ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2566 เมื่อเวลา 15.00 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ พระราชกฤษฎีกา ยุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2566 ความว่า ด้วยนายกรัฐมนตรีได้นำความกราบบังคมทูลฯ ว่า ตามที่สภาผู้แทนราษฎรได้ปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่ พ.ศ. 2562 และบัดนี้ได้ปิดสมัยประชุมสามัญประจำปีที่สี่ อันเป็นปีสุดท้ายของอายุสภาผู้แทนราษฎรแล้ว สมควรยุบสภาผู้แทนราษฎรเพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่เป็นการเลือกต้ังทั่วไป ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย อันเป็นการคืนอำนาจการตัดสินใจทางการเมืองให้แก่ประชาชนโดยเร็ว เพื่อให้การปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 103 และมาตรา 175 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตรา “พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2566” โดยใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป พร้อมกำหนดให้มีการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่ เป็นการเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งต้องไม่น้อยกว่าสี่สิบห้าวันแต่ไม่เกินหกสิบวัน นับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ
“วิษณุ” ชี้ยังเป็น “นายกฯ” เต็มคาราเบล
ด้าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังมีพระราชกฤษฎีกายุบสภา ว่า ขณะนี้หากจะเรียกตำแหน่งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังเรียก นายกรัฐมนตรีเหมือนเดิม จะไม่ใช้คำว่า “รักษาการ” เพราะคณะกรรมการกฤษฎีกา เคยให้เหตุผลมาว่า หากใช้คำว่า “รักษาการ” จะเกิดความสับสนในภายหลัง รวมถึงตำแหน่งทางการเมืองอื่นๆ ยังคงเรียกตามตำแหน่งเดิมอยู่ รักษาการจะมีอย่างเดียว คือ “คณะรัฐมนตรีรักษาการ” เนื่องจากรัฐธรรมนูญมาตรา 168 ระบุให้คณะรัฐมนตรีอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่ อีกทั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยังเคยแจ้งมาว่า การจะยื่นทรัพย์สิน กรณีพ้นตำแหน่งรัฐมนตรี ต้องให้พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีจริงๆ ก่อน
ธุรกิจขานรับ “ยุบสภา”
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ประกาศยุบสภาในวันนี้ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากเป็นการสร้างความชัดเจนให้กับทุกพรรคการเมืองได้เดินหน้าหาเสียงกันอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกัน ประชาชน ภาคเอกชน รวมถึงนักลงทุนต่างประเทศ เกิดความเชื่อมั่นและมีความชัดเจนในการเดินหน้าทางเศรษฐกิจของไทยนับจากนี้
ทั้งนี้ หอการค้าไทย อยากเห็นการฟอร์มทีมรัฐบาล หลังการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความรวดเร็ว และราบรื่น เพราะจะเกี่ยวข้องกับการใช้งบประมาณเพื่อแก้ไขและฟื้นฟูเศรษฐกิจ รวมไปถึงนโยบายและมาตรการต่างๆ โดยเฉพาะนโยบายที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจปากท้องประชาชน ของพรรคการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้ง ซึ่งจะต้องเร่งนำมาใช้ทันที และจะช่วยให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ของปีนี้ด้วย
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของตลาดหุ้นกลับดิ่งเหวลงอย่างหนักขานรับประกาศยุบสภาในครั้งนี้ โดยหลังการเปิดตลาดในภาคบ่าย ดัชนีหุ้นปรับร่วงลงทันทีเกือบ 20 จุด ก่อนจะปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในช่วงท้ายตลาด แต่ยังอยู่ในแดนลบ โดยยังติดลบที่ระดับ 13.22 จุด