เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2563 นายทิตนันทิ์ มัลลิกะมาส ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในภาพรวมทยอยฟื้นตัว แต่การฟื้นตัวยังแตกต่างกันมากตามพื้นที่ และสาขาธุรกิจ ในระยะข้างหน้าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยยังมีความไม่แน่นอนสูงและมีความเสี่ยงด้านต่ำอีกมาก จากสถานการณ์ COVID-19 ที่ยืดเยื้อในต่างประเทศและการระบาดระลอกใหม่ในประเทศไทย ประกอบกับประสิทธิผลและการเข้าถึงวัคซีนที่ยังมีความไม่แน่นอน เศรษฐกิจไทยในปี 2563 คาดว่าจะหดตัวที่ร้อยละ 6.6 ดีกว่าที่ประเมินไว้ในรายงานนโยบายการเงินฉบับเดือนกันยายน ตามข้อมูลจริงที่ดีกว่าคาดในเกือบทุกองค์ประกอบ สะท้อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ปรับดีขึ้นมากหลังมาตรการควบคุมการระบาดของโรค COVID-19 ผ่อนคลายลง รวมถึงเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาด และมาตรการกระตุ้นของภาครัฐมีบทบาทสำคัญในการช่วยพยุงเศรษฐกิจ สำหรับเศรษฐกิจไทยในปี 2564 คาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 3.2 ลดลงจากการประเมินครั้งก่อน หลักๆ มาจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ปรับลดลงมาอยู่ที่ 5.5 ล้านคน จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในต่างประเทศที่ยืดเยื้อและรุนแรงกว่าที่คาด ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เปิดรับได้จะจำกัดกว่าที่ประเมินไว้ อีกทั้งการแพร่ระบาดระลอกใหม่ในไทยที่น่าจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปีหน้าเพิ่มเติม อย่างไรก็ดี ปี 2565 คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวเร่งขึ้นเป็นร้อยละ 4.8 ตามการฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจากผลการได้รับวัคซีนที่แพร่หลายขึ้นเป็นสำคัญอย่างไรก็ตาม แนวโน้มของเศรษฐกิจในระยะถัดไปยังมีความไม่แน่นอนสูง ที่สำคัญได้แก่ สถานการณ์โรค COVID-19 ในไทยที่อาจรุนแรงขึ้นและลุกลามกว่าที่คาด รวมถึงความไม่แน่นอนของประสิทธิภาพและการกระจายวัคซีนป้องกัน COVID-19 ดังนั้นมาตรการภาครัฐจำเป็นต้องมีความต่อเนื่อง และต้องมีการประสานนโยบายระหว่างหน่วยงาน เพื่อประคับประคองให้เศรษฐกิจสามารถฟื้นตัวได้อย่างยั่งยืน