ย้อนข่าวเก่า เมื่อวันที่ 31 มี.ค.66 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีต รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีนักวิชาการให้สัมภาษณ์ถึงเหตุผลที่พรรคเพื่อไทย ต้อนรับกลุ่มสามมิตรอย่างอบอุ่น อาจเป็นเพราะช่วยแก้กฎกระทรวงเพื่อรองรับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ต้องติดคุกในเรือนจำว่าเป็นการเข้าใจคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง คำสัมภาษณ์มีความพยายามจะเชื่อมโยงให้เห็นว่าตนเป็นคนออกกฎกระทรวงที่รองรับนายทักษิณ ให้ไม่ต้องติดคุกในเรือนจำ แต่อาจใช้สถานคุมขังอื่นตามกฎกระทรวง เช่น บ้านพัก หรือ โรงพยาบาล
แต่ข้อเท็จจริง
พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ ปี 2560 เริ่มร่างเมื่อปี 2558 เพื่อปฏิรูปงานราชทัณฑ์ ด้วยการยกเลิก พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ ปี 2479 ซึ่งใช้มา 80 ปี โดยขณะนั้น นายสมศักดิ์ยังไม่ได้ดำรงตำแหน่ง รมว.ยุติธรรม แต่เข้ามาเมื่อปี 2562
ส่วนการออกกฎกระทรวงใหม่ ก็เป็นขั้นตอนสืบเนื่องจากการออก พ.ร.บ. เมื่อประกาศใช้ ปี 2560 ส่วนราชการเจ้าของกฎหมาย ก็ต้องยกร่างกฎกระทรวงใหม่ โดยได้เริ่มยกร่างมาตั้งแต่ พ.ร.บ.ยังไม่ประกาศใช้ ซึ่งใช้เวลาทั้งหมด 3 ปี จากกรมราชทัณฑ์ ไปกระทรวง ส่งเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ส่งไปให้กฤษฎีกาตรวจร่าง แล้วถึงส่งคืนมาให้ รมว.ยุติธรรม ลงนาม ในปี 2563
ส่วนที่มีการกำหนดสถานที่อื่นที่ไม่ใช่เรือนจำนั้น เจตนาของกฎหมาย เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ต้องขังบางประเภท ที่ไม่จำเป็นต้องอยู่ในเรือนจำ อันเป็นเหตุผลทางด้านมนุษยธรรม และทางด้านการปกครองเรือนจำเป็นสำคัญ เช่น ผู้ต้องโทษระยะสั้น ผู้ใกล้จะพ้นโทษ ผู้ป่วย แต่ไม่ใช่นักโทษเข้าใหม่แต่อย่างใด
ซึ่งจะเห็นได้ว่า ขั้นตอนการดำเนินการทั้งหมด ได้เริ่มมาตั้งแต่ปี 2560 ก่อนที่นายสมศักดิ์จะเข้ามารับตำแหน่ง ดังนั้นการอธิบายความเชื่อมโยงก็เป็นการสร้างความเข้าใจที่คาดเคลื่อน รวมถึงนายทักษิณก็เพิ่งประกาศว่าจะกลับประเทศไทย ดังนั้น เป็นไปไม่ได้ที่กล่าวหาว่า มีการดีไซด์เรื่องนี้ ตั้งแต่ปี 2560 เพื่อรองรับนายทักษิณ
“เรื่องนี้ เป็นการกล่าวหาแบบไม่ตรงเหตุและผล ซึ่งปกติ ผมจะไม่ค่อยออกมาตอบโต้ แต่ด้วยเป็นการสร้างความเข้าใจที่ผิด ให้แก่ข้าราชการกระทรวงยุติธรรม ที่มีความตั้งใจแก้กฎหมาย โดยเรื่องนี้ แค่ดูปี พ.ศ.ที่ออก พ.ร.บ. ก็ไม่ใช่ยุคผมเป็นรัฐมนตรีแล้ว ดังนั้นจะมาชี้นำว่า ผมเป็นคนช่วยแก้กฎหมาย เพื่อรองรับคุณทักษิณ จึงเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งการแก้ไขกฎหมาย ไม่สามารถทำตามอำเภอใจ ของรัฐมนตรีได้ เพราะจะมีกลไกการตรวจสอบ ตั้งแต่การยกร่าง ครม. กฤษฎีกา และสภาฯ โดยการนำเรื่องมาผูกโยงเองแบบนี้ ทำให้พี่น้องประชาชน เข้าใจผมผิด ซึ่งตลอดเวลาที่นั่งเก้าอี้ รมว.ยุติธรรม ผมทำแต่เรื่องที่เป็นประโยชน์กับประชาชน จนผู้ใหญ่ในบ้านเมืองยกให้กระทรวงยุติธรรมในยุคผม จากเกรดซี มาเป็นเกรดเอ เพราะมีหลายโครงการที่ได้ช่วยเหลือประชาชนอย่างแท้จริง” นายสมศักดิ์ กล่าว
“เสือออนไลน์” ทราบข้อมูลระเบียบ-กฎหมายการควบคุมตัวผู้ต้องขังไว้นอกเรือนจำ โดยเฉพาะคนที่อายุ 70 ปี ขึ้นไป อยู่ในวัยเจ็บป่วยต้องพบแพทย์ตลอดเวลา ไม่ได้มีแค่นายทักษิณคนเดียว แต่มีเป็นหมื่นๆ คน ที่จะได้รับอานิสงส์ตรงนี้ เพราะปัญหาการเจ็บป่วยของผู้ต้องขังอายุเกิน 70 ปี เป็นภาระใหญ่ของกรมราชทัณฑ์ที่จะต้องดูแล ต้องเสียทั้งบุคลากร และงบประมาณปีละจำนวนมาก
ขณะเดียวกันในสากลเขาใช้ระเบียบการคุมขังนอกเรือนจำกันหลายประเทศตามหลักมนุษยธรรม แล้วนับประสาอะไรจะมาโวยวายกับคนชื่อ “ทักษิณ” ซึ่งอายุ 74 ปี มีโอกาสเจ็บป่วย และการต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ตลอดเวลา
ดังนั้น คนบางกลุ่มจะไปละเมิดกฎระเบียบกรมราชทัณฑ์ ละเมิดความเจ็บป่วยของผู้สูงอายุ และละเมิดความเห็นของแพทย์กันไปเพื่ออะไรไม่ทราบ!
อย่าลืมสิ! มีการรัฐประหารในปี 49 และปี 57 เพื่อโค่นอำนาจ “ทักษิณ” และเครือข่ายที่ชนะการเลือกตั้งเข้ามาอย่างถล่มทลาย สร้างผลงานเป็นที่ถูกใจประชาชาชนหลายโครงการ เช่น บัตรทอง (30 บาทรักษาทุกโรค) – กองทุนหมู่บ้าน – โอทอป – หวยบนดิน – 1 ทุน 1 อำเภอ ไปเรียนต่างประเทศ
เมื่อใช้ทหารยึดอำนาจแล้ว กลัวจะโค่น “ทักษิณ” ไม่ลง! จึงแต่งตั้งคนเข้ามาตามเช็คบิลเอาผิดทักษิณหลายคดี ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) รวมทั้งตั้งคนเข้าไปเป็น ป.ป.ช. มีใครบ้างไปเช็คชื่อย้อนหลังได้เลยทั้ง คตส. - ป.ป.ช.
“ทักษิณ” ต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศนานถึง 15 ปี เพราะเขาไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมที่เกิดขึ้นหลังรัฐประหาร แล้วตลอด 15 ปีที่ผ่านมา คนไทยอีกไม่น้อยก็ไม่ได้รับความยุติธรรม จากปัญหานิติรัฐ นิติธรรม 2 มาตรฐาน มีทั้งม็อบมีเส้น ม็อบไม่มีเส้น ไหนจะคดีปิดสนามบินดอนเมือง - สนามบินสุวรรณภูมิ ผ่านไปกว่า 10 ปีแล้ว ยังไม่ได้ตัดสินเลย! คดีแหวนแม่ - นาฬิกาเพื่อน คดีจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด (จีที 200) มีอดีต ผบ.ทบ. 2-3 คนเกี่ยวข้องด้วยเต็มๆ แต่กลับไม่ระคายผิวเลย!
หลังรัฐประหารปี 49 จนถึงปัจจุบัน มีการพูดถึง “นิรโทษกรรม” กันมาตลอดหลายรัฐบาล รวมทั้งรัฐบาลชุดที่แล้ว แต่ที่เป็นรูปธรรมที่สุดคือคนทำรัฐประหาร ฉีกรัฐธรรมนูญกฎหมายสูงสุดของประเทศ พาประเทศถอยหลังเข้าคลอง เศรษฐกิจไทยโตต่ำเตี้ย ตั้งแต่ปี 49-57 นิรโทษกรรมให้ตัวเองได้สำเร็จก่อนใครเพื่อน!
มาถึงรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน มีการพูดเรื่องนิรโทษกรรมกันอีกแล้ว เพื่อให้เกิดความสามัคคีปรองดองของคนในชาติที่แตกแยกกันมากว่า 10 ปี
ถ้าจะพูดเรื่องนิรโทษกรรมเพื่อสามัคคีปรองดอง แล้วไม่ให้เอ่ยถึง “ทักษิณ” จึงเป็นไปไม่ได้เลย เพราะตราบใดที่คนทำรัฐประหาร ฉีกรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต แต่กลับไม่ติดคุก! ดังนั้นคนถูกทำรัฐประหาร ถูกดำเนินคดีแบบพิลึกกึกกือ ก็ไม่ควรติดคุก!
เสือออนไลน์