ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่ประชุมวุฒิสภาที่มี นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เป็นประธาน ได้มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ …) พ.ศ. .. ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว ในวาระ 2 และวาระ 3 และได้ส่งให้ที่ประชุมพิจารณาทันที โดยที่ประชุมมีการอภิปรายในประเด็นที่กรรมาธิการวิสามัญได้สงวนคำแปรญัติไว้หลายประเด็นด้วยกัน
โดยที่ประชุมวุฒิสภามีมติไม่เห็นชอบ มาตรา 5(3) ที่คณะ กมธ. แก้ไขเสนอ โดยให้กลับไปใช้ถ้อยคำตามที่สภาผู้แทนราษฎรเสนอ ซึ่งบัญญัติไว้ว่า "ผู้มีสิทธิสมัครรับการสรรหาเพื่อเป็นกรรมการ กสทช. มีคุณลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใด (3) เป็นหรือเคยเป็นนายทหารหรือนายตำรวจที่มียศตั้งแต่พลตรี พลเรือตรี พลอากาศตรี หรือพลตำรวจตรี"
นอกจากนี้ ที่ประชุมวุฒิสภายังได้พิจารณา มาตรา 10 ว่าด้วยการดำรงตำแหน่งของกรรมการ กสทช. ซึ่ง กมธ.ได้เสนอแก้ไขให้บุคคลที่อยู่ระหว่างการสรรหาเป็นกรรมการ กสทช. เมื่อได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการ กสทช.แล้ว สามารถดำรงตำแหน่งได้ 3 ปี ต่างจากร่างที่สภาผู้แทนฯ ส่งมาที่ให้เลือกกรรมการชุดใหม่ ภายใน 15 วัน โดย พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ ส.ว. ในฐานะประธาน กมธ. ชี้แจงว่า สาเหตุที่ทาง กมธ.แก้ไขประเด็นนี้ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับบุคคลที่อยู่ระหว่างการสรรหาเป็น กสทช. ซึ่งมาตามกฎหมาย กสทช. ฉบับเดิม
ทั้งนี้ คาดว่าร่างกฎหมายที่กำลังพิจารณาอยู่นี้จะเสร็จก่อนการสรรหา ทำให้กระบวนการสรรหาต้องยกเลิกหรือคว่ำไปโดยอัตโนมัติ เพราะคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามนั้นแตกต่างกัน ทั้งนี้ กมธ.ได้ปรับแก้เพื่อสร้างจุดสมดุลมากที่สุดของร่างกฎหมายระหว่างที่เสนอมาโดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) และที่ร่างกฎหมายรับมาจากสภาผู้แทนราษฎร
อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดที่ประชุมวุฒิสภาได้ลงมติไม่เห็นชอบกับร่างแก้ไขของ กมธ. โดยให้คงสาระเดิมตามมาตรา 10 ตามที่สภาผู้แทนเสนอฯ ซึ่งกำหนดให้มีการสรรหากรรมการชุดใหม่ ภายใน 15 วัน นับตั้งแต่ที่มีการประกาศบังคับใช้ จึงทำให้ กระบวนการการสรรหาบุคคลเป็นกรรมการ กสทช.ที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภานำเสนอต่อที่ประชุมวุฒิสภาก่อนหน้านี้ต้อง ล้มเลิกไปโดยอัตโนมัติ
จากนั้นเป็นการลงมติในวาระที่ 3 ซึ่งที่ประชุมเห็นด้วยกับร่างกฎหมายทั้งฉบับ ด้วยเสียง 194 ต่อ 3 งดออกเสียง 15 ไม่ลงคะแนน 1 เสียง เป็นอันว่า พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ ฉบับใหม่ ได้ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมวุฒิสภาแล้ว รอเพียงขั้นตอนการลงนามในราชกิจจานุเบกษา เพื่อประกาศใช้ อันจะยังผลให้กระบวนการสรรหา กสทช.ที่วุฒิสภาดำเนินการอยู่ต้องล้มเลิกโดยปริยาย