กลเกมการเมืองนับจากนี้ “ก้าวไกล” จำต้องเดินเกมอย่างรัดกุม? การไม่ถูก “ยุบพรรคฯ” รอบที่แล้ว ใช่ว่ารอบหน้า...จะโชคดีเสมอไป ดังนั้น หากเล่นเกมผิด! และวาง “หมากตัวสำคัญ” พลาด! ย่อมจะส่งผลเสียต่ออนาคตในภายหน้า การเล่นเกม “กินรวบ” 2 เก้าอี้ “ผู้นำฝ่ายค้าน – รองปธ.สภาฯ” หลัง “พิธิ ลิ้มเจริญรัตน์” ลาออกจากหัวหน้าพรรคฯ อาจได้ไม่คุ้มเสีย! เราเตือนคุณแล้ว???
………………………………
กรณีปม “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว! ประกาศขอ “ลาออก” จากความเป็น “หัวหน้าพรรคฯ” เมื่อ 15 กันยายน 2566 เพื่อเปิดทางให้พรรคฯ ได้สรรหา “หัวหน้าพรรคฯ คนใหม่” เพื่อจะได้ทำหน้าที่ “ผู้นำฝ่านค้าน” ในสภาผู้แทนราษฎร
แต่นั่นต้องแลกด้วย...การ “ลาออก” จากเก้าอี้ “รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1” ของ “หมออ๋อง - นายปดิพัทธ์ สันติภาดา” หรือไม่?....พรรคก้าวไกล ก็ต้องหาเรื่อง “ขับไล่เขา” ออกจากพรรคฯ ด้วยข้อหาบางประการ? เพื่อให้เจ้าตัว...ไปหาพรรคใหม่สังกัดภายใน 30 วัน
พรรคเป็นธรรม และพรรคไทยสร้างไทย คือ 2 พรรคพันธมิตร...มิตรแท้! ยามนี้...ที่เหลืออยู่
แต่หากเป็นจริง...หวยก็น่าจะไปออกที่...พรรคเป็นธรรม
แนวทางการวางหมากและเดินเกมในทางการเมืองของพรรคก้าวไกล หนนี้ หลายเสียงมองว่า...“มาเหนือเมฆ” แต่จะเหนือเมฆจริงไหม? “สำนักข่าวเนตรทิพย์” ชวนผู้อ่าน...ลองมาวิเคราะห์กันดู!
ต้องอย่าลืมว่า....ต้นทุนทางสังคมของพรรคก้าวไกล ยามนี้ มี “เหนือ” กว่าทุกพรรคการเมืองในประเทศไทย ดังนั้น หากพรรคที่มีต้นทุนทางสังคมที่สูง กลับจะมีพฤติกรรม “ตรงกันข้าม!” ในลักษณะ... “แยกกันเดิน ร่วมกันตี” เพียงหวังจะ “กินรวบ” 2 บทบาท ทั้ง...ผู้นำฝ่ายค้าน และรองประธานสภาฯ อย่างนี้...
คิดหรือว่า...พรรคก้าวไกล และคณะกรรมการบริหารชุดใหม่? จะไม่ถูกตั้งคำถามถึง...จริยธรรมทางการเมือง
แม้ว่า “สมชัย ศรีสุทธิยากร” อดีต กกต. และอดีตนักการเมือง จะผันตัวเองไปเป็นนักวิชาการและคนวิเคราะห์การเมืองอยู่วงนอก จะแสดงอาการชื่นชมในสิ่งที่ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” และพรรคก้าวไกล กำลังทำสิ่งนี้อยู่ แล้วยังบอกด้วยว่า...มาเหนือเมฆ!
แต่กับอีกมุมที่ “จตุพร พรหมพันธุ์” อดีตแกนนำคนเสื้อแดง ที่ปัจจุบัน “ตั้งหน้าตั้งตา...วิพากษ์วิจารณ์” รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ได้วิเคราะห์สะท้อนปมปัญหาออกมา ก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อยเช่นกัน...
สิ่งที่ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” และพรรคก้าวไกล กำลังทำอยู่นั้น ตอบคำถามสังคมไทยได้หรือไม่ว่า...จริยธรรมทางการเมืองของตนอยู่ตรงไหน?
คิดหรือว่า...การกระทำในลักษณะเช่นนี้ สังคมการเมืองไทยจะรับกันได้!!!
“จตุพร พรหมพันธุ์” ยังได้ถามกลับ! จำเป็นแค่ไหน? ที่พรรคก้าวไกล...จะต้องมีเก้าอี้ รองประธานสภาฯ อยู่ในมือ! ในเมื่อพรรคตัวเอง...ก็มี สส.มากสุด และครองเก้าอี้ “ประธาน กมธ.” มากสุดในสภาผู้แทนราษฎรอยู่แล้ว
แน่ใจหรือว่า...มันจะได้คุ้มเสีย! ในเมื่อการเลือกตั้งครั้งหน้า...มีโอกาสสูงที่ พรรคก้าวไกล จะกวาด สส. มากสุดในสภาฯ อย่างไม่ต้องสงสัย?
น่าสนใจกับการข้อสังเกตในเหตุผลนี้ ของ...“จตุพร พรหมพันธุ์”
ก่อนจะไปต่อ...ลองย้อนกลับไปดูเหตุผลการลาออกของ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” กันก่อน...
เขาโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า... “เรียนสมาชิกพรรคก้าวไกลทุกท่าน และพี่น้องประชาชนผู้ทรงอำนาจสูงสุดในประเทศ แม้วันนี้เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า พรรคก้าวไกลต้องเดินหน้าสู่การทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนในฐานะ “ฝ่ายค้าน” ที่มีเสียงมากที่สุดเป็นอันดับ 1
แต่ในเมื่อรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันกำหนดให้ “ผู้นำฝ่ายค้าน” จำเป็นต้องเป็น สส. ที่ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคของพรรคฝ่ายค้านอันดับ 1 และปัจจุบันผมยังอยู่ภายใต้คำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญที่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ สส. ผมจึงยังไม่สามารถเข้าไปทำงานในสภาผู้แทนราษราษฎร และไม่สามารถจะดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านได้ในระยะเวลาอันใกล้
ขณะเดียวกัน ผมได้หารือกับคณะกรรมการบริหาร และ สส. ของพรรคก้าวไกลแล้วเห็นว่า บทบาท “ผู้นำฝ่ายค้าน” มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อระบบรัฐสภา และสมควรเป็นบทบาทที่รับผิดชอบโดยหัวหน้าพรรคของพรรคฝ่ายค้านหลักในสภาฯ ซึ่งตอนนี้คือพรรคก้าวไกล “ผู้นำฝ่ายค้าน” จะเปรียบเสมือนหัวเรือที่กำกับทิศทางการทำหน้าที่ในสภาฯ ของฝ่ายค้าน เพื่อตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาลและผลักดันวาระการเปลี่ยนแปลงที่ยังตกหล่นจากนโยบายของรัฐบาลให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
ดังนั้น ผมจึงตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคก้าวไกล ณ ขณะนี้ เพื่อเปิดทางให้พรรคเลือก สส. ที่สามารถทำหน้าที่ “ผู้นำฝ่ายค้าน” ในสภาฯ ขึ้นมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคแทนที่ผม
ผมขอยืนยันกับทุกท่านว่า ไม่ว่าสถานะของผมจะเป็นอย่างไร ผมไม่ได้หายไปไหน แต่จะยังคงทำงานร่วมกับพรรคก้าวไกลและพี่น้องประชาชนอย่างสุดกำลังและสุดความสามารถเพื่อขับเคลื่อนวาระการเปลี่ยนแปลงที่เราปรารถนาร่วมกัน
แล้วในวันที่ 24 กันยายนนี้ ผมขอเชิญสมาชิกพรรคก้าวไกลมาพบกันอีกครั้งครับ ในงาน “ก้าวต่อไป ก้าวไกลทั้งแผ่นดิน” ณ อาคารกีฬาเวสน์ 1 เขตดินแดง กรุงเทพฯ เพื่อมุ่งหน้าสู่การสร้างพรรคการเมืองที่เข้มแข็งของพวกเราไปด้วยกัน
ด้วยความเคารพในอำนาจของประชาชน”
ชัดเจน! “พิธา ลิ้มตระกูลรัตน์” ลาออกจากความเป็น “หัวหน้าพรรคก้าวไกล” แน่ๆ!
และสิ่งนี้...มีผลไปถึงการ “สิ้นสภาพ” ของคณะกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ทุกคน...ล้วนต้องสิ้นสภาพและอยู่ในสถานะ “รักษาการ” ตำแหน่งเดิมของตัวเอง
ใครจะขึ้นมาแทนที่? จะเป็น... "ต๋อม - ชัยธวัช ตุลาธน" เลขาธิการพรรคฯ ที่ว่ากันว่า...น่าจะเป็น "ตัวเต็ง" หรือ "ไหม - ศิริกัญญา ตันสกุล" สส.บัญชีรายชื่อ และรักษาการรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่เจ้าตัว...ก็เห็นว่า... "ต๋อม – ชัยธวัช” มีความเหมาะสมมากสุด!
ความเหมาะสมที่ว่านี้...ย่อมต้องมี “นัยสำคัญ” ต่อการเดินเกมการเมือง! นับจากนี้ไป...อีกด้วย
ระหว่างการการสรรหา...หัวหน้าพรรคฯ และกรรมการบริหารพรรคฯชุดใหม่ อ่าจถูก “โรคแทรกซ้อน” จากสภาวะการณ์แห่งความเปลี่ยนแปลงในทางการเมืองแบบไม่คาดฝัน ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น...
เกิดขึ้นได้เสมอและตลอดเวลา!!!
แค่ยกล่าสุด! ที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย...ยกคำร้องยุบพรรคก้าวไกล ในรอบนี้ ก็ใช่ว่า...คำร้องใหม่และคำวินิจฉัยรอบหน้า ยังจะเป็นคุณต่อพรรคก้าวไกลและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่เสมอไป!
ในเมื่อพวกคุณ ถูกมองว่าเป็น..."ตัวอันตราย" ต่อกลุ่มอำนาจเก่า! ที่พยายามจะยื้อและซื้อเวลา...“สายลมแห่งความเปลี่ยนแปลง” ออกไปให้นานมากที่สุด! เท่าที่จะทำได้...
วันนี้...ที่ยังไม่ถูก “เล่นถึงตาย” ในทางการเมือง...ใช่ว่า วันข้างหน้าจะไม่โดนเล่นหนัก...จัดเต็ม!
สถานการณ์ยามนี้...ถือว่า ทั้ง “พิธา ลิ้มตระกูลรัตน์” และพรรคก้าวไกล ยังมีปม...มีเคสท์ให้ต้องลุ้นกันต่อ? โดยเฉพาะเรื่องที่ยังคาราคาซัง และทำให้ “อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล” หมาดๆ ถูกเว้นวรรคความเป็น สส. จากเหตุ...การถือหุ้นสื่อ
ถ้าวันข้างหน้า...ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยออกมาว่า.... “พิธา ลิ้มตระกูลรัตน์” ถือหุ้นสื่อจริง! ทำให้ขาดคุณสมบัติในการเป็น “ผู้สมัคร สส.” ตั้งแต่ต้น จะกระทบสถานภาพควาทเป็น “หัวหน้าพรรคฯ” ไปด้วยหรือไม่?
หากไม่...ก็ดีไป? แต่ในทางกลับกัน! สิ่งนั้น...ได้ส่งผลกระทบต่อสถานภาพความเป็น “หัวหน้าพรรคฯ” แล้วที่ “พิธา ลิ้มตระกูลรัตน์” ได้เซ็นต์รับรองผู้สมัคร สส.ของพรรคก้าวไกล เมื่อคราวเลือกตั้งใหญ่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา จำจะต้องเป็น “โมฆะ” ด้วยไหม?
ถ้าใช่....สส.ทั้งหมด 150 คนเศษ จะต้องสิ้นสภาพหรือไม่?
และถ้าใช่อีก! คราวนี้...คนไทยในพื้นที่ สส.เขตเลือกตั้งของพรรคก้าวไกล ก็จะต้องเลือกตั้งซ่อมกันใหม่…
ต่อให้ได้ สส.เขตเลือกตั้ง กลับมาครบ “ร้อยเปอร์เซ็นต์” 112 ที่นั่ง แต่ก็จะไม่เหลือ ส.ส.บัญชีรายชื่อ สักคน นั่นก็หมายความว่า...จำนวน สส.ในสภาฯของพรรคก้าวไกล อาจต้องลดลงไปเท่ากับจำนวน สส.บัญชีรายชื่อ 39 คนที่หลุดมือ!
แต่ “ไฮไลท์” ของเรื่องจริงๆ จะโฟกัสไปอยู่กับการที่อาจจะถูก “ยุบพรรค!” ตามมาก็เป็นได้
ดังนั้น “สำนักข่าวเนตรทิพย์” จึงขอชี้ชัดว่า...การสรรหา กก.บก.ชุดใหม่ของพรรคก้าวไกล ที่จะมีขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์หน้า หรือวันเสาร์ที่ 23 ก.ย. 2566 นี้...ย่อมมีผลต่อการวาง “กลเกม” ในทางการเมืองนับจากนี้อย่างที่สุด!
การจะเอา “ตัวจริง” มาเล่นหมดหน้าตัก! อาจสุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสีย “หมากตัวสำคัญ” ระดับ...ขุน โคน เรือ และม้า ในทางการเมือง หากต้องประสบชะตากรรม “ยุบพรรคฯ” และถูกสั่ง “เว้นวรรค” ในทางการเมือง ตามมา...
ไม่ว่าจะเป็น..."ต๋อม – ชัยธวัช” หรือ "ไหม – ศิริกัญญา” แม้กระทั่ง “ณัฐวุฒิ บัวประทุม” รองหัวหน้าพรรคฯ ที่คุมกฎของพรรคฯ ในฐานะคณะกรรมการวินัย และจรรยาบรรณสมาชิกพรรคก้าวไกล
ไม่ว่าจะเป็นใคร? ก็เสี่ยงต่อการจะ “เสียของดี” ทั้งนั้น
ดังนั้น...คงต้องเลือก “หมากตัวสำคัญ” ระดับรองๆ ที่จะไม่ส่งผลกระทบต่อพรรคฯมากนัก หากเกิด “อุบัติเหตุ” ในทางการเมืองขึ้นมาอีกครั้ง!!!
กลับไปว่ากันต่อ....ประเด็น หัวหน้าพรรคก้าวไกล กับบทบาท “ผู้นำฝ่ายค้าน” ที่อาจจะต้องมี “ผู้เสียสละ” รับหน้าเสื่อกับตำแหน่งนี้ไปพลางๆ ก่อน โดยเลือก “มือรอง” มาเล่นกันต่อ! แม้จะเป็นการ “ขัดตาทัพ” ก็ตามที
ตรงนี้...พรรคก้าวไกล หวังผลต่อสถานะ “ผู้นำฝ่ายค้าน” ในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งดูแล้ว...ก็ไม่น่าจะกระทบต่อ “จริยธรรม” ในทางการเมือง และถือว่า...ตรงไปตรงมา
แต่การจะ “ขับไล่ – หมออ๋อง” พ้นจากพรรคฯ จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม? เพื่อให้เจ้าตัวได้ย้ายไปร่วมงานกับพรรคใหม่ เพื่อจะได้ “ครองเก้าอี้” รองประธานสภาฯ ต่อไปนั้น...
ตรงนี้ ต้องคิดให้มากและคิดให้หนัก...
ข้อหา...สมรู้ร่วมคิด เล่นการเมือง เพียงหวังแค่การครอง “2 เก้าอี้”...ผู้นำฝ่ายค้าน และรองประธานสภาฯ ไม่หนีไปจาก “ขี้ปาก” ของฝั่งตรงข้ามแน่!
แล้วสิ่งนี้...จะถูกโยงไปถึง “จริยธรรม” ทางการเมืองของเหล่าเทพ “ก้าวไกล” อย่างไม่ต้องสงสัย?
แม้ พรรคก้าวไกล และ “หมออ๋อง” มีสิทธิจะทำเยี่ยงนี้ได้ แต่ก็ต้องแลกมากับการถูกค่อนแคะ เยาะเย้ย และถากถาง จาก...พรรคการเมือง นักวิชาการ สื่อเลือกข้าง และด้อมต่างสี อย่างแน่นอน
ตรงนี้...พรรคก้าวไกล และ “หมออ๋อง” รวมถึง สมาชิกพรรคฯ และ “ด้อมส้ม” รวมกันเกือบ 30 ล้านคน...จะรับกันได้หรือไม่? แค่ไหน?
คิดให้ดี...จะได้คุ้มเสียหรือเปล่า!!!.