บอร์ด กทพ. ไฟเขียวสร้าง พระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวน รอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก สัญญาที่ 1 และสัญญาที่ 3 มั่นใจสร้างเสร็จช่วยแก้จราจร บนถนนพระราม 2 ลงสู่ภาคใต้สะดวก พร้อมทั้งช่วยลดต้นทุนด้านการขนส่งตลอดจนต้นทุนค่าใช้จ่ายโลจิสติกส์
นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ กทพ. ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ได้มีมติเห็นชอบให้ กทพ. ดำเนินการจัดจ้างผู้รับจ้างก่อสร้างโครงการทางพิเศษสายพระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ในสัญญาที่ 1 และสัญญาที่ 3 ตามที่ กทพ. เสนอ โดยบอร์ด กทพ. เห็นชอบให้กิจการร่วมค้า ยูเอ็น-ซีซี เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างในสัญญาที่ 1 วงเงิน 7,350 ล้านบาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และกิจการร่วมค้า ไอทีดี-วีซีบี เป็นผู้ก่อสร้างในสัญญาที่ 3 วงเงิน 7,359.3 ล้านบาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมถึง กทพ. ได้มีการปรับลดระยะเวลาการก่อสร้าง จาก 39 เดือนให้เหลือเพียง 34 เดือน เพื่อให้ลดความเสียหายจากปัญหาการประมูลล่าช้าของทั้ง 2 สัญญาโครงการฯ ดังกล่าว
ทั้งนี้ หากมีการก่อสร้างแล้วเสร็จจะสามารถช่วยลดปัญหาการจราจรที่ติดขัดเป็นอย่างมากในชั่วโมงเร่งด่วน และในวันหยุดช่วงเทศกาลต่าง ๆ บนถนนพระรามที่ 2 อีกทั้งยังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเดินทางและสัญจรของประชาชนในพื้นที่ชานเมืองและจังหวัดที่อยู่รอบนอกกรุงเทพมหานคร รวมถึงเป็นเส้นทางสัญจรลงสู่ภาคใต้ พร้อมทั้งช่วยลดต้นทุนด้านการขนส่งตลอดจนต้นทุนค่าใช้จ่ายโลจิสติกส์อีกด้วย
ซึ่งหาก กทพ. ไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างได้ตามแผน จะส่งผลกระทบเสียหายหลายประการ อาทิ ความเสียหายจากการสูญเสียรายได้ค่าผ่านทาง คิดเป็น 133.8 ล้านบาท/เดือน ความเสียหายทางด้านเศรษฐกิจ คิดเป็น 544 ล้านบาท/เดือน และความเสียหายจากต้นทุนการก่อสร้างโครงการที่สูงขึ้นคิดเป็น 124 ล้านบาท/เดือน ทั้งนี้ ราคาค่าก่อสร้าง ณ เดือนกันยายน 2564 ได้พุ่งสูงขึ้น จากราคากลางไปกว่า 575 ล้านบาทแล้ว
นายสุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่มีการร้องเรียนของบริษัท ไชน่า สเตท คอนสตรัคชั่น เอนยิเนียริ่ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด นั้นคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และร้องเรียนได้พิจารณาแล้ว ข้อกล่าวอ้างของผู้ร้องเรียนฟังไม่ขึ้น โดย กทพ. ได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีประกวดราคาทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนด ในพระราชบัญญัติฯ กฎกระทรวง ระเบียบฯ หรือประกาศที่ออกตามความในพระราชบัญญัติฯ รวมถึงได้เข้าร่วมโครงการข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact) โดยมีผู้สังเกตการณ์จากองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) เข้าร่วมสังเกตการณ์การดำเนินงานในทุกขั้นตอนตั้งแต่เริ่มต้นการดำเนินการของ กทพ.
ดังนั้น จึงไม่ขัดต่อมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 และในส่วนการฟ้องร้องดำเนินคดี ในศาลปกครองกลาง หากศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งหรือคำพิพากษาเป็นประการใด กทพ. ซึ่งเป็นหน่วยปฏิบัติ ก็จะปฏิบัติตามคำสั่งหรือคำพิพากษาทันที ดังที่ กทพ. ได้ปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอด