นายยุทธนา เจริญวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีแอลซีพี เพาเวอร์ จำกัด แถลงถึงความพร้อมอย่างเต็มที่ในการผลิตกระแสไฟฟ้าให้กับประเทศไทย ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนจัดในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่อุณหภูมิอาจพุ่งสูงถึง 40 องศาเซลเซียส และส่งผลให้ความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าทะยานขึ้นแตะระดับเพดานสูงสุด เป็นรอบที่ 4 ของปีนี้ ที่ 33,613.8 เมกะวัตต์ เมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา
โรงไฟฟ้าบีแอลซีพี ในฐานะหนึ่งในผู้ผลิตกระแสไฟฟ้ารายใหญ่ของประเทศ ขอยืนยันถึงความพร้อมอย่างเต็มที่ในการผลิตกระแสไฟฟ้าให้กับประเทศ โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนที่ความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น ด้วยกำลังการผลิตที่เพียงพอ การสำรองเชื้อเพลิง และการเตรียมความพร้อมของเครื่องจักรอุปกรณ์ให้พร้อมทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่เกิดภาวะขาดแคลนไฟฟ้า
นอกจากความมั่นคงในการจ่ายกระแสไฟฟ้าแล้ว บีแอลซีพียังเป็นหนึ่งในโรงไฟฟ้าที่มีต้นทุนเชื้อเพลิงในการผลิตต่ำ ไม่เกิน 2 บาทต่อหน่วย ซึ่งช่วยรักษาสมดุลด้านต้นทุนพลังงาน ในฐานะโรงไฟฟ้าฐานที่เดินเครื่องต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง(base load) มีความพร้อมจ่ายไฟถึง 99.5% เพื่อตอบสนองความต้องการของประเทศตลอดระยะเวลากว่า 15 ปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทสำคัญในการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศ
ท่ามกลางความท้าทายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (climate change) บีแอลซีพีมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจสู่ความยั่งยืน ตามแนวคิด ESG ที่คำนึงถึงความรับผิดชอบทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล สอดคล้องกับเป้าหมาย SDGs ขององค์การสหประชาชาติ โดยได้ศึกษาแนวทางลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากต้นทาง ผ่านการใช้ก๊าซแอมโมเนียเป็นเชื้อเพลิงผสม รวมไปถึงการศึกษาการนำเทคโนโลยีการดักจับ ใช้ประโยชน์ และกักเก็บคาร์บอน (CCUS) เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาวิกฤตโลกร้อน
ด้วยศักยภาพและความพร้อมในทุกด้าน ทั้งกำลังการผลิต ต้นทุน ความต่อเนื่องในการจ่ายกระแสไฟฟ้าและความใส่ใจต่อความยั่งยืน ตามแนวคิด ESG โรงไฟฟ้าบีแอลซีพีพร้อมสนับสนุนให้ประเทศไทยมีพลังงานไฟฟ้าอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะในช่วงที่ความต้องการพลังงานไฟฟ้าพุ่งสูงขึ้นในฤดูร้อนนี้ และพร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนประเทศสู่การพัฒนาพลังงานอย่างยั่งยืนในระยะยาว เพื่อพี่น้องชาวไทย และเพื่อโลกของเราในวันข้างหน้า