของพรรคเพื่อไทยไม่ออก ต่อมา... พรรคของคนเสื้อแดง (ปัจจุบันไม่ใช่แล้ว) ทำทุกวิถีทาง เพื่อไม่ให้คนของพรรคก้าวไกล ได้นั่งเก้าอี้ “ประธานสภาผู้แทนราษฎร” (ควบเก้าอี้ “ประธานรัฐสภา” โดยตำแหน่ง)
ตีบท 2 หน้า...แยกกันเดิน ร่วมกันตี!
หน้าหนึ่ง... “เดอะอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย ออกหน้า...ดันให้ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เป็นนายกฯ คนที่ 30 และให้พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงหลีกทาง “เก้าอี้-ประธานสภาฯ” ให้กับคนของพรรคอันดับ 1
อีกหน้าหนึ่ง...ส่ง “ผู้อาวุโส” อดิสร เพียงเกษ ออกหน้าแสดงความไม่เห็นด้วย หาก “เพื่อนจะกินรวบ” ทั้งตำแหน่ง...นายกฯ และประธานสภาฯ
กระทั่ง พรรคก้าวไกล ยอมหลีกทางให้...เปิดโอกาสให้อดีตคนของพรรคเพื่อไทย อย่าง...นายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ และเป็น 1 ใน 8 พรรค MOU มานั่งเก้าอี้ตัวนี้แทนที่...
มีเสียงลึกลับ? เล่าถึงสถานการณ์การจัดตั้งพรรคพรรคประชาชาติของนายวันนอร์ เมื่อคราวไปหารือกับ “คนไกลบ้าน” ถึงดินแดนอาหรับราตรี สุดท้าย..มีการสนับสนุนเต็มรูปแบบให้กับพรรคใหม่
แต่นั่น...จะเป็นเงื่อนปมแห่งพันธะสัญญาใจ ในเวลาต่อมาหรือไม่? ก็สุดจะคาดเดา…
แต่การทำหน้าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานรัฐสภา ของนายวันนอร์ ดูเหมือนจะขัดใจคนในฝั่งประชาธิปไตย และบรรดา “ด้อมส้ม” อย่างแรง...
แค่ปมให้สมาชิกรัฐสภาโหวตเสียงข้างมาก... จนญัตติการประชุมรัฐสภา มีค่ามากกว่ารัฐธรรมนูญ ที่เป็นกฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศ ก็ถูกลากโยงไปถึงการได้รับทุนสนับสนุนจัดตั้งพรรคใหม่กันไปแล้ว
เท็จจริงนั่นเรื่องนึง... แต่จากพฤติกรรมที่ผ่านมาของนายวันนอร์ ดูเหมือนจะเป็นคุณกับทางพรรคเพื่อไทยมากที่สุด และเป็นโทษกับพรรคก้าวไกลและคนในฟากประชาธิปไตยมากที่สุดเช่นกัน
การยอมตระบัดสัตย์ในทางการเมืองของแกนนำพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะปมการหาเสียง ที่เป็นเพียงยุทธวิธีในทางการเมือง...เพื่อให้ได้มาซึ่งคะแนนเสียงจากประชาชนเท่านั้น เมื่อได้มาแล้ว...ไม่จำเป็นจะต้องรักษาคำมั่นสัญญาใดๆ ที่เคยให้ไว้!!!
ก่อนจะ “ถีบหัวส่ง” พรรคก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้าน และรวบรวมเสียงสนับสนุนจากพรรคการเมือง “ขั้วตรงข้าม”
กระทั่ง คนจากคณะก้าวหน้า และจากพรรคก้าวไกล ออกมาแฉ! ถึงแรงบีบ! สกัดการดึงพรรคในฝั่งตรงกันข้าม มาร่วมรัฐบาล 8 พรรค MOU โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย นั้น...ห้ามเด็ดขาด!
คนบงการเกมตัวจริง! ของพรรคเพื่อไทย รู้ดีว่า...หากได้พรรคภูมิใจไทย มาเป็นพรรคที่ 9 ในรัฐบาลฝั่งประชาธิปไตยแล้ว พวกเขา...จะไม่ได้เก้าอี้นายกฯ จะไม่ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และจะไม่มีอำนาจบริหารราชการแผ่นดิน ตามแผนการ “แลนด์สไลด์” ที่ผิดแผนไปก่อนหน้านี้แล้ว
ทว่าในเวลาต่อมา เมื่อพวกเขาได้สิทธิ์ “พรรคอันดับ 2” ไม่เพียง “เท! พรรคก้าวไกล” หากแต่ยังเปลี่ยนขั้วสลับข้าง ดึงเอาพรรครัฐบาลเดิมมาร่วมงานแบบ...ยกชุด!
ไม่เว้นแม้แต่ “พรรค 2 ลุง” ที่แกนนำทุกระดับ...เคยประกาศก้อง “ไม่เอา 2 พรรคลุงร่วมรัฐบาล!!!” ชนิด...กลืนน้ำลาย-น้ำเหลือง ลงคอไปหมดสิ้น!!!
แค่นี้...มันจะไปเหลืออะไรกับเสียงสนับสนุนจากประชาชน ในเมื่อพรรคเพื่อไทยไม่สนใจ...ไม่แยแสของเสียงของประชาชน
ว่ากันว่า...เหตุที่พรรคเพื่อไทยกระทำการเยี่ยงนี้ได้ เพราะส่วนใหญ่ของแกนนำพรรคฯ ต่างอยู่ในห้วงวาระสุดท้ายของชีวิตการเมือง หรือจะพูดให้กระชับ ก็คือ รอบนี้ถือเป็น...รถด่วนขบวนสุดท้ายกับการจะเป็นรัฐบาลแล้ว
พ้นไปจากนี้...วิถีการเมืองทั้งปวง จะย้ายไปอยู่กับพรรคก้าวไกล
ฉะนั้น แกนนำฯ รถด่วนขบวนสุดท้าย! จึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้สมประสงค์ โดยไม่อินังขังขอบความรู้สึกของพี่น้องประชาชน ที่เคยมี...พ่อแม่และญาติพี่น้อง นอนตายเป็น “กองศพ” ให้บางพรรคการเมืองได้ข้ามไปใหญ่!
วันข้างหน้า...พรรคเพื่อไทย จะเหลือ “ต่ำสิบ” หรือถึงขั้นสูญพันธุ์ไปจากการเมืองไทย ก็ไม่จำเป็นที่ “คนรุ่นนี้” จะสนใจใยดี เพราะพวกเขา...ต่างนับถอยหลังชีวิตการเมือง และลมหายใจในชีวิตจริงกันแล้ว
อีกเหตุผลสำคัญ คือ ต่อให้พรรคเพื่อไทยจะสูญพันธุ์ พวกเขาก็ได้หว่านเมล็ดพันธุ์ทางการเมือง “รุ่นใหม่” ลงในพรรคก้าวไกลไปเยอะแล้ว
จากข้อมูลเชิงลึก! ที่ รศ.ธนพร ศรียากูล ผอ.สถาบันวิเคราะห์การเมืองและนโยบาย ให้ไว้ในรายการ เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ผ่าน “หมาแก่ – ดนัย เอกมหาสวัสดิ์” เมื่อหลายวันก่อน...
ชัดเจน! ว่ามี...หลายบ้านใหญ่ และมากตระกูลการเมืองดัง ทั้งในพรรคเพื่อไทยและพรรคการเมืองอื่นๆ ต่างส่งทายาทรุ่นใหม่...เข้าไปร่วมงานกับพรรคก้าวไกลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ดังนั้น หากพรรคต้นสังกัดของตัวเองจะพังพินาศลงไป! ก็ไม่เป็นปัญหาอะไรมากนัก เพราะท้ายที่สุด...พวกเขาเอง ก็จะต้อง “ล้มหายตายจาก” ในทางการเมือง! ไปพร้อมกับพรรคต้นสังกัด เช่นกัน!
ถือเป็นการปิดฉากการเมือง! ลงอย่าง (ไม่) ดี!!!
แต่ก่อนจะถึงวันปิดฉาก! ยังมีเวลาเหลือๆ...แม้อาจไม่ถึง 4 ปีเต็ม แต่ก็มากพอที่พวกเขาจะ “เถลิงอำนาจวาสนา ถลุงเงินงบประมาณแผ่นดิน” ผ่านโครงการเล็ก-กลาง-ใหญ่ และอภิมหาโครงการฯ...อันอาจจะ “เรียกคืน” คะแนนเสียงกลับมาได้บ้าง?
ระหว่าง “กุมอำนาจรัฐ” ในฐานะ “นั่งร้าน” ให้กับ 2 ลุง! ยังพอมีเวลาและเงินงบประมาณ “ส่งต่อ” ให้กับลูกหลานในสังกัดพรรคแห่งอนาคต ได้โชว์ศักยภาพ...ทั้ง ในพื้นที่ (ในฐานะ สส. และว่าที่ สส.ในอนาคต) และในพรรคต้นสังกัด
ถึงนาทีนี้...ก็อย่าแปลกใจกับพฤติกรรมของพรรคเพื่อไทยและแกนนำพรรคฯ ว่า...เหตุใด? พวกเขาจึงพากันหมุนกลับ 180 องศา ชนิดไม่หลงเหลือความเป็นพรรคการเมืองที่เป็น “จิตวิญญาณ” ของคนในฟากฝั่งประชาธิปไตย
นั่นเพราะพวกเขา...นับแต่ “คนถืออำนาจสูงสุด!” ที่มีเป้าหมายสำคัญในวันเดียวกับการโหวตเลือก “นายกฯ คนใหม่” ไล่ลงไปจนถึงแกนนำพรรคฯ...ที่บางคน จ่อคิว! นั่งเก้าอี้เสนาบดีในกระทรวงสำคัญๆ กันแล้ว
ฉะนั้น การถึงฝั่งฝันในวันก่อนถึง “บั้นปลายชีวิตการเมือง” แม้จะต้องกระชากความรู้สึกของ “คนเคยรักเคยศรัทธา” กระทั่ง สลาย...คนที่เคยร่วมเป็นร่วมตาย และร่วมอุดมการณ์ทางการเมืองกันมา ก็ไม่น่าจะสร้างปัญหาอะไรให้กับคนวัย...ไม้ใกล้ฝั่ง เช่นพวกเขา อีกต่อไป
เพราะอย่างน้อย...พวกเขายังคงหลงเหลือลูกหลานในทางการเมือง ที่พวกเขาทำการ “แอบส่ง” มาฝังรากลงลึกอยู่ในพรรคก้าวไกลกันไปแล้ว
หาก “ต้นสังกัด” พรรคเพื่อไทย...จะล้มหายตายจากในทางการเมือง? ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรที่พวกเขาต้องกังวลใจ!!!
นี่จึงเป็น...ภาพสะท้อนความเป็นจริง กับทุกสิ่งที่พรรคเพื่อไทย...ได้กระทำมาตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา
คนไทย...เข้าใจกันรึยังหล่ะ???