
สัปดาห์หน้า (24-25 ก.พ. 68) กระทรวงยุติธรรม โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะประชุมเพื่อรับกรณี “ฮั้วเลือก สว.ปี 67” ไว้เป็น “คดีพิเศษ” ในความผิดตามมาตรา 113 ฐานฟอกเงิน-อั้งยี่-ซ่องโจร
…
สืบเนื่องจากจากเมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา กลุ่ม สว.สำรอง หรือ “กลุ่ม สว.เพื่อประชาชน” นำโดย พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร. เดินทางไปยื่นหนังสือที่ “ดีเอสไอ” ให้เร่งรัดคดี “โพยฮั้ว” การเลือกตั้ง สว.ปี 67 ให้เป็นคดีพิเศษ ตามที่ “ดีเอสไอ” ได้สอบสวนจากพยานหลักฐานต่างๆ ไว้บ้างแล้วในช่วงที่ผ่านมา
การเลือกตั้ง สว. เมื่อเดือน มิ.ย.67 มีเรื่องร้องเรียนจำนวนมาก ทั้งการเลือก สว.ที่ไม่สุจริต ไม่เป็นธรรม ปัญหาคุณสมบัติต่างๆ ของผู้สมัคร สว. ประมาณ 570 เรื่อง แต่สำนักงาน กกต. ได้ยุติคำร้อง และยกคำร้องไปกว่า 200 เรื่อง จึงยังเหลือประมาณ 300 กว่าเรื่อง ที่ยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบของสำนักงาน กกต.
บรรดากลุ่ม สว.สำรอง หรือ “กลุ่ม สว.เพื่อประชาชน” จึงตั้งข้อสงสัยว่า สำนักงาน กกต. จะสืบสวนสอบสวนภายใน 100 วัน กับเรื่องร้องเรียนกว่า 300 เรื่อง ให้เสร็จสมบูรณ์ ทันเวลาหรือเปล่า และเป็นไปด้วยความสุจริตเที่ยงธรรมได้หรือไม่?
ผู้คนจำนวนมาก รวมทั้ง “เสือออนไลน์” สงสัยมาโดยตลอดว่า การเลือก สว.จาก 20 กลุ่มอาชีพ ช่วงกลางปี 67 มีความผิดปกติมากๆ!
เพราะไม่เช่นนั้น จ.บุรีรัมย์ มี สส. 10 คน (10 เขตเลือกตั้ง) แต่กลับมีสว. 14 คน มากที่สุดในประเทศไทย ได้อย่างไร?
แล้วอ่างทอง จังหวัดเล็กๆ มีประชากรประมาณ 270,000 คน แต่กลับมี สว. 6 คน ได้อย่างไร?
ประเด็นเหล่านี้ “7 กกต.” รวมทั้งเลขาฯ กกต. ไม่นึกเอะใจ สงสัยกันบ้างหรือ? จนเป็นที่มาของเรื่องร้องเรียนมากมาย

รวมทั้งข้อมูลต่างๆ เนื่องจากกลุ่มขบวนการฮั้วโหวต บล็อกโหวต สว. จัดทำโพย เป็นกลุ่มเครือข่ายขนาดใหญ่ มีส่วนเกี่ยวข้องกับบุคคลหลายฝ่าย มีการกระทำผิดหลายพื้นที่ ต่างกรรมต่างวาระ ดำเนินการอย่างปกปิดเร้นลับ
มีการนัดประชุมกันที่โรงแรมทั้งในกรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา นครนายก และมี “สัญญาณโทรศัพท์” นัวเนียไปหมดตามโรงแรมที่มีการนัดแนะกัน มีการวางแผนอย่างเป็นระบบ มีการควบคุมสั่งการ แบ่งแยกหน้าที่กันเป็นขั้นเป็นตอน มีการจดชื่อผู้สมัครใส่ในโพยที่เป็นกระดาษ และตามจดชื่อผู้สมัคร สว. ไว้ตามร่างกายด้วย

ขบวนการฮั้วเลือก สว. ปี 67 จะมากมายขนาด 130-140 คน หรือไม่? ต้องติดตามดูกันต่อไป แต่ที่แน่ๆ เรื่องนี้มี “เบอร์ใหญ่” ใน จ.บุรีรัมย์ และคนของพรรคการเมืองเกี่ยวข้องด้วยอย่างแน่นอน จนสามารถยึดเสียง สว. ได้เกินครึ่ง (จากจำนวน สว.ทั้งหมด 200 คน) จึงมีปัญหาต่อการบริหารประเทศเป็นอย่างมาก
ทั้งเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการออกกฎหมายสำคัญต่างๆ ต่อให้ สส.ทั้งหมดในสภาฯ 500 คน ยกมือให้ผ่าน! แต่อาจจะติดด่าน สว. 100 กว่าคน ก็ไปเป็นได้สูง
แต่ที่แย่ไปกว่านั้น คือ การโหวตเลือกกรรมการในองค์กรอิสระต่างๆ ถ้า สว.กลุ่มใหญ่ไม่ให้ไฟเขียว! ก็หมดสิทธิเป็นกรรมการในองค์กรอิสระ ถึงขั้นรู้กันในวงกว้างว่า ถ้าต้องการเป็นกรรมการในองค์กรอิสระ ก็ต้องขับรถไปเที่ยว “บุรีรัมย์”
กลุ่ม สว.สำรอง ที่มาร้องเรียนกับ “ดีเอสไอ” ได้ชูป้ายข้อความด้วยว่า “กกต.ทำไม่ได้ ให้ DSI ทำเถอะ”

ดังนั้น จึงต้องฝากไปยัง กกต. ทั้ง 7 คน ต้องตรวจสอบและสอบสวนอย่างเร่งด่วนว่า มี “ไอ้โม่ง” หรือ “กลุ่มคน” ในสำนักงาน กกต. ละเว้นหรือบกพร่องต่อการปฏิบัติหน้าที่ นั่งทับสำนวนคดีการฮั้วเลือก สว. เมื่อปี 67 เอาไว้หรือไม่?
ใครกันเอ่ย? ในสำนักงาน กกต. ที่มี “เบอร์ใหญ่” ใน จ.บุรีรัมย์ ช่วยอุ้มกระเตงอยู่ ณ เวลานี้ เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะ “ตกงาน” กลับไปนอนบีบสิวอยู่บ้านแล้ว!!.
เสือออนไลน์