เพลิงไหม้ตู้สินค้าเรือจากฮ่องกง ที่ท่าเรือ A2 ท่าเรือแหลมฉบัง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงบูรณาการหน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งควบคุมเพลิงและหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ต่อไป
เรือโท กมลศักดิ์ พรหมประยูร ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 6.45 น. ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ตู้สินค้าบนเรือ KNTC จากฮ่องกง โดยเรือโท ยุทธนา โมกขาว ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เพื่อควบคุม และติดตามสถานการณ์ กรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้เรือบรรทุกสินค้าที่จอดบริเวณท่าเทียบเรือ A2 ในท่าเรือแหลมฉบัง โดยเจ้าหน้าที่พร้อมกู้ภัยในท่าเรือแหลมฉบังได้เข้าปฏิบัติการดับเพลิงด้วยสารเคมีโฟมและเรือลากจูงแหลมฉบังได้เข้าปฏิบัติครั้งนี้ด้วย ขณะนี้เรือยังจอดอยู่กับที่เพื่ออำนวยความสะดวกในการดับเพลิง ล่าสุดนั้นสามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว ทั้งนี้เมื่อความร้อนเริ่มคลี่คลายลงแล้วเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะเร่งเข้าไปตรวจสอบหาสาเหตุเพลิงไหม้และมูลค่าความเสียหายในครั้งนี้ต่อไป
“เรือลำดังกล่าวเข้าเทียบท่าตั้งแต่ตอนกลางคืนที่ผ่านมา โดยแจ้งว่าเป็นฟลูคอนเทนเนอร์ แต่ได้เกิดเหตุขึ้นก่อนที่จะขนตู้คอนเทนเนอร์ออกจากเรือ หลังจากนี้จะต้องเร่งสำรวจพร้อมกับเจ้าของเรือและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเพี่อหาสาเหตุและประเมินความเสียหาย พร้อมกับจะต้องเร่งสำรวจสิ่งที่ตกลงไปในทะเลเพื่อจะนำขนขึ้นไปบนฝั่งเพื่อไม่ให้กีดขวางการเดินเรือในพื้นที่ดังกล่าวโดยเร็วต่อไป”
ทั้งนี้ มีรายงานความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้เรือบรรทุกสินค้าที่ ทลฉ. ว่า จากผลการตรวจสอบบัญชีแสดงรายการตู้สินค้าที่บรรทุกมากับเรือ ไม่มีการแจ้งว่ามีตู้บรรจุสินค้าอันตรายมาในเรือ KMTC Hongkong ในเบื้องต้นจึงคาดว่าตู้สินค้าที่เกิดเพลิงไหม้ไม่ใช่ตู้สารเคมี เนื่องจากตามมาตรการด้านความปลอดภัยของ กทท. หากมีตู้บรรจุสารเคมีมาเทียบท่าจะต้องดำเนินการขนถ่ายไปยังคลังสินค้าอันตรายทันที
เบื้องต้นนั้นพบจุดเกิดเหตุบริเวณหัวเรือ KMTC ที่จอด ณ ท่าเทียบเรือ โดยบริษัทไทยแหลมฉบังเทอร์มินัล จำกัด ที่เป็นสัญชาติเกาหลีใต้ โดยมีผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แล้วจำนวน 20 คน เกิดอาการผื่นคัน จำนวน 18 คน และมีผู้ได้รับผลกระทบจากการหายใจ จำนวน 2 คน บาดเจ็บเล็กน้อย สำหรับตู้คอนเทนเนอร์ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่จะเร่งเข้าไปตรวจสอบ โดยคาดการณ์เบื้องต้นว่าจะเป็นตู้สินค้าทั่วไป สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้อยู่ในพื้นที่อำเภอศรีราชา สถานีตำรวจภูธรแหลมฉบัง เทศบาลนครแหลมฉบัง โดยท่าเรือแหลมฉบังได้ร้องขอให้เทศบาลนครแหลมฉบังแจ้งอพยพประชาชนที่อยู่บริเวณใต้ทิศทางลมอพยพออกจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเรียบร้อยแล้ว