นายไพศาล พืชมงคล อุปนายกและเลขาธิการสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน อดีตที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) นักกฎหมายชาวไทย และอดีตอดีตสมาชิกวุฒิสภาและอดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เกาะติดประเด็นร้อนเกี่ยวกับยุทธศาสตร์อินโดฯ-แปซิฟิก โดยระบุว่า..ที่ผ่านมา มีข่าวใหญ่ คือ จีนได้ส่งเรือรบขนาดใหญ่ เข้ามาเยี่ยมกองทัพเรือของประเทศไทย หลังจากกองเรือบรรทุกเครื่องบิน นิมิต ซึ่งขับเคลื่อนด้วยพลังนิวเคลียร์ของสหรัฐฯเพิ่งมาเยือนไปหยกๆ!!!น่าเสียดายไม่มีข่าวคราวเชิงลึก เกี่ยวกับเรือรบดังกล่าวว่าเป็นอะไร??
ก็ต้องนำความมาไขให้ได้ทราบทั่วกันว่า เรือรบดังกล่าวนี้เป็นเรือรบรุ่นใหม่ชนิดพิเศษของจีน มีขีดความสามารถในการรบได้ทั้ง 3 มิติ คือ ทั้งทางอากาศ ผิวน้ำ และใต้น้ำ ติดขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง 20 เท่า!!!!!แม้ดูเหมือนเป็นเรือรบพิเศษเหนือกว่าธรรมดาไม่มากนัก แต่แท้จริงเรือรบชนิดนี้ เป็นเรือรบที่สร้างขึ้นเพื่อเป็น "เรือทำลายเรือบรรทุกเครื่องบิน และเรือผิวน้ำทั้งหลาย รวมทั้งเรือดำน้ำของข้าศึก" ด้วยประสิทธิภาพสูงสุด ที่ทำงานประสานกับระบบสื่อสัญญาณพิเศษ (electronic warfair) ในระบบควอนตัม มีขีดความสามารถที่จะจมเรือข้าศึกในทะเลจีนใต้ทั้งหมดได้ในเวลาไม่กี่นาที จีนสร้างเรือรบชนิดนี้เข้าประจำการแล้ว 6 ลำในขณะที่เรือรบดังกล่าวมาเยือนประเทศไทย จีนก็ส่งกองเรือบรรทุกเครื่องบิน และเรือบริวารที่ทันสมัยที่สุด ไปซ้อมรบอวดธง ทั้งทะเลจีนใต้ โอกินาว่า และย่านเกาะกวม ซึ่งเป็นฐานทัพใหญ่ของสหรัฐในแปซิฟิก และเมื่อวานนี้ จีนก็ส่งกองเรือรบ อีกกองหนึ่ง เข้าไปซ้อมรบชูธง ประจัญกับกองเรือของสหรัฐและแคนาดา ที่ช่องแคบไต้หวัน จนหวุดหวิดที่จะปะทะกันรอมร่อ เป็นการประกาศปิดยุคสมัยที่มหาสมุทรแปซิฟิกเคยมีแต่กองเรือรบสหรัฐ อวดธงอยู่เพียงชาติเดียว!!!!ลองนึกภาพดูถ้าแสนยานุภาพทางนาวีของจีนในแปซิฟิก เมื่อประสานเข้ากับแสนยานุภาพทางนาวีของรัสเซียและเกาหลีเหนือ แล้ว ภาคพื้นมหาสมุทรแปซิฟิกจะเป็นอย่างไร?
