กสทช. สามล้อถูกหวย ??? อึ้ง! ประธาน กสทช. ทัวร์นอก 1 ปี 15 ครั้ง 120 วัน ใบเสร็จมัดขัดระเบียบดูงาน กสทช. ยังอ้าง “ควักเอง”
เปิดข้อมูลชวนอึ้ง ขวบปีเศษ ประธาน กสทช. ทัวร์นอก 15 ทริป 121 วัน มากกว่าทำงานประจำเสียอีก ขณะสรรหาเลขาธิการ กสทช. ยังตีลูกมึนกระเตงรองเลขาธิการในคาถา ไม่สนเสียงค้าน กสทช. จนการประชุมต้องล่มซ้ำซาก ขณะเลขาประธานแจงใช้งบส่วนตัว เบิกจ่ายตามกรอบปีไม่ถึง 2.5 ล้าน
ขณะที่ประชาชนคนไทยกำลังดีใจสุดขั้ว กับการที่พรรคเพื่อไทย (พท.) สามารถฝ่าป้อมปราการ สว. ในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ 11 พรรค 314 เสียงได้ พร้อมๆ กับข่าวดีเรื่องที่ อดีตนายกฯ นายทักษิณ ชินวัตร บินกลับมาตุภูมิเพื่อขอใช้ชีวิตในบั้นปลายกับลูกหลาน หลังจากที่ต้องซมซานหลบหนีคดีสารพัดไปอยู่ต่างแดนนานกว่า 17 ปี
แต่กลับหน่วยงานของรัฐที่เป็นอิสระอย่าง “คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)” กลับมีข่าวแพร่สะพัด ศ.คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. กลับพยายามทุกวิถีทางในอันที่จะเหินฟ้าเดินทางดูงานต่างประเทศ (และทัวร์นอก) เป็นว่าเล่น
จนถึงกับทำสถิติขึ้นทำเนียบของการ “ขยันดูงาน” ที่แค่ 1 ปี 3 เดือน (15 เดือน) เจ้าตัวเหินฟ้าไปดูงานต่างประเทศรวมแล้วถึง 15 ครั้ง รวมระยะเวลาที่ใช้ไปกับการเหินฟ้าดูงานต่างประเทศ 121 วัน หรือ 1 ใน 3 นับจากที่เข้ารับตำแหน่งเมื่อเมษายน 2565 เรียกได้ว่าทำงายสถิติทุกองค์กรที่มีการศึกษาดูงานในลักษณะนี้เลยก็ว่าได้
โดยสำนักข่าวออนไลน์แห่งหนึ่งได้ข้อมูลจากสำนักงาน กสทช. เองได้นำรายละเอียด “ทริปดูงานต่างประเทศ” ของทั่นประธาน กสทช. ที่ทำเอาทุกฝ่ายได้แต่ “อึ้งกิมกี่” อะไรมันจะเว่อร์วังอลังการ ขยันดูงานแบบหามรุ่ง-หามค่ำกันได้ขนาดนั้น 1 ปีเศษ 15 ครั้ง ไปมันทุกเดือน (บางเดือนมีเบิ้ล มีทริปเปิ้ลเข้าไปด้วยอีก) รวมแล้วมีการใช้งบดูงานไปทั้งสิ้นกว่า 45.8 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าระเบียบการดูงานที่ กสทช. วางไว้เสียอีก
มีการเจาะลึกลงไปในรายละเอียดของทริปดูงานดังกล่าวและวิพากษ์ว่า บางทริปนั้น เป็นการไปศึกษาดูงานที่ไม่มีความจำเป็นที่ทั่นประธานจะต้องลงไปดูเองแม้แต่น้อย และบางภารกิจที่กล่าวอ้างก็ไม่เกี่ยวกับงานที่ตนเองกำกับดูแล อย่างการเข้าร่วม Workshop Metaverse และอบรมการใช้งาน Facebook ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ซึ่งใช้งบประมาณไปกว่า 4 ล้านบาท หรือการไปดูงานโรงพยาบาลที่ต่างประเทศ โดยอ้างว่า จะได้นำมาทำ Telemedicine ทั้งที่บริบทของประเทศไทยกับต่างประเทศนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง!
หรือการร่วมเดินทางไปกับคณะกรรมการกองทุนวิจัยเพื่อพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) และคนนอกกว่า 20 คน ไปดูงานดาวเทียมที่ต่างประเทศซึ่งใช้งบประมาณไปกว่า 5 ล้านบาท ทั้งๆ ที่ตนเองและกลุ่มคนเหล่านี้ไม่ได้รับผิดชอบงานด้านดาวเทียม หรือการจัดการประมูลดาวเทียมแม้แต่น้อย รวมทั้งการเดินทางไปร่วมโครงการ USTDA ที่มีผู้บริหารของเอกชนผู้ประกอบการมือถือร่วมเดินทางไปด้วยตลอดทั้งทริป 15 วัน และใช้เงิน กสทช. ไปถึง 9 ล้านกว่าบาท ทั้งที่ตามธรรมเนียมปฏิบัติ กรรมการ กสทช. หรือผู้บริหาร กสทช. ไม่เคยร่วมเดินทางไปกับคณะผู้บริหารของเอกชนผู้ประกอบการมาก่อน
เลขาประธาน กสทช. แจงพัลวัน ใช้เงินส่วนตัว
หลังเป็นข่าวแพร่สะพัด พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข เลขานุการประจำประธาน กสทช. ได้ชี้แจงกรณีข้างต้น โดยระบุว่า ตามงบประมาณประจำปี 2565 ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปต่างประเทศของประธาน กสทช. มีจำนวนเพียง 2,593,809.39 บาท และตามงบประมาณประจำปี 2566 ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปต่างประเทศของประธาน กสทช. ก็ใช้ไปเพียง 3,880,722.05 บาทเท่านั้น ส่วนการเดินทาง Global Symposium For Regulator (GSR-23) ณ เมือง Sharm El-Sheikh อียิปต์ของประธาน กสทช. ที่ปรากฎในข่าวนั้นไม่ได้เกิดขึ้นจริงตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด
พร้อมกับยืนยันว่า ในการเดินทางไปต่างประเทศของประธาน กสทช. นั้น ส่วนใหญ่เป็นการเดินทางส่วนตัว และ ศ.คลินิก นพ.สรณ ก็ใช้งบประมาณของตนเอง และยังได้อาศัยช่วงเวลาดังกล่าวศึกษาดูงานด้านการแพทย์โทรคมนาคมไปด้วย อีกทั้งการเดินทางดังกล่าวจะเดินทางเฉพาะช่วงวันหยุดยาวหรือสุดสัปดาห์เท่านั้น ไม่ได้มีการใช้งบประมาณของสำนักงาน กสทช. แต่อย่างใด
“ในการเดินทางเกือบจะทุกครั้ง เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุด ประธาน กสทช. พยายามเดินทาง โดยมิได้ใช้สิทธิเต็มจำนวนตามเอกสิทธิ์ในฐานะ กสทช. แต่อย่างใด (สิทธิบัตรโดยสารเครื่องบินที่นั่งชั้น 1 และห้องสวีท) เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่สูงขึ้น หลังสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ประธาน กสทช. จะแจ้งก่อนตลอดว่า ให้เลือกจองบัตรโดยสารเครื่องบินชั้นธุรกิจ” พ.ต.อ.ประเวศน์ กล่าว
กางระเบียบเบิก-จ่ายงบดูงาน ตปท. กสทช.
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อเดือน ก.พ. 2566 สำนักงาน กสทช. ได้ออกแนวปฏิบัติในการเดินทางไปปฏิบัติงานต่างประเทศประจำปี 2566 ตามที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษา ติดตามและตรวจสอบ การปฏิบัติงานของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้มีข้อสังเกตและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการใช้จ่ายงบประมาณในการเดินทางไปปฏิบัติงานต่างประเทศของสำนักงาน กสทช.
โดยเห็นควรให้กำหนดมาตรการในการเดินทางไปปฏิบัติงานต่างประเทศให้เป็นไปตามความเหมาะสมของภารกิจ และขอให้เลขาธิการ กสทช. พิจารณาออกแนวปฏิบัติในการเดินทางไปปฏิบัติงานต่างประเทศที่ชัดเจน และนำมาบังคับใช้โดยสม่ำเสมอ กสทช. จึงกำหนดแนวปฏิบัติในการเดินทางไปปฏิบัติงานต่างประเทศประจำปี 2566 ไว้ดังนี้
1. การตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี สำหรับการเดินทางไปปฏิบัติงานต่างประเทศของประธาน กสทช. และ กสทช. ให้พิจารณาดำเนินการ ดังนี้ 1.1 ประธาน กสทช. ตั้งงบประมาณรายจ่าย 5.00 ล้านบาทต่อปี 1.2 กสทช. ตั้งงบประมาณรายจ่าย ท่านละ 3.00 ล้านบาทต่อปี
2. กรณีประธาน กสทช/กสทช. เดินทางไปปฏิบัติงานต่างประเทศให้มีผู้ติดตามร่วมเดินทางกับประธาน กสทช./กสทช. ครั้งละไม่เกิน 3 คน ประกอบด้วยผู้ปฏิบัติงานประจำส่วนงานเลขานุการฯ จำนวนไม่เกิน 2 คน ผู้ประสานงาน ในการเดินทางจำนวน 1 คน และให้สำนักที่รับผิดชอบเป็นผู้ดำเนินการในการจัดทำอนุมัติการเดินทางดังกล่าว
3. การเดินทางไปปฏิบัติงานต่างประเทศของสำนักงาน กสทช. ให้พนักงานเดินทางได้ครั้งละไม่เกิน 5-6 คน ทั้งนี้ พนักงานสามารถเดินทางไปปฏิบัติงานต่างประเทศ ได้ไม่เกินจำนวน 4 ครั้ง ต่อ 1 คน/ปี
4. กรณีประธาน กสทช./กสทช. เดินทางไปปฏิบัติงานต่างประเทศเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมหรืองานเดียวกันมากกว่า 1 ท่าน ให้ ตย. เป็นผู้ประสานงานและดำเนินการจัดทำอนุมัติการเดินทางในคราวเดียวกัน เพื่อมิให้เกิดค่าใช้จ่ายที่ซ้ำช้อน โดยกำหนดให้มีองค์ประกอบในการเดินทาง ดังนี้ 4.1 ผู้ติดตามร่วมเดินทางกับประธาน กสทช./กสทช. ท่านละ ไม่เกิน 1 คน และ 4.2 ผู้บริหารและพนักงานของสำนักงาน กสทช. ให้ดำเนินการตามแนวปฏิบัติในข้อ 3
5. ค่าใช้จ่ายอื่นใดที่เกิดขึ้นจากข้อกำหนดของประเทศปลายทาง สามารถเบิกจ่ายงบประมาณของสำนักงาน กสทช. ได้ เช่น ค่าทำประกันการเดินทาง ค่าตรวจสุขภาพ ค่าฉีดวัคซีน เป็นต้น ทั้งนี้ ให้ชี้แจงเหตุผลพร้อมแสดงเอกสารเพื่อประกอบการพิจารณา
6. ให้งดการตั้งงบประมาณรายจ่ายเพื่อศึกษาดูงานหรือฝึกอบรมสัมมนาในต่างประเทศ รวมไว้ในการจ้างที่ปรึกษาหากกรณีที่มีความจำเป็นให้เชิญผู้เชี่ยวชาญมาสอนพนักงานภายในประเทศ
7. การใช้จ่ายงบประมาณสำหรับการเดินทางไปปฏิบัติงานต่างประเทศของประธาน กสทช. กสทช. และสำนักงาน กสทช. ต้องอยู่ภายในวงเงินงบประมาณที่กำหนด
8. กรณีนอกเหนือจากที่กำหนดในข้อ 1- 6 ให้ชี้แจงเหตุผลความจำเป็นเสนอเลขาธิการ กสทช. พิจารณา
แม้เลขานุการประจำสำนักงานประธาน กสทช. จะยืนยันนั่งยันว่า ทริปดูงานของท่านประธาน กสทช.นั้น เป็นไปด้วยความโปร่งใส ไม่ได้มีการถลุงงบอีลุ่ยฉุยแฉกอย่างที่มีการตั้งข้อสังเกต และส่วนใหญ่ก็เป็นการใช้งบส่วนตัว แต่ใบเสร็จที่สำนักงาน กสทช. รายงานขึ้นมาเหล่านี้ เป็นข้อเท็จจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ได้มีการเบิกจ่ายและใช้จ่ายจริงเกิดขึ้นไปแล้ว
แล้วใครหล่ะจะตรวจสอบ เพราะความเป็นองค์กรของรัฐที่เป็นอิสระ ขนาดมีการกำหนดระเบียบเบิกจ่ายออกมาโทนโท่ ยังแหกกันได้ซะขนาดนี้ จริงไม่จริง ท่านประธาน!!!