เรื่องของการเมืองแบบ “บ้านใหญ่” ตระกูลดังผู้กว้างขวางบารมีคับจังหวัด โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก ไล่เรียงจังหวัดได้เลย ตั้งแต่ชลบุรี สระแก้ว ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ลพบุรี ปทุมธานี นครปฐม เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ไม่ได้มีมนต์ขลังมากมายเหมือนในอดีต
แต่ขณะเดียวกันก็เสื่อมมนต์ขลังลงไปมาก!..
เนื่องจาก “บ้านใหญ่” ถูกลูกน้องที่เคยเป็นเครือข่าย แตกกระจายออกไปสร้าง “บ้านใหม่” ขึ้นมาทาบรัศมีบดบัง “บ้านใหญ่” กันไปแล้วหลายจังหวัด
นอกจาก “บ้านใหญ่-บ้านใหม่” ในปัจจุบันยังมี “บ้านคนรุ่นใหม่” เข้ามาร่วมการแข่งขันในสนามทางการเมืองด้วย เห็นได้จากการเลือกตั้ง สส. เมื่อเดือน พ.ค.66 บ้านคนรุ่นใหม่ได้สร้างปรากฎการณ์อันน่าสะพึงกลัวให้กับกลุ่มการเมืองเดิม ทั้ง “บ้านใหญ่-บ้านใหม่” ได้อย่างมากเลยทีเดียว จาก “กระแส” ล้วนๆ ที่ใม่ใช่ “กระสุน” นี่คือ..การเมืองในระดับชาติ
แต่การเมืองท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นสนามเลือกตั้งนายก อบจ. - นายกเทศมนตรี ยังไม่ใช่สนามของคนรุ่นใหม่ ด้วยสาเหตุจากหลายๆ ปัจจัย เช่น พื้นที่และฐานเสียงกว้างขวางกว่าระบบการเลือกตั้ง สส.เขต – เสียค่าใช้จ่ายมากกว่า – ต้องใช้กำลังคนและทรัพยากรมาก - แรงเบียดหรือแรงเสียดทานมากว่ากันหลายเท่า
ดังนั้น การเลือกตั้งนายก อบจ. - นายกเทศมนตรี จึงยังไม่ใช่สนามของพรรคก้าวไกล และพรรคก้าวไกลได้ทดลองมาแล้ว 2 จังหวัด ทั้งกาญจนบุรี-เลย แต่แพ้เรียบ!
พอมาถึงคิวนครสวรรค์ อ่างทอง ปทุมธานี พรรคก้าวไกลจึงตัดสินใจไม่ส่งคนลงแข่งขันด้วยดีกว่า!
โดยเฉพาะที่ปทุมธานี เที่ยวที่แล้วพรรคก้าวไกลกวาด สส. มา 6 คน (6เขตเลือกตั้ง) จากทั้งหมด 7 เขตเลือกตั้ง คือแบ่ง สส.ให้พรรคเพื่อไทยไปเพียงคนเดียวเท่านั้น
แต่พอมาถึงการเลือกตั้งนายก อบจ. ครอบคลุมพื้นที่ทั้งจังหวัด พรรคก้าวไกลประกาศชัดเจนไม่ส่งคนของตัวเองลงสมัคร และไม่ได้ให้การสนับสนุนใครทั้งสิ้น
คือ.. พรรคก้าวไกลที่มี สส.อยู่ 6 คน แต่ไม่ได้ส่งคนลงสู้ศึกนายก อบจ.ปทุมธานี และไม่ได้ให้การสนับสนุน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตนายก อบจ. ขณะเดียวกัน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ก็ไม่ได้พูดถึงพรรคก้าวไกลเลย!
ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น?..
แต่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ขอลงในนามอิสระไม่สังกัดพรรคไหน ก่อนจะพ่ายแพ้ให้กับ นายชาญ พวงเพ็ชร์ อดีตนายก อบจ.ปทุมธานี 3 สมัย ไปไม่ถึง 2,000 คะแนน
สำหรับนายชาญนั้น แน่นอนว่า มีครอบครัว “ชินวัตร” และแกนนำพรรคเพื่อไทย ประกาศให้การสนับสนุนอย่างชัดเจน
รวมทั้งอดีต สส.เพื่อไทย ในพื้นที่ปทุมธานีอีกหลายก๊วน ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่ม “บ้านใหม่” ได้ให้การสนับสนุนนายชาญกันอย่างเต็มที่อยู่แล้ว เพื่อต้องการโค่น พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ลงจากเก้าอี้นายก อบจ.ปทุมธานี แล้วก็ทำได้สำเร็จ!
แต่ชัยชนะที่ปทุมธานีของพลพรรคเพื่อไทย ใช่ว่าจะสำเร็จไปทุกจังหวัด เนื่องจากการสนามการเมืองท้องถิ่นมีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง
ที่สำคัญครอบครัว “ชินวัตร” ก็คงไม่บุ่มบ่าม ลงไปแบกหามผู้สมัครนายก อบจ.ทุกจังหวัด ที่คนของพรรคเพื่อไทยประสงค์ที่จะลงสู้ศึก แต่คงจะเลือกสนับสนุนเป็นรายจังหวัดมากกว่า เช่น เชียงใหม่ซึ่งเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรี และจังหวัดในภาคอีสาน ที่คนของเพื่อไทยมีโอกาสสอบได้มากกว่าสอบตก!
สนามการเมืองท้องถิ่น พลิกโฉมจาก “บ้านใหญ่” ไปสู่ “บ้านใหม่” ในหลายพื้นที่แล้ว! แต่ยังเป็นสนามที่ไม่พร้อมสำหรับคนรุ่นใหม่อย่างก้าวไกล
เสือออนไลน์