ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจพรรคเพื่อไทย โพสต์ระบุว่า ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตั้งคำถามถึงธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และนโยบายการเงิน 6 ประเด็น ดังนี้1. ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ติดลบ 14 เดือนติด สัญญาณอันตรายภาคการผลิตของประเทศ และยอดขายรถเชิงพาณิชย์ ตัววัดสำคัญของการลงทุน ติดลบ 4 ไตรมาสติด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะนโยบายการเงินที่ผ่านมา เพิ่มต้นทุนการเงินเอกชน เป็นลบต่อการลงทุนในวงกว้าง หรือไม่2. ในขณะที่เอกชนต้องการสินเชื่อเพื่อฟื้นตัว แต่สินเชื่อธนาคารพาณิชย์ (ดูแลโดย ธปท.) ล่าสุด หดตัวราว 0.9% YoY ในขณะที่ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ (ดูแลโดย ก.คลัง) โตราว 3.8% ในช่วงเดียวกัน ใช่หรือไม่ สะท้อนอะไร ธปท.ในฐานะผู้กำกับดูแล ควรมีการปรับในเชิงนโยบายหรือไม่3. งบประมาณล่าช้า เศรษฐกิจไร้แรงขับ รายจ่ายลงทุนต้นปีงบ 67 เดือน ต.ค. ติดลบ 45% และ พ.ย. ติดลบ 75% YoY และจะเป็นอย่างนี้ทุกเดือนจนงบ 67 บังคับใช้ ท่านเห็นความอันตรายของภาวะนี้ไหม นโยบายการเงินควรมีการปรับตัว เพื่อเข้าช่วยในช่วงที่มาตรการทางการคลังติดขัดนี้ หรือไม่ อย่างไร4. ประมาณการเศรษฐกิจในปี 66 จากต้นปีสู่ปลายปีคลาดเคลื่อนสูง ประเมินความร้อนแรงของเศรษฐกิจ สูงเกินจริง นำสู่นโยบายการเงินที่ไม่สะท้อนสภาวการณ์หรือไม่ และภาวะเงินเฟ้อติดลบ หลุดกรอบต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะนโยบายการเงินนั้น หรือไม่5. นอกจากตัวเลขมหภาค ต้องมองเศรษฐกิจภาคประชาชนด้วย รายได้ประชาชนโต 7.86% แต่รายจ่ายโต 12.7% ชี้ชัดภาวะ รายจ่ายโตเร็วกว่ารายได้ นั่นคือหนี้สินที่เพิ่มขึ้น แต่นโยบายการเงินที่ผ่านมา ดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ซ้ำเติมหนี้สิน และความเดือดร้อนของประชาชน หรือไม่6. นโยบายการคลัง (รัฐบาล) และนโยบายการเงิน (ธปท.) ควรสอดประสานกันหรือไม่ ปัจจุบันรัฐบาลเห็นความจำเป็นในการกดคันเร่งนโยบายการคลัง (ซึ่ง Digital Wallet เป็นหนึ่งในนั้น) แต่นโยบายการเงินยังคงอยู่ในช่วงการกดเบรกหรือไม่ และการขับรถคันเดียวกัน ขาหนึ่งกดคันเร่ง ขาหนึ่งกดเบรก พร้อมกัน รถจะพังหรือไม่ ประเทศจะมีปัญหาหรือไม่?