จำได้เมื่อเดือน พ.ย. 61 นายปราโมทย์ นาครทรรพ อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ อดีตตุลาการรัฐธรรมนูญ และอดีตที่ปรึกษากลุ่มพันธมิตรเพื่อประชาชนและประชาธิปไตย ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊คว่า ปรมาจารย์วิชารัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ที่เคยสั่งสอนคณะผู้ร่างรัฐธรรมนูญแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2560 อาทิ ศ.ประเสริฐ แย้มกลิ่นฟุ้ง คณะรัฐศาสตร์จุฬาฯ ศ.ดร.อมร จันทรสมบูรณ์ เป็นต้น
ต่างสรุปเป็นเสียงเดียวกันว่า “รัฐธรรมนูญฉบับนี้เลวที่สุดตั้งแต่เมืองไทยเคยมีมา”
“ผมในฐานะที่เป็นกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ 2517 และตุลาการรัฐธรรมนูญ 2518 มีความเห็นเช่นเดียวกัน ตัวอย่างที่เห็นได้เด่นชัดอย่างหนึ่งได้แก่บทบัญญัติว่าด้วยองค์ประกอบ ที่มา และการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ซึ่งสับสนวุ่นวายและขัดหลักการประชาธิปไตย นอกจากนี้ ขบวนการสมัคร คัดสรร และแต่งตั้งยังเปิดโอการให้มีการแบ่งสายวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่ง ที่กำลังเกิดขึ้นและเป็นจริงอยู่ในขณะนี้”
นี่เป็นความเห็นเพียงประเด็นเดียวของนายปราโมทย์ เกี่ยวกับการได้มาของ ส.ว. ซึ่งมาจากการแต่งตั้งโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตามที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ กับพวกเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญปี 60
เรื่องการได้มาของ ส.ว. ที่นายปราโมทย์แสดงความเห็นไว้เมื่อหลายเดือนก่อน กำลังจะเกิดขึ้นในเดือน เม.ย.นี้ ประเภทที่ว่าจะได้เห็นหน้าตาของ ส.ว. มาจากทหารและตำรวจเป็นจำนวนมาก
นอกจากเรื่อง ส.ว.แล้ว ตอนนี้เรื่องร้อนฉ่า! คงจะหนีไม่พ้นควันหลง! การเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 62 ที่มีปัญหาต่างๆ มากมาย ชนิดที่เรียกว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กลายเป็นตำบลกระสุนตก! อย่างไม่หยุดไม่หย่อน อยู่ในข่ายอาการน่าเป็นห่วง เพราะมีเรื่องไม่โปร่งใส่ถาโถมเข้าใส่จำนวนมาก โดยเฉพาะเรื่องใหญ่ๆ เช่น
1. กรณีบัตรของผู้ลงคะแนนเลือกตั้งจากประเทศนิวซีแลนด์ กว่า 1,500 ใบ มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว แต่ กกต. และเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ ไปรับไม่ทันเวลาก่อนปิดหีบนับคะแนนเลือกตั้ง เวลา 17.00 น. ของวันที่ 24 มี.ค. 62 ดังนั้นจึงกลายเป็นบัตรเสีย หรือบัตรที่นำมานับคะแนนไม่ได้ ตรงนี้แหล่ะคือความบกพร่องของ กกต. และเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ ที่จะปฏิเสธไม่ได้
เมื่อวันที่ 26 มี.ค. 62 ผู้บริหารระดับสูงของการบินไทย เปิดเผยผ่านสื่อฯ ว่า ได้ทำการขนส่งบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรตามขั้นตอน แต่เท่าที่ทราบปัญหา คือ กระทรวงการต่างประเทศ เกิดปัญหาบางประการ หรือมีคำสั่งบางประการ ทำให้ไม่สามารถมารับบัตรเลือกตั้งได้ในวันที่ 23 มี.ค. 62 ระหว่างเวลา 22.00-22.30 น. แต่มารับไปในวันที่ 24 มี.ค.62 เวลา 19.30 น. จึงกลายเป็นบัตรที่นับคะแนนไม่ได้
2. กรณีของบัตรผี บัตรเสริม หรือบัตรยืมเพื่อน ซึ่งเมาท์กันกระจายในสังคมออนไลน์ เพราะคะแนนเสียงของผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐ ในหลายจังหวัด พุ่งปรู๊ดแซงคนอื่นอย่างน่าสงสัย! คือน่าสงสัยว่ามีคะแนนมากกว่าจำนวนผู้ที่มาใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค.62
ว่ากันว่าคะแนนส่วนนี้ มากกว่าผู้ใช้สิทธิประมาณ 4-5 ล้านคะแนน เลยทีเดียว สุดท้าย กกต. จึงอ้อมแอ้มว่าเป็น “บัตรเขย่ง”
โดยมีตัวอย่างที่ จ.นครสวรรค์ สาวผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย บอกว่า คะแนนนำมาตลอด แต่อยู่ดีๆ คะแนนจากตำบลเดียว แซง 10 ตำบลไปแล้ว ทุกคนงงมาก! โดยที่ จ.นครสวรรค์ มีบัตรเขย่งเกินกว่า 3 แสนใบ
3. ความล่าช้าในการประกาศคะแนนของ กกต. เป็นความล่าช้าอย่างน่าพิรุธ และการตั้งคำถามของสังคม ว่าจำนวนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค. 62 กับอีก 4 วันถัดมา พุ่งพรวดขึ้นอย่างน่าสงสัยมาก!
4. ระบบการคิดคะแนนส.ส.บัญชีรายชื่อ (ปาร์ตี้ลิสต์) ของ กกต. สร้างความงงงวย! ให้กับคนไทยเป็นอย่างมาก เพราะเป็นสูตรที่พิสดารแปลกๆ เช่น พรรคได้คะแนน 8 หมื่น กับพรรคที่ได้คะแนน 3 หมื่น ห่างกันขนาดนี้ แต่กลับได้ ส.ส. 1 เท่ากัน พรรคเล็กพรรคน้อยจึงมี ส.ส. 1 คน กันหลายพรรค ทั้งที่คะแนนเฉลี่ยต่ำกว่าค่าเฉลี่ยการพึงจะมี ส.ส. ของพรรคใหญ่
เอาล่ะ! ตอนนี้งานกำลังเข้า! กกต. เพราะกลุ่มนักศึกษาเกือบ 10 มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ออกมาเรียกร้องให้ กกต. ชุดนี้ลาออก! เนื่องจากจัดการเลือกตั้งล้มเหลว! มีปัญหาเยอะ และมีความไม่โปร่งใสในหลายเรื่อง ที่ส่อไปทางเอื้อประโยชน์ให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สืบทอดอำนาจต่อไปหรือไม่ ทั้งที่พรรคพลังประชารัฐ พ่ายแพ้การเลือกตั้ง
นอกจากนี้ใน change.org มีคนเข้าไปร่วมลงชื่อเพื่อถอดถอน กกต. แล้วกว่า 830,000 คน (ข้อมูล ณ เวลา 23.50 น. วันที่ 31 มี.ค.62) ภายในสัปดาห์นี้ ตัวเลขจะเกิน 1 ล้านคน อย่างแน่นอน!!
โดย..เสือออนไลน์