หลังจากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หมดอำนาจวาสนาไปแล้ว เริ่มมีบางสิ่งอย่างโผล่ออกมาว่า “กลวงโบ๋” ไม่มีอะไรคืบหน้าแลย
นั่นคือ..เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง ที่เริ่มตั้งไข่มาตั้งแต่ปี 58 และเข้าที่เข้าทางเมื่อปี 60
วันนี้ลองไปถามคนในอีอีซีดูเถอะ ว่ามีบริษัท (โรงงาน) อะไรเข้ามาตั้งในพื้นที่อีอีซีบ้างหรือยัง มีกี่โรงงานแล้ว (555) หรือมาแค่มาคุยๆ เป็น 100 ราย แต่สุดท้ายไม่มีใครมาเลย
หรือบางรายบอกว่า ไปคุยกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) สบายใจกว่า!
โครงการเมกะโปรเจคต์สำคัญๆ ในอีอีซี ที่มีการประมูลแข่งขันและได้ผู้สัมปทานก่อสร้างไปเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสนามบินอู่ตะเภา และรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน มูลค่ากว่า 4 แสนล้านบาท ตอนนี้ “กระดืบ” ไปถึงไหนแล้ว?
โดยเฉพาะโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ที่ยังติดกับดักเรื่องจ่ายค่าสิทธิ์ “แอร์พอร์ตลิงก์” กว่า 10,600 ล้านบาท ซึ่งหลังสุดช่วงต้นปี 66 ทางบอร์ดอีอีซีเคาะให้เอกชนผู้ได้รับสัมปทานแบ่งจ่าย 7 งวด (แทนที่จะต้องจ่ายงวดเดียวในปี 64) บวกดอกเบี้ยและค่าเสียโอกาสให้ รฟท. อีก 1,060 ล้านบาท เพื่อเยียวยาผลกระทบจากโควิด-19
แต่รัฐบาลประยุทธ์ที่ว่าเป็น “ซูเปอร์ พาวเวอร์” ยังไม่กล้าอนุมัติให้ผ่าน เนื่องจากเกรงกลัว “คุก” ในภายภาคหน้า
ปัญหารถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน จึงคาราคาซังมาถึงรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน โดยเบื้องต้นได้มีทีมเจรจาจากฝ่ายรัฐบาลเศรษฐา รวมทั้งเอกชนผู้ได้สัมปทาน ซึ่งเป็นบริษัทในเครือซีพี - ผู้บริหารอีอีซี - ผู้บริหาร รฟท. มีการเจรจาหารือนอกรอบกันไปบ้างแล้ว ว่าปัญหาของโครงการดังกล่าวที่ยังล่าช้ามีอะไร ตรงไหนบ้าง?
1. ไม่มีเงิน? 2. ไม่มีสถาบันการเงินสนับสนุน? 3. จะเลิกสัญญาโครงการนี้หรือไม่?
โดยคำตอบที่ได้รับจากผู้สัมปทานโครงการดังกล่าว คือ ในข้อ 3 ยืนยันว่า จะทำต่อ ยังไม่ขอเลิกสัญญา
ขณะเดียวกันก็ยังไม่มีคำตอบในข้อ 1 และข้อ 2 ออกมาอย่างชัดเจน จึงต้องมีการเจรจาพูดคุยกันอีกต่อไป เนื่องจากรัฐบาลเศรษฐาต้องการให้เมกะโปรเจคต์ต่างๆ เดินหน้า ตรงไหนมีปัญหารีบบอกว่า เพื่อจะได้หาทางออก หรือหาทางช่วยแก้ไขให้
แต่ไม่ใช่ว่า จะให้รัฐบาลเศรษฐาโอนอ่อนอนุมัติให้แบ่งจ่ายค่าสิทธิ์แอร์พอร์ตลิงก์ 7 งวด แต่ได้เพิ่มค่าบวกดอกเบี้ยและค่าเสียโอกาสให้ รฟท. เข้ามาอีกแค่ 1,060 ล้านบาท รัฐบาลเศรษฐาไม่เอาด้วยอย่างแน่นอน เพราะจะมีข้อครหาตามมาว่า “แก้สัญญา” เอื้อประโยชน์ให้กับภาคเอกชน และปลายทาง คือ “คุก”
ระดับ “ซูเปอร์ พาวเวอร์” อย่าง พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่กล้าไฟเขียวเลย! แล้วนายเศรษฐาจะสุ่มสี่สุ่มห้า ไปได้อย่างไรเล่าเจ้าสัว!!
เสือออนไลน์
หมายเหตุ: อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม..
เนตรทิพย์: Special Report
จับตาแก้สัญญา “ไฮสปีดเทรน 3 สนามบิน” ทิ้งทวน! - เปิดทางทุนใหญ่จับเสือมือเปล่าแทนระดมทุนเอง - ขณะที่รถไฟไทย-จีนของตนเอง อืดเป็นเรือเกลือ 5 ปี คืบ 10%
http://www.natethip.com/news.php?id=6360