รัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย เพิ่งเข้ามาบริหารประเทศได้แค่ 1 ปี 4 เดือน แต่มีนายกรัฐมนตรีมาแล้ว 2 คนคือ…
นายเศรษฐา ทวีสิน และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร โดยเฉพาะ น.ส.แพทองธาร เพิ่งเข้ามาบริหารประเทศยังไม่ถึง 100 วัน
ดังนั้น คนไทยต้องใจเย็นๆ ถ้าอยู่กับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาถึง 9 ปี ก็ขอความกรุณาให้เวลารัฐบาลพลเรือนทำงานจนครบเทอม 4 ปี เรื่องเศรษฐกิจปากท้องและสภาพสังคม จะดีขึ้นอย่างแน่นอน!
เนื่องจากตอนนี้ มีสัญญาณเศรษฐกิจในทางที่ดีหลายด้าน เช่น การส่งออกไทย 9 เดือนแรกของปี 67 ขยายตัวร้อยละ 3.9 ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินทางมาเที่ยวไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 8 ธ.ค. 67 แล้วทั้งสิ้น 32,719,298 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 1,535,154 ล้านบาท
ทางด้าน “จีดีพี” ไตรมาสที่ 2 ของปี 67 ขยายตัว 3.0% เร่งขึ้นจากการขยายตัว 2.2% ในไตรมาสที่ 2 รวม 9 เดือนแรกของปี 67 จีดีพีขยายตัว 2.3% และไตรมาส 4 ส่งท้ายปี 67 จีดีพีน่าจะโตมากกว่า 3% จากแรงหนุนของการแจกเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ (ดิจิทัล วอลเล็ต เฟส 1) ในช่วงปลายเดือน ก.ย. 67 ประมาณ 1.45 แสนล้านบาท
รวมทั้งบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอย การท่องเที่ยวช่วงปลายปี และภาคการส่งออก
ในส่วนของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เผยสถิติการขอรับการส่งเสริมการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย 9 เดือนแรกของปี 67 จำนวนโครงการเพิ่มขึ้นร้อยละ 46 มูลค่าเงินลงทุนรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 42 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นเงินกว่า 7.2 แสนล้านบาท นับเป็นยอดการลงทุนสูงที่สุดในรอบ 10 ปี สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อประเทศไทย
แต่ปัญหาใหญ่ของประเทศไทย คือ ภาวะเศรษฐกิจที่ซึมยาวมาตั้งแต่การรัฐประหารในปี 57 รายได้ของคนไทยส่วนใหญ่โตไม่ทันกับ “จีดีพี-รายจ่าย-ภาระหนี้สิน” ส่งผลทำให้มีหนี้สินครัวเรือนมากกว่า 16 ล้านล้านบาท กลายเป็นภาระหนี้ก้อนใหญ่รวมทั้งดอกเบี้ยที่ฉุดรั้งกำลังการซื้อภายในประเทศให้ถดถอย
เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.67 น.ส.แพทองธาร เป็นประธานการแถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาลรอบ 3 เดือน ภายใต้ชื่อ “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง” ใน 5 นโยบาย คือ..
นโยบายแรก หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน (ODOS) เพื่อส่งเด็กเรียนเก่งเรียนดีได้ไปเรียนต่อระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยชั้นนำในต่างประเทศ ใช้เงินจากกองสลากกินแบ่งรัฐบาล และโครงการหนึ่งอำเภอหนึ่งซัมเมอร์แคมป์ ส่งเด็กไทยไปเรียนซัมเมอร์แคมป์ที่ต่างประเทศ เพื่อให้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ นำเงินกองสลากฯมาพัฒนาโรงเรียนประจำอำเภอ
นโยบายที่ 2 โครงการ SML EMPOWERING THAIS กระจายอำนาจสู่ชุมชน ส่งเงินถึงมือประชาชนโดยตรงในทุกหมู่บ้าน ให้คนในพื้นที่เลือกประกอบอาชีพ
นโยบายที่ 3 โครงการ “บ้านเพื่อคนไทย” ให้คนไทยโดยเฉพาะเด็กจบใหม่ที่ไม่เคยมีบ้าน ได้มีที่อยู่อาศัยใจกลางเมืองเดินทางสะดวก โดยจะใช้พื้นที่ของรัฐที่ไม่ได้ทำประโยชน์ ทำเลดีใกล้รถไฟฟ้า โดยเริ่มที่ที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทยในกรุงเทพฯ เริ่มต้นที่ประมาณ 30 ตารางเมตร มีเฟอร์นิเจอร์ให้ ไม่ต้องจ่ายเงินดาวน์ จ่ายในระบบของค่าเช่าเดือนละ 4,000 บาทผ่อนได้ยาว 30 ปีมีสิทธิ์อยู่ถึง 99 ปี
นโยบายที่ 4 โครงการรถไฟฟ้า 20 บ้านตลอดสาย จะเกิดขึ้นในปี 68 แน่นอน , นโยบายที่ 5 โครงการดิจิทัล วอลเล็ต เฟส 2 สำหรับผู้สูงอายุ 4 ล้านคน จะได้ก่อนวันตรุษจีน (29 ม.ค.68) และเฟส 3 บุคคลทั่วไปจะให้ในรูปแบบดิจิทัล เพื่อให้รัฐใกล้ชิดประชาชนมากยิ่งขึ้น โดยจะสำเร็จในปี 68
นอกจากนี้ “เสือออนไลน์” ได้ข่าวว่าปี 68 โครงการรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ระยะทาง 220 กม. มูลค่า 2.24 แสนล้านบาท ที่ล่าช้ามา 5 ปีแล้ว เพราะติดขัดหลายปัญหาทั้งเรื่องเงินและเนื้องาน จะได้ฤกษ์ลงมือก่อสร้างแบบเดินหน้าเต็มตัว
หลังจากกระทรวงคมนาคม ได้เจรจาปัญหาต่างๆ กับกลุ่มซีพี-อีอีซี จนสำเร็จลุล่วงแล้ว ทำให้โครงการนี้เดินหน้าต่อไปได้ โดยที่ภาครัฐไม่เสียหาย ไม่เสียเปรียบ! เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อโครงการอีอีซี-เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์-เมืองการบินอู่ตะเภา จะได้เกิดเสียที
ที่ผ่านมา มีคนอยากให้รัฐบาล “ยกเลิกสัญญา” เพื่อเปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบินกันไหม่ แต่กระทรวงคมนาคมหารือหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้ว ทำไม่ได้
เนื่องจาก..
1. มีมติ ครม. สมัย “รัฐบาลประยุทธ์” ระบุว่า ถ้ามีปัญหาให้เจรจากับเอกชนเสียก่อน
2. ถ้าเปิดประมูลใหม่ ต้องเสียเวลาอีกราวๆ 2 ปี
และ 3. สัญญาที่ทำกันไว้ในปี 62 ภาครัฐต้องจ่ายอุดหนุนค่างานโยธา ประมาณ 1.2 แสนล้านบาท ถ้าเปิดประมูลใหม่แล้วงบประมาณก้อนนี้เพิ่มขึ้นมาอีก 2-3 หมื่นล้านบาท รัฐบาลและกระทรวงคมนาคมก็หงายท้อง!
สรุปปี 68 ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องจะดีขึ้น “จีดีพี” ของประเทศที่โตรั้งท้ายในอาเซียนมานาน มีทิศทางขยับสูงขึ้นกว่า 3% และเมกะโปรเจคต์ที่ล่าช้ามา 5 ปี จะเดินหน้าเสียที!
ดังนั้น 9 ปียังอยู่กับ “รัฐบาลประยุทธ์” มาได้เลย! ก็ต้องใจเย็นๆ และให้โอกาส “รัฐบาลแพทองธาร” ทำงานไปก่อน!
เสือออนไลน์