มุ่งขยายและปรับพอร์ตธุรกิจอย่างต่อเนื่อง พัฒนาห่วงโซ่ธุรกิจพลังงานที่ครอบคลุม จากต้นน้ำถึงปลายน้ำ แสวงหาโอกาสธุรกิจใหม่ เพื่อต่อยอดการเติบโตของบ้านปู และจัดสรรงบฯ ลงทุนธุรกิจในสหรัฐฯ กว่าร้อยละ 50 ของงบลงทุนในปีนี้!
…
ปี 2558 : บ้านปูเริ่มบุกเบิกธุรกิจก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ ปัจจุบันมีแหล่งก๊าซ 2 แหล่ง คือ แหล่งก๊าซบาร์เนตต์ (Barnett) และ แหล่งก๊าซมาร์เซลลัส (Marcellus) มีกำลังผลิตรวมกัน 860 ล้านลูกบาศก์ฟุตเทียบเท่าต่อวัน* ส่งผลให้บ้านปูก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านการผลิตก๊าซธรรมชาติ 20 อันดับแรกของสหรัฐฯ
ปี 2565 : ขยายสู่ธุรกิจผลิตไฟฟ้า ปัจจุบันมีโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ 2 แห่ง คือ Temple I และ Temple II โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม (Combined Cycle Gas Turbines: CCGT) กำลังการผลิตรวมกัน 1,523 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในเขตเหนือ ในเมืองเทมเพิล รัฐเท็กซัส
ปี 2566 : ก้าวสู่ธุรกิจค้าปลีกไฟฟ้า (Power Retail) จำหน่ายไฟฟ้าโดยตรงให้แก่ผู้บริโภครายย่อยในรัฐเท็กซัส ปัจจุบัน มีลูกค้ารายย่อยกว่า 58,000 ราย
ปี 2566 : ต่อยอดโครงการ “ดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์” (Carbon Capture, Utilization and Sequestration: CCUS) ปัจจุบัน มี 2 โครงการ คือ Barnett Zero เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) แล้วในเดือนพฤศจิกายน ปี 2566 และโครงการ Cotton Cove ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนา นอกจากนี้ โครงการ CCUS ยังทำให้เกิดธุรกิจขาย “ก๊าซธรรมชาติที่มีคาร์บอนเป็นกลาง (Carbon-Sequestered Gas: CSG)” ซึ่งเป็นก๊าซธรรมชาติที่สามารถนำไปจำหน่ายในตลาดด้วยคุณภาพระดับพรีเมียม
ปี 2567 : เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Ponder Solar) ขนาด 2.5 เมกะวัตต์ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่แหล่งก๊าซบาร์เนตต์ รัฐเท็กซัส เป็นการจัดสรรพื้นที่ที่มีอยู่เดิมให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมเปิดประตูสู่ธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในสหรัฐฯ นอกจากนี้ บ้านปูยังมองหาโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจพลังงานอื่น ๆ เช่น การขยายธุรกิจสู่โครงการแบตเตอรี่และระบบกักเก็บพลังงาน (Battery & Energy Storage System: BESS) เป็นต้น
หมายเหตุ: *ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566
อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ : https://bitly.cx/pvAt