นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์บริการค้าชายแดนเบ็ดเสร็จจุดเดียว (One Stop Service : OSS) จังหวัดหนองคาย โดยมี นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร นางอารีย์พันธ์ เจริญสุข รองเลขาธิการ ก.พ.ร. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ นายสมภพ สมิตะสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย พร้อมด้วย นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี นางนันท์ฐิตา ศิริคุปต์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร นางกิจจาลักษณ์ ศรีนุชศาสตร์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบสิทธิประโยชน์ทางศุลกากร นายยุทธนา พูลพิพัฒน์ รองอธิบดีกรมศุลกากร นายนิติ วิทยาเต็ม รองอธิบดีกรมศุลกากร และผู้บริหารกรมศุลกากร ร่วมพิธีดังกล่าว ณ สำนักงานศุลกากรหนองคาย
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากนโยบายของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้บริการประชาชนในเรื่องของการนำเข้า – ส่งออก ให้เกิดความรวดเร็ว สะดวกสบายและไม่ยุ่งยากอีกต่อไป ภายใน 1 ปี ซึ่งนโยบายนี้ เป็นนโยบายต่อเนื่องจากรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันดำเนินการจนเกิดศูนย์บริการค้าชายแดนเบ็ดเสร็จจุดเดียว (One Stop Service : OSS) จังหวัดหนองคาย โดยมุ่งมั่นที่จะยกระดับการบริการภาครัฐให้ตอบสนองความต้องการของประชาชนมากยิ่งขึ้น ปรับบทบาทภาครัฐเป็นการส่งเสริมสนับสนุน (Enable) การอำนวยความสะดวก (Facilitate) และการกำกับกฎกติกา (Regulate) เพื่อให้ประชาชนและเอกชนได้รับบริการที่สะดวก รวดเร็ว พร้อมทั้งจะลดกฎหมายและขั้นตอนที่ไม่จำเป็น เพื่อไม่ให้ภาครัฐเป็นอุปสรรคขัดขวางการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ดังเช่นที่กรมศุลกากรได้พัฒนาการให้บริการในรูปแบบ Single Submission โดยได้ปรับปรุงแพลตฟอร์มกลางการเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ณ จุดเดียว (Thailand National Single Window : Thai NSW)
นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวเสริมว่า ตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 7 พฤษภาคม 2567 ที่ประชุมเห็นชอบให้กระทรวงการคลังร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งวางแผนและดำเนินการเร่งรัด กำกับติดตามการดำเนินการต่าง ๆ ในภาพรวม เพื่อให้การจัดตั้งศูนย์บริการค้าชายแดนเบ็ดเสร็จ (One Stop Service : OSS) ณ สำนักงานศุลกากรหนองคายแล้วเสร็จโดยเร็วเป็นแห่งแรก กรมศุลกากรในฐานะที่เป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง และเป็นหน่วยงานหลักซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตรวจปล่อยสินค้าในพื้นที่ด่านชายแดน ได้เร่งดำเนินการเพื่อก่อตั้งศูนย์บริการค้าชายแดนเบ็ดเสร็จจุดเดียว จังหวัดหนองคาย (Nong Khai Border Trade One Stop Service : NKBTOSS) แห่งนี้จนสำเร็จ โดยบูรณาการร่วมกับ 8 หน่วยงาน ประกอบด้วย สำนักงานศุลกากรหนองคาย สำนักงานพาณิชย์จังหวัดหนองคาย สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดหนองคาย สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่หนองคาย ด่านตรวจพืชหนองคาย ด่านกักสัตว์หนองคาย ศูนย์บริหารจัดการด่านตรวจประมงเขต 2 และด่านอาหารและยาหนองคาย
สำหรับการปรับปรุงแพลตฟอร์มกลางการเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ณ จุดเดียว (Thailand National Single Window : Thai NSW) กรมศุลกากรดำเนินการนำร่องในกลุ่มสินค้าพืชเกษตร จำนวน 673 พิกัดรายการสินค้า โดยเปิดให้บริการยื่นคำขอเพื่อขอรับใบอนุญาต ใบรับรองประกอบการนำเข้าสินค้าพืชเกษตร ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2567 ซึ่งรองรับการขอรับใบอนุญาต ใบรับรองสินค้าเกษตร ที่มีการควบคุมร่วมกันระหว่างกรมวิชาการเกษตร และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา จำนวน 415 รายการพิกัดสินค้า
โดยผู้นำเข้าสินค้าสามารถยื่นคำขอและส่งข้อมูลเพียงครั้งเดียว และเพื่อสนับสนุนการทำงานของศูนย์ OSS กรมศุลกากรจึงได้พัฒนาระบบ Thailand Trade Journey ขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจด้านการนำเข้า - ส่งออก โดยอำนวยความสะดวกในด้านข้อมูลที่สำคัญรวมถึงช่องทางการติดต่อกับระบบสารสนเทศของหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งผู้ประกอบการสามารถขอใบอนุญาตหรือใบรับรองผ่านระบบได้โดยตรง พร้อมเข้าถึงข้อมูล ขั้นตอน กฎหมาย และสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรอย่างครบถ้วน ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อผู้ประกอบการที่เริ่มทำธุรกิจใหม่ ๆ ได้ทราบข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างครบถ้วน ทั้งระเบียบ กฎหมาย การขออนุญาตการนำเข้า - ส่งออก ต่าง ๆ ซึ่งในการส่งออกได้นำร่องสินค้าประเภทผลไม้ จำนวน 22 ชนิด ของหน่วยงาน กรมวิชาการเกษตร สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ และกรมการค้าต่างประเทศ และการนำเข้าได้นำร่องสินค้าประเภท ผัก ผลไม้ วัตถุอันตราย ปุ๋ย เครื่องสำอาง เครื่องมือแพทย์ จำนวน 20 รายการ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือ กรมวิชาการเกษตร สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
นอกจากนี้ เพื่อลดภาระการบันทึกข้อมูลที่ซ้ำซ้อน และสามารถส่งข้อมูลให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ในครั้งเดียว จึงได้มีการพัฒนาการให้บริการในรูปแบบ Single Submission โดยดำเนินการนำร่องกับการนำเข้าสินค้าพืชเกษตรที่มีการควบคุมมากกว่าหนึ่งหน่วยงาน เช่น สินค้าพืชที่เป็นวัตถุดิบ อาหารสัตว์ ส้มแมนดาริน มันสำปะหลัง กระเทียม ลิ้นจี่ ทุเรียนแช่แข็ง ลำไย เกี่ยวข้องกับ 5 หน่วยงาน ได้แก่ กรมวิชาการเกษตร กรมปศุสัตว์ สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ กรมการค้าต่างประเทศ และ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดยจะช่วยลดระยะเวลาในการกรอกข้อมูลลงได้มากที่สุดถึง 60% อันเป็นการขับเคลื่อนการอำนวยความสะดวกและลดขั้นตอนที่เป็นอุปสรรคในการประกอบธุรกิจ
สำหรับในวันนี้ได้มีการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างกรมศุลกากรกับกรมวิชาการเกษตร โดยทั้งสองหน่วยงานได้เยี่ยมชมการสาธิตการตรวจสอบซีลและหมายเลขตู้คอนเทนเนอร์ พร้อมรายงานด่านตรวจพืชหนองคายเพื่อดำเนินการออกใบรับรองสุขอนามัยพืช ซึ่งเป็นแนวทางในการลดขั้นตอนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการค้าชายแดนและผ่านแดน การบริการภาครัฐรวมอยู่ในระบบเดียวให้มีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ นายจุลพันธ์ฯ ได้กล่าวขอบคุณกรมศุลกากรและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมมือกันเพื่อให้ศูนย์แห่งนี้เกิดขึ้นได้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการก่อตั้งศูนย์แห่งนี้จะเป็นหมุดหมายสำคัญที่ทำให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายการเป็นประตูการค้าการลงทุนและยุทธศาสตร์ทางโลจิสติกส์ที่สำคัญของภูมิภาคต่อไป