พึ่งพาตัวเอง ! "อนุทิน" เปิดสายการผลิตหน้ากากอนามัย องค์การเภสัชฯ ตั้งเป้าเสริมแกร่งความมั่นคงด้านสาธารณสุข รับสถานการณ์วิกฤติในอนาคต
เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2563 ที่องค์การเภสัชกรรม อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิด "สายการผลิตหน้ากากอนามัย เพื่อความมั่นคงทางการแพทย์" โดยมีผู้บริหารจากกระทรวงสาธารณสุขเข้าร่วมงาน
นายอนุทิน กล่าวว่า ประเทศไทยต้องตั้งอยู่บนความไม่ประมาท การระบาดของโควิด-19 ทำให้ทราบว่าหน้ากากอนามัย เป็นเครื่องป้องกันที่ดีที่สุด แต่น่าเจ็บใจมาก ที่ในช่วงเวลานั้น มีผู้กักตุนหน้ากาก แล้วฉวยโอกาสขึ้นราคา เอาเปรียบประชาชน
หน้ากากอนามัย ซึ่งเคยเป็นสิ่งที่หาซื้อได้ง่าย แต่กลับกลายเป็นของหายาก จึงเกิดการทบทวนว่าองค์การเภสัชกรรมต้องผลิตเองได้ ไทยต้องพึ่งพาตนเอง และเป็นการเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ต่างที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ ประเทศไทย ไม่ได้มองเพียงเรื่องการผลิตหน้ากากอนามัย แต่ยังวางแผนผลิตชุด PPE ได้เองด้วย ส่วนยารักษาโควิด-19 ทางองค์การเภสัชกรรมได้นำเข้าสารตั้งต้น และทดลองผลิตเองแล้ว จากนี้ ต้องรอให้ อย.ตรวจเรื่องประสิทธิภาพและความปลอดภัย
สำหรับหน้ากากอนามัยที่ผลิตโดยองค์การเภสัชกรรม เป็นหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ที่มีคุณภาพ ตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) หน้ากากใช้ครั้งเดียว ซึ่งอ้างอิงตามมาตรฐานASTM F2100-11 ของประเทศอเมริกา เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์ได้มีหน้ากากอนามัยที่มีคุณภาพใช้อย่างเพียงพอ โดยกระจายให้กับโรงพยาบาลภาครัฐ และบางส่วนจำหน่ายให้แก่ประชาชนผ่านร้านขายยาทั้ง 8 สาขา และร้านค้าออนไลน์ขององค์การเภสัชกรรม โดยในระยะแรกมีกำลังการผลิตประมาณ 8 แสน -1 ล้านชิ้นต่อเดือน หรือ 9 - 11 ล้านชิ้นต่อปี
ทั้งนี้ หลังจากเปิดสายการผลิตหน้ากากอนามัย นายอนุทินและคณะได้ตรวจเยี่ยมโรงงานผลิตยารังสิต ระยะที่ 2 คาดว่าจะแล้วเสร็จ และดำเนินการผลิตยาได้ในปีพุทธศักราช 2565 ซึ่งจะเป็นโรงงานผลิตที่ทันสมัย และใหญ่ที่สุดในอาเซียน