การเปิดตัว “มนตรี แสนเวียงจันทร์” ที่สร้างตัวขึ้นมาจากกรรมกรก่อสร้าง-เด็กแย่งข้าวหมา สู่นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 4 พันล้าน แถมยังจุดพลุบ้านแนวใหม่ “แสนมณี อะคีระ” บ้านเช่าอารมณ์คอนโดที่เอาใจรากหญ้าสุดๆ เป็นการเดินหมากของ “ก้าวไกล” ที่มีเป้าหมาย ไม่ใช่แค่ตัวแทนผู้คนรากหญ้าเท่านั้น
แต่นี่คือ ก้าวสำคัญของการพลิกโฉมพัฒนาเมืองชลบุรีที่ทุกคนถวิลหา!
…
ทันทีที่ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ประธานคณะก้าวหน้า เปิดตัว “มนตรี แสนเวียงจันทร์” นักธุรกิจอสังหาฯ 4 พันล้าน ที่ตัดสินใจกระโจนสู่สนามการเมืองท้องถิ่นในการเลือกตั้งซ่อมสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (สจ.) ชลบุรี ในเขต 5 (ต.บึง และต.บ่อวิน) ของอำเภอศรีราชา โดย กกต.กำหนดวันเลือกตั้งซ่อมเอาไว้ในวันอาทิตย์ที่ 2 มิ.ย. 2567 นี้
ท่ามกลางกระแสวิพากษ์กันอย่างกว้างขวางในจังหวัดชลบุรี เหตใดสมาชิก อบจ.คนเก่า “สจ.ระ - นายรุจิภาส ทรัพยา” จากคณะก้าวหน้า จึงยอมลาออกจากตำแหน่งเพื่อเปิดทางให้มีการเลือกตั้งซ่อม ทั้งที่สมาชิกสภา อบจ.ชลบุรี จะหมดวาระลงในวันที่ 20 ธ.ค.67 นี้ โดยที่เหลือเวลาการทำงานอีกเพียง 7-8 เดือนเท่านั้น
เป็นการเลือกตั้งซ่อมที่แฝงไปด้วยนัยทางการเมือง เพื่อเดินหมากครั้งใหญ่ของคณะก้าวหน้าหรือไม่ เพราะบุคคลที่ “ธนาธร” เลือกเปิดตัวเพื่อเข้ามาทำหน้าที่ “ว่าที่ ส.อบจ.คนใหม่” แทน “สจ.ระ” คือ “มนตรี แสนเวียงจันทร์” นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของชลบุรีนั้น แทบจะเรียกได้ว่า เป็นคนโนเนมในพื้นที่ การที่ “สจ.ระ” ถึงกับยอมเปิดทางให้เขาไต่บันไดเช่นนี้ จึงไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่
สนามเลือกตั้งซ่อม สมาชิกสภา อบจ.ชลบุรีครั้งนี้ จึงเป็น “บันไดไต่ดาว” สู่เป้าหมายการช่วงชิง “นายกฯ อบจ.ชลบุรี” ที่เคยเป็นพื้นที่ของ “บ้านใหญ่” แห่งเมืองชลมาตลอดศกนั่นเอง!
เหตุใดและทำไมธนาธรจึงเลือก “มนตรี แสนเวียงจันทร์” เป็นหัวหมู่ทะลวงฟันของคณะก้าวหน้า และ “พรรคก้าวไกล” ที่จะปักธงสนามเลือกตั้งท้องถิ่นแห่งนี้
หากย้อนไปรับฟังเหตุผลของการเลือก “มนตรี แสนเวียงจันทร์” เป็นตัวแทนคณะก้าวหน้าที่ “ธนาธร” ลงทุนทาบทามให้เข้ามาเป็นหัวหอกในการทำการเมืองท้องถิ่นของชลบุรีในอนาคตแล้ว เขาคือนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แถวหน้าของชลบุรีเลยก็ว่าได้ เพราะในระยะ 10 ปีที่ผ่านมา ชื่อเสียงของมนตรี และ “บ้านแสนมณี พานทอง” ที่มีนับ 10 โครงการนั้น กล่าวได้ว่า นี่คือหลักประกันความสำเร็จได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่า “ไม่มีใคร ไม่รู้จักชื่อนี้”
“มนตรี แสนเวียงจันทร์” นั้น คือตัวแทนของคนระดับรากหญ้าอย่างแท้จริง ด้วยประวัติของเขานั้น ผ่านชีวิตสุดรันทดในวัยเด็กด้วยต้นทุนที่เรียกได้ว่าต่ำกว่าศูนย์ (0) เลยก็ว่าได้ จากเด็กน้อยจากจังหวัดชายแดนสระแก้ว ที่เรียนจบเพียง ม.6 แล้วต้องทิ้งการเรียนทั้งหมดเมื่อคุณพ่อที่เป็นเสาหลักของครอบครัวมาจากไป ทำให้เขาต้องระหกระเหินเข้ากรุงเทพฯ เพื่อแสวงหาโอกาส หวังจะเข้ามาเป็นกรรมกรที่ท่าเรือ แต่จับผลัดจับผลูกลายไปเป็นแรงงานบริษัทก่อสร้างยักษ์ “ซิโน-ไทยเอ็นจิเนียริ่ง” จนสามารถก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาเป็นผู้รับเหมาเล็ก ๆ ได้
ก่อนจะเผชิญพิษเศรษฐกิจต้มยำกุ้งเมื่อปี 2540 ที่ทำให้ไม่หลงเหลืออะไร ต้องข้ามฝั่งไปหากินอยู่ในกัมพูชา แต่สุดท้ายต้องกลับมาด้วยมือเปล่าไม่ได้อะไรเลย ต้องหวนกลับมาก่อสร่างสร้างตนเองจากการเป็นผู้รับเหมาทำรั้ววัด ศาลา หากินกับวัด จนกระทั่งมีโอกาสเข้าไปรับเหมาช่วงทำโครงการจัดสรร ก่อนจะเรียนรู้ช่องทางผุดโครงการของตนเองขึ้นมา กลายมาเป็นอาณาจักร “แสนมณี พร็อพเพอร์ตี้” ที่มีโครงการจัดสรรอยู่นับ 10 โครงการแถวพานทอง ชลบุรี ไปจนถึงบางเสร่
อย่างไรก็ตาม แม้ “มนตรี” จะประสบผลสำเร็จในด้านธุรกิจ เป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แถวหน้าของจังหวัดชลบุรี ที่มีโครงการบ้านแสนมณีอยู่นับ 10 โครงการ และเจ้าตัวยังมีรายชื่อจะไปเป็นแคนดิเดต ลงชิงนายก อบจ.ชลบุรี ในนามพรรคก้าวไกล
แต่เนื่องจาก “มนตรี” มีวุฒิการศึกษาสูงสุด คือ มัธยมศึกษาตอนปลายเท่านั้น ขณะที่คุณสมบัติผู้สมัครนายก อบจ. ตาม พ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัดปี 2540 กำหนดไว้ผู้สมัครต้องมีวุฒิขั้นต่ำจบปริญญาตรี หรือต้องเคยเป็นสมาชิกสภาจังหวัด สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผู้บริหารท้องถิ่น หรือสมาชิกรัฐสภามาก่อน
ก็คงด้วยเหตุนี้ การดึง “มนตรี แสนเวียงจันทร์” เข้าสู่สนามเลือกตั้ง สมาชิกสภา อบจ.ชลบุรี ของคณะก้าวหน้าในครั้งนี้ จึงไม่ใช่เป็นไปเพียงเพื่อดึงสายเลือดใหม่เข้ามาเติมเต็มเท่านั้น แต่เป็นบันไดขั้นแรกของการกรุยทางไปสู่สนามเลือกตั้งใหญ่ “นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด” (อบจ.) ชลบุรี ที่จะครบวาระในปลายปีนี้นั่นเอง
แม้จะต้องเผชิญกับศึกใหญ่จาก “บ้านใหญ่” ชลบุรี ที่มี “วิทยา คุณปลื้ม” นายก อบจ.ชลบุรี หลายสมัย ในนามกลุ่มเรารักชลบุรี เป็นแม่ทัพใหญ่ แต่สำหรับกลุ่มก้าวหน้าและพรรคก้าวไกลแล้ว บทพิสูจน์ของสนามเลือกตั้งระดับชาติ ที่พรรคก้าวไกลกวาดเรียบ ส.ส.ชลบุรี ไปถึง 7 ที่นั่งจาก 10 ที่นั่งในการเลือกตั้งที่ผ่านมานั้น ย่อมทำให้ “บ้านใหญ่ชลบุรี” สะท้านไปไม่น้อย
#Montree Saenwiangchan