เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 รายงานข่าวจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ.…. ลดภาษีสรรพสามิตดีเซลลง 3 บาทต่อลิตร เป็นระยะเวลา 3 เดือน (ก.พ.-เม.ย.) ทั้งนี้ ให้มีผลหลังจากราชกิจจานุเบกษาประกาศ
ปัจจุบันกรมสรรพสามิตจัดเก็บภาษีน้ำมันดีเซลในอัตรา 5.99 บาทต่อลิตร สามารถจัดเก็บรายได้ประมาณเดือนละ 12,000 ล้านบาท หรือปีละ 1.44 แสนล้านบาท จากการใช้น้ำมัน 2,000 ล้านลิตรต่อเดือน หากปรับลดอัตราภาษีเต็มจำนวนอัตราภาษีที่จัดเก็บ จะทำให้กรมสรรพสามิตสูญเสียรายได้ไปในจำนวนดังกล่าวทั้งหมด
ด้าน ดร.ทองอยู่ คงขันธ์ ที่ปรึกษาสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า พอใจระดับหนี่ง ตามที่ปรากฏจากรายงานข่าวว่า ครม.ปรับลดภาษีสรรพสามิต 3 บาท/ลิตร เป็นเวลา 3 เดือน เรื่องนี้รัฐบาลต้องฟังเสียงประชาชน เพราะเดือดร้อนกันทุกภาคส่วนทั่วประเทศ เพราะราคาน้ำมันเป็นต้นทุนของภาคการผลิตและภาคบริการ
กรปรับลดภาษีสรรพสามิตดีเซล 3 บาท/ลิตร แล้วไม่ใช่แปลว่า ดีเซลยังตรึงราคาที่ 30 บาท/ลิตร ควรปรับลดอยู่ที่ 27 บาท/ลิตร นั่นจึงจะเรียกว่า พอใจระดับหนึ่ง น่าจะปรับแก้ในทุกมิติ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ สหพันธ์การขนส่งฯ ได้เรียกร้องไปยังรัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาน้ำมันแพงด่วน 6 ข้อ แต่มาวันนี้รัฐบาลเลือกดำเนินเพียง 1 ข้อเท่านั้น
“รัฐบาลเป็นการแก้ไขปัญหาแบบจิซอร์ต่อไปคาดว่า จะเกิดปัญหากระทบเศรษฐกิจภาพรวมและลุกลามกลายเป็นโดมิโน ผมอยากเห็นรัฐบาลแก้ไขปัญหาทั้งระบบในทุกมิติ นอกจากราคาดีเซลแพงทั้งแผ่นดิน น้ำมันเบนซินก็ยังแพงอยู่ด้วย ดังนั้น ควรแก้ไปพร้อมๆ กันทันที ที่ผ่านมา ข้องใจทำไมรัฐบาลลดภาษีน้ำมันให้กับเครื่องบินได้ เท่ากับทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ หรือยังเก่าไม่ถูกที่คัน”
ทั้งนี้ ข้อเสนอสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย 6 ข้อ มีดังนี้
1. เลิกการอ้างอิงราคาหน้าโรงกลั่นของประเทศสิงคโปร์
2. ยกเลิกการเจ็บภาษีที่ซ้ำซ้อน และยกเลิกการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง, กองทุนเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน ยกเลิกค่าการตลาด
3. พิจารณาปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ
4. สนับสนุนส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงพลังงานทางเลือก พลังงานสะอาด ในราคาถูก
5. นำกิจการด้านพลังงานกลับมาเป็นของรัฐเช่นเดิม เพราะชี้ชัดว่า การแปรรูปรัฐวิสาหกิจนั้นไม่เป็นผลดีแก่ประชาชนแม้แต่น้อย แต่กลับทำให้ประชาชนต้องใช้น้ำมันพลังงาน ในราคาที่แพงขึ้น ที่โฆษณาต่อประชาชนว่า การแข่งขันเสรีพลังงานแล้วประชาชนจะได้ใช้บริการในราคาที่ถูกลง ล้วนเป็นเรื่องไม่จริง
6. สนับสนุนให้ประเทศมีความมั่นคงด้านพลังงาน โดยรัฐหรือกิจการของรัฐ ต้องผลิตพลังงานไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของกำลังการผลิตทั้งหมด