กลุ่มดุสิตธานีเดินหน้าขยายธุรกิจทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเตรียมเปิดตัวโรงแรมดุสิตดีทู ฟากู ในประเทศอินเดีย พร้อมให้บริการเดือนธันวาคม 2567 เผยจุดเด่นที่ตั้งท่ามกลางเทือกเขาหิมาลัย ที่ยิ่งใหญ่และเงียบสงบ มั่นใจเป็นจุดหมายปลายทางที่ตอบโจทย์นักเดินทางทั้งกลุ่มรักสุขภาพและนักผจญภัย พร้อมนำเสนอบริการอันอบอุ่นแบบไทยและเสน่ห์แบบท้องถิ่นที่มีความเป็นหนึ่งเดียว และหาที่ไหนไม่ได้
มร. จิลล์ เครตัลเลช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่มดุสิตธานีมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งกับการให้บริการในประเทศอินเดีย ด้วยการเปิดตัวโรงแรมดุสิตดีทู ฟากู ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของดุสิตธานี กับเป้าหมายในการขยายกิจการ เพื่อนำบริการแบบไทยและแบรนด์ดุสิตธานีไปสู่ทั่วทุกมุมโลก โดยประเทศอินเดียนับเป็นหมุดหมายที่สำคัญที่กลุ่มดุสิตธานีเชื่อมั่นโอกาสและศักยภาพในการเติบโตของตลาดท่องเที่ยว โดยเฉพาะการเปิดตัวโรงแรมดุสิตดีทู ฟากู ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางเทือกเขาหิมาลัยอันงดงามตระการตา เหมาะต่อการพักผ่อนสำหรับนักเดินทางที่แสวงหาความเงียบสงบพร้อมความหรูหรา รวมถึงยังตอบโจทย์นักเดินทางกลุ่มรักสุขภาพและกลุ่มที่รักการผจญภัย
นอกจากจุดเด่นของโรงแรมดุสิตดีทู ฟากู ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขาอันยิ่งใหญ่และสงบเงียบแล้ว ภายในโรงแรม ซึ่งประกอบด้วย ห้องพักจำนวน 80 ห้อง มีขนาดตั้งแต่ 38 ตร. ม. ถึง 86 ตร. ม. แต่ละห้องยังได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อผสมผสานความสะดวกสบายแบบทันสมัยให้เข้ากับกลิ่นอายท้องถิ่น โดยห้องพักทุกห้องมาพร้อมทิวทัศน์อันสวยงามของหุบเขาและภูเขาที่โอบล้อม ช่วยให้ผู้เข้าพักผ่อนคลายไปกับความงามของธรรมชาติได้ตลอดเวลา
การเดินทางไปยังโรงแรมดุสิตดีทู ฟากู มีหลายเส้นทางให้เลือกตามความสะดวก อยู่ห่างจากสนามบินชิมลาเพียง 80 นาที และห่างจากสนามบินจัณฑีครห์เพียง 4 ชั่วโมงครึ่ง โดยมีเที่ยวบินทุกวันจากเมืองใหญ่ อาทิ เดลี มุมไบ และบังกาลอร์ ตรงสู่สนามบินแห่งนี้ ขณะเดียวกัน ผู้เข้าพักยังสามารถเดินทางมาโรงแรมโดยรถไฟ ซึ่งสถานีคัลกาอยู่ห่างออกไปเพียง 18 กิโลเมตร และยังเชื่อมต่อกับรถไฟสายมรดกโลก สายคัลกา – ชิมลา เพื่อชมทัศนียภาพสวยงามได้อีกด้วย เช่นเดียวกับการขับรถมาที่โรงแรม ก็สามารถทำได้อย่างสะดวกสบาย เพราะเมืองฟากูมีการเชื่อมต่อด้วยถนนหลายสาย โดยห่างจากเมืองคูฟรีเพียง 7 กม. จากเมืองชิมลา 20 กม. และห่างจากเมืองจัณฑีครห์ 133 กม.
ผู้เข้าพักยังสามารถสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองใกล้เคียงซึ่งเต็มไปด้วยธรรมชาติและวัฒนธรรมอันน่าสนใจ อาทิ เมืองคูฟรี เมืองมาโชบรา เมืองนาร์กันดา ยอดเขามหาสุ และรถไฟสายมรดกโลก สายคัลกา – ชิมลา ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนโดยยูเนสโก ซึ่งจะมอบประสบการณ์อันหลากหลายตั้งแต่การผจญภัย สวนสนุก ไปจนถึงสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมและเส้นทางเดินธรรมชาติ พร้อมกันนี้ โรงแรมฯ ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่โดดเด่นและครบครัน ได้แก่ สระว่ายน้ำควบคุมอุณหภูมิที่ใหญ่ที่สุดในบริเวณนี้ เวลเนสเซ็นเตอร์ที่เน้นการดูแลสุขภาพแบบแบบองค์รวม พร้อมทรีตเมนต์สปาแบบไทยขนานแท้ที่ “น้ำ” (Namm) ลานจัดเลี้ยง และลานสนามหญ้าที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค เหมาะสำหรับงานอีเวนต์ รวมทั้งยังมีสิ่งอำนวยความเพิ่มเติมเป็นพิเศษ เช่น โรงละครกลางแจ้งและสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อช่วยยกระดับประสบการณ์ของผู้เข้าพักให้ดียิ่งขึ้น
ดุสิตดีทู ฟากู ยังให้บริการอาหารรสชาติอันหลากหลายชนิดเพื่อตอบสนองทุกรสนิยม ที่ห้องอาหารดุสิต กูร์เมต์ (Dusit Gourmet) ให้บริการอาหารนานาชาติ พร้อมเสิร์ฟอาหารแสนอร่อยตลอดทั้งวัน ห้องอาหารซอย (SOI) ซึ่งเป็นห้องอาหารพิเศษของโรงแรม นำเสนออาหารไทยและอาหารสไตล์เอเชีย มาพร้อมรสชาติอันเข้มข้นและกลิ่นหอมกรุ่น ปรุงจากวัตถุดิบชั้นดี ผู้เข้าพักยังสามารถผ่อนคลายที่บาร์ ฟากู – เดอะ เดสทิเนชั่น (Fagu – The Destination) เพื่อเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มและของว่าง พร้อมชมวิวอันสวยงาม
“กลุ่มดุสิตธานีรู้สึกตื่นเต้นที่ได้นำการบริการอันเลื่องชื่อของดุสิตธานีมาสู่ประเทศอินเดีย ด้วยการเปิดตัวโรงแรมดุสิตดีทู ฟากู ซึ่งเรามุ่งหวังที่จะมอบประสบการณ์อันน่าประทับใจให้กับนักเดินทางในจุดหมายปลายทางที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของอินเดีย” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บมจ.ดุสิตธานี กล่าว
มร. อาชิช กาวารี ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมดุสิตดีทู ฟากู กล่าวเสริมว่า ทีมงานของโรงแรมรู้สึกตื่นเต้นและรอคอยที่จะได้ต้อนรับทุกท่านที่มาพักผ่อนในโรงแรมอันเงียบสงบแห่งนี้ ซึ่งแขกผู้เข้าพักจะได้ดื่มด่ำกับความงามของภูเขา อาหารชั้นเลิศ และฟื้นฟูร่างกายด้วยบริการเพื่อสุขภาพระดับโลก โดยเรามุ่งหวังที่จะมอบประสบการณ์อันน่าจดจำซึ่งสะท้อนถึงการผสมผสานระหว่างการต้อนรับแบบไทยและเสน่ห์ท้องถิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของดุสิตธานี
ปัจจุบันกลุ่มดุสิตธานีบริหารวิลล่าหรูในเมืองกัวผ่านแบรนด์ อีลิธฮาเวนส์ โดยการเปิดโรงแรมดุสิตดีทู ฟากู ทำให้กลุ่มดุสิตธานีเปิดตัวโรงแรมแบรนด์ดุสิตดีทูในอินเดียเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ยังมีแผนเปิดโรงแรมอีกสี่แห่งในกรณาฏกะ ซึ่งมีกำหนดเปิดในกลางปี 2569
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและการสำรองห้องพัก ดูเพิ่มเติมได้ที่ dusit.com/dusitd2-fagu
หมายเหตุ: ข้อมูลเกี่ยวกับดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล
ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ กลุ่มบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2491 เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในประเทศไทย ที่เป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจด้านการบริการท่องเที่ยวและโรงแรม ดำเนินกิจการครอบคลุม 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท ธุรกิจการศึกษา ธุรกิจอาหาร ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการต้อนรับ
ธุรกิจหลักของกลุ่มได้แก่ ธุรกิจโรงแรม รีสอร์ทและวิลล่าหรู ภายใต้ 8 แบรนด์ ได้แก่ วาราณา-ดุสิต รีทรีตส์, ดุสิตธานี, ดุสิต สวีท, ดุสิต คอลเลคชั่น, ดุสิตดีทู, ดุสิตปริ๊นเซส, อาศัย, และ อีลิธฮาเวนส์ ในจุดหมายปลายทางชั้นนำกว่า 300 แห่งใน 18 ประเทศทั่วโลก และธุรกิจการศึกษา ซึ่งประกอบด้วย โรงเรียนสอนประกอบการทำอาหารและวิทยาลัยการโรงแรมในประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีบริษัทเคเทอริ่งที่บริการอาหารให้กับโรงเรียนนานาชาติชั้นนำในประเทศไทย กัมพูชา และเวียดนาม
ในขณะที่กลุ่มธุรกิจอาหาร ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจให้บริการอื่นๆ เป็นกลุ่มธุรกิจใหม่ที่บริษัทเพิ่งเริ่มกระจายการลงทุนไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตามแผนกลยุทธ์การเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว ที่ประกอบด้วย 3 ด้านได้แก่ การสร้างความสมดุล การเติบโต และการกระจายความเสี่ยง
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.dusit-international.com