ประเทศไทย และคนไทยต้องเสียเวลา เสียโอกาส มาเกือบ 20 ปี จากวังวนของการรัฐประหาร 2 ครั้ง และความขัดแย้งของคนในชาติ ส่งผลทำให้เกิดปัญหาทางเศรษฐกิจเรื้อรัง “จีดีพี” ขยายตัวต่ำรั้งท้ายในประเทศอาเซียน ประชาชนยากจนจำนวนมาก และหนี้ครัวเรือนพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์
..
ดังนั้น จึงเป็นเรื่องสมควรที่คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย มีมติยื่นฟ้องผู้ยื่นคำร้อง กรณีกล่าวหาพรรคเพื่อไทยล้มล้างการปกครอง ในข้อหาร้องเท็จต่อศาลอาญา
พูดง่ายๆ ว่างานนี้พรรคเพื่อไทยเอาคืนบ้าง! กับพวก “นักร้องเลอะเทอะ” ร้องแบบไร้สาระ จนทำให้นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร และรัฐบาล ไม่มีสมาธิในการทำงานบริหารบ้านเมือง
หลังจากก่อนหน้านี้อัยการสูงสุด ได้ตอบถ้อยคำไปยังศาลรัฐธรรมนูญ กรณีมีคนไปร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 กล่าวหาว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และพรรคเพื่อไทย ใน 6 พฤติการณ์ ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ว่าเรื่องดังกล่าวไม่เข้าหลักเกณฑ์ว่าเป็นการล้มล้างการปกครอง จึงมีคำสั่งไม่รับดำเนินการตามที่ร้องขอ
ต่อมาศาลรัฐธรรมนูญมีมติ “ไม่รับคำร้องไว้วินิจฉัย” เช่นกัน! โดยศาลรัฐธรรมนูญ ระบุประเด็นพักรักษาตัวบนชั้น 14 รพ.ตำรวจ-ร่วมมือพรรคก้าวไกล (พรรคประชาชน) แก้ไขรัฐธรรมนูญ –เจรจาแกนนำพรรคร่วมฯ จัดตั้งรัฐบาลที่จันทร์ส่องหล้า ไร้หลักฐานชี้ชัดว่าล้มล้างการปกครอง
นอกจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญยังมีมีมติเสียงข้างมาก 7-2 ไม่รับคำร้องปมร้องเรื่อง “MOU 44” การเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา ยังไม่มีน้ำหนักพยานหลักฐานเพียงพอ ที่จะแสดงให้เห็นว่า การกระทำของผู้ถูกร้อง (ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย) น่าจะทำให้เกิดผลเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธธธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง
“เสือออนไลน์” ต้องถามกลับไปยังพวก “นักร้อง” ว่า กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจ - การเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลเพื่อแบ่งผลประโยชน์ก๊าชธรรมชาติและทรัพยากรใต้ทะเลไทย-กัมพูชา (ท้ายสุดต้องผ่านความเห็นชอบของรัฐสภา) - การแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ (ต้องทำประชามติ-ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภา) - เจรจากับแกนนำของพรรคการเมืองอื่นเพื่อหารือการเสนอชื่อบุคคลผู้สมควรเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ - สั่งการให้มีมติขับพรรคพลังประชารัฐออกจากพรรคร่วมรัฐบาล - สั่งการให้นำนโยบายที่แสดงวิสัยทัศน์ไว้ไปเป็นนโยบายของคณะรัฐมนตรีที่แถลงต่อรัฐสภา
6 พฤติการณ์ดังกล่าว เป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตรงไหนไม่ทราบ?
6 พฤติการณ์ข้างต้น ถ้านำมาเปรียบเทียบกับการทำรัฐประหารฉีกรัฐธรรมนูญ 2 ครั้ง ในห้วงเวลา 20 ปี อันไหน “เลวร้าย” กว่ากัน?
แล้วพฤติการณ์แบบไหน ทำให้ประเทศและประชาชนต้อง “บอบช้ำ” มาถึงทุกวันนี้!!
เสือออนไลน์