
2 คนหัวหน้าอั้งยี่ซ่องโจร
…
จับตาวันที่ 6 มี.ค. 68 จะมีการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ หรือ “กคพ.” เพื่อพิจารณาว่า จะมีมติรับเรื่องการ “ฮั้วเลือก สว.” เมื่อปี 67 ไว้เป็นคดีพิเศษหรือไม่ โดยต้องใช้คะแนนเสียง 2 ใน 3 ของบอร์ดที่จะพิจารณา
แต่ยังไม่ถึงวันนั้น (6 มี.ค.) สว.บางส่วนได้ออกอาการร้อนรน!
พล่านหนัก!

ถึงขั้นไปยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. ให้เล่นงาน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในความผิดตามมาตรา 157
ขณะเดียวกันก็ใช้เวทีการประชุมของ สว. อภิปรายโจมตีการทำงานของ รมว.ยุติธรรม และ ดีเอสไอ ในสารพัดเรื่องราว เช่น ล้มล้างการปกครอง-เรื่องการควบคุมตัวนักโทษในเรือนจำที่บางคนได้รับสิทธิพิเศษในยุคนี้ และไปไกลถึงขั้นเพ้อว่า ถ้าล้ม สว.ได้เมื่อไหร่ ประเทศไทยจะเสีย “เกาะกูด”
ทั้งที่ยังไม่ทราบว่า มี สว.คนไหนเกี่ยวข้อง หรือเชื่อมโยงกับการฮั้วบ้าง!
และ 138 สว.ที่อาจเข้าข่ายฮั้ว! มีใครบ้าง

รวมทั้งผู้เกี่ยวข้องกับขบวนการฮั้วเลือก สว. อีกประมาณ 1,200 คน จะถูกเรียกมาสอบสวน เพื่อดำเนินคดีทั้งหมด
หรือจะกันบางส่วนไว้เป็นพยาน โดยชะตากรรมของคนเหล่านี้ ทั้ง สว. - ผู้เกี่ยวข้อง จะชัดเจนในวันที่ 6 มี.ค. 68
ถ้าคณะกรรมการคดีพิเศษ จำนวน 2 ใน 3 เห็นว่าควรรับไว้เป็น “คดีพิเศษ” ก็เตรียมตัวรับทราบข้อกล่าวหาอั้งยี่ ซ่องโจร และฟอกเงิน กันได้เลย!
หรือถ้ามีมติ “ไม่รับเป็นคดีพิเศษ” ดีเอสไอก็มีทางออกไว้แล้วเช่นกัน... คอยดู!
ถ้ารับเป็นคดีพิเศษเมื่อไหร่ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษสามารถแจ้งข้อกล่าวหาอั้งยี่ ซ่องโจร และฟอกเงิน ได้ในช่วงระยะเวลาไม่กี่วัน เนื่องจากปัจจุบันดีเอสไอมีข้อมูลหลักฐานต่างๆ มากมาย ตรงนี้แหล่ะที่ทำให้ สว.บางคน บางกลุ่ม ออกอาการร้อนรน กันเป็นพิเศษ
เนื่องจากงานนี้ “เดิมพันสูง” ว่าใครจะได้รับเกียรติเป็น “หัวหน้าอั้งยี่ซ่องโจร” ซึ่งปัจจุบันมีข่าวเล็ดลอดออกมาแล้ว 2 คนดัง (อายุยังไม่ถึง 60 ปี) อยู่ใน จ.บุรีรัมย์ และ อ่างทอง เผลอๆ อาจจะรวม “หัวโจก” ใน จ.สตูล อีกด้วย
โดย 2 คนดัง (บุรีรัมย์-อ่างทอง) มีแนวโน้มสูงมากที่จะเจอข้อหาในฐานะหัวหน้าอั้งยี่ซ่องโจร-ฟอกเงิน แล้วอาจจะลามไปถึงระดับ “รัฐมนตรี” และพรรคการเมืองที่อยู่เบื้องหลังด้วย!
พรรคไหนอยู่เบื้องหลัง? ผู้คนครึ่งค่อนประเทศรู้!
แต่สำนักงาน กกต. ไม่รู้ๆ!
เสือออนไลน์