กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) สนับสนุนและสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการไทยและเกษตรกรไทย พร้อมสร้างโอกาสทางการตลาด ขยายพื้นที่จำหน่ายสินค้าแบบ Omni Channel ผ่านห้างเออีซี เทรดเซ็นเตอร์ พันธุ์ทิพย์ ประตูน้ำ และแพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์ Phenixbox.com ซึ่งจะช่วยเพิ่มช่องทางการขายแบบไร้ข้อจำกัดทางการตลาดให้แก่เกษตรกรและผู้ประกอบการชุมชนสร้างความมั่งคงในเศรษฐกิจระดับท้องถิ่นไปจนถึงประเทศ
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1 เม.ย.64 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และบริษัท แอสเสท เวิร์ด คอร์ป จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจศูนย์ค้าส่งสำหรับจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าแบบวันสต็อป ครบวงจรใจกลางกรุงเทพฯ ได้ร่วมกันจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ว่าด้วยการสนับสนุนและส่งเสริมผู้ประกอบการไทยและเกษตรกรไทย ณ อาคารเออีซี เทรดเซ็นเตอร์ พันธุ์ทิพย์ ประตูน้ำ โดยเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญของทั้ง 2 หน่วยงานระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในการพัฒนาผู้ประกอบการไทยให้เติบโตอย่างมีศักยภาพ ส่งเสริมและผลักดันธุรกิจและสหกรณ์การเกษตรเข้าสู่ช่องทางการค้าทั้งออฟไลน์และออนไลน์มากขึ้น ช่วยขยายช่องทางการตลาดให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย มีที่ยืนในตลาดทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ขณะเดียวกันช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ และมูลค่าทางการค้า พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้ขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยความเข้มแข็ง
อธิบดี กล่าวต่อว่า “ขอบเขตความร่วมมือใน MOU ฉบับนี้ กรมฯ จะเป็นผู้สนับสนุนผู้ประกอบการและเกษตรกรไทยที่มีศักยภาพซึ่งผ่านการพัฒนาภายใต้การส่งเสริมของกรมฯ เข้าสู่ช่องทางการจำหน่ายสินค้าแบบ Omni Channel ของเออีซี เทรดเซ็นเตอร์ฯ ทั้งในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์ www.Phenixbox.com สำหรับกิจกรรมแรกหลังจาก MOU กรมฯ ได้นำผู้ประกอบการแฟรนไชส์และสหกรณ์การเกษตร เข้าร่วมงาน Food Chapter Summer Fest ระหว่างวันที่ 1 เม.ย. - 31 พ.ค.64 ทั้งนี้ มีจำนวนบูธ รวมทั้งสิ้น 70 บูธ โดยการเข้าร่วมงานครั้งนี้ผู้ประกอบการไม่ต้องจ่ายค่าเช่าพื้นที่แต่อย่างใด ซึ่งกิจกรรมนี้จะสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเช่าพื้นที่ระยะยาวของผู้ประกอบการและเกษตรกรไทย รวมถึงช่วยให้มีช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ ตลอดจนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในภาวะวิกฤตโควิด-19”
“นอกจากการนำธุรกิจเข้าร่วมขยายโอกาสทางการตลาดในกิจกรรมต่างๆ แล้ว กรมฯ ยังได้สนับสนุนข้อมูลด้านการตลาด พร้อมให้คำแนะนำ และส่งเสริมการจับคู่ทางธุรกิจ ประกอบกับการประชาสัมพันธ์กิจกรรมให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผ่านช่องทางการสื่อสารของกรมฯ อีกด้วย ทั้งนี้ กรมฯ ได้เล็งเห็นความสำคัญของเทคโนโลยีดิจิทัลที่จะเข้ามาเป็นกุญแจสำคัญเพื่อส่งเสริมให้ธุรกิจประสบความสำเร็จในการทำการค้าทั้งในและต่างประเทศ จึงได้สร้างความร่วมมือกับพันธมิตรที่มีศักยภาพ มีความเชี่ยวชาญด้านการค้า และเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นที่ยอมรับในระดับประเทศ ดังนั้น บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) จึงเป็นพันธมิตรภาคเอกชนที่จะเข้ามามีส่วนช่วยให้ภาคธุรกิจมีช่องทางการจำหน่ายที่กว้างขึ้น และต่อยอดความสำเร็จไปสู่การสร้างมูลค่าทางการค้าให้กับประเทศได้ในอนาคต”
“ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถสอบถามหรือติดตามกิจกรรมความร่วมมืออื่นๆ ระหว่างกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน)ได้ที่ ส่วนนวัตกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ กองพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สายด่วน 1570 โทรศัพท์หมายเลข 0 2547 5961 และ www.dbd.go.th” อธิบดี กล่าวทิ้งท้าย