คลังชี้ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค (Thailand Regional Economic Sentiment Index: RSI) ประจำเดือนเมษายน 2566 สะท้อนความเชื่อมั่นเศรษฐกิจใน 6 เดือนข้างหน้าปรับตัวดีขึ้นในทุกภูมิภาค นำโดยภาคใต้ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคบริการเป็นสำคัญนายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนเมษายน 2566 จากการประมวลผลข้อมูลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจรายจังหวัดจากสำนักงานคลังจังหวัด 76 จังหวัดทั่วประเทศ และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เพื่อจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค พบว่า "ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคเดือนเมษายน 2566 สะท้อนความเชื่อมั่นเศรษฐกิจใน 6 เดือนข้างหน้า ที่จะปรับตัวดีขึ้นในทุกภูมิภาค นำโดยภาคใต้ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคบริการเป็นสำคัญ" โดยมีรายละเอียดดังนี้ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคใต้ อยู่ที่ระดับ 83.5 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้นโดยเฉพาะในภาคบริการ เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง และความเชื่อมั่นเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมในอนาคตที่ดีขึ้น เนื่องจากคาดว่ายอดคำสั่งซื้อสินค้าอุตสาหกรรมจากประเทศคู่ค้าปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์ยางพาราดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออก อยู่ที่ระดับ 82.3 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้นโดยเฉพาะในภาคบริการเนื่องจากมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ต่อเนื่อง และความเชื่อมั่นเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรมในอนาคตที่ดีขึ้น เนื่องจากมีแนวโน้มความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ หากพิจารณาเฉพาะความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) พบว่า ดัชนีอยู่ที่ระดับ 84.3 โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคบริการและอุตสาหกรรมเช่นกันดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคเหนือ อยู่ที่ระดับ 77.5 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้นโดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากคาดว่ายอดคำสั่งซื้อสินค้าอุตสาหกรรมจากคู่ค้าในประเทศเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และสินค้าเกษตรแปรรูป และความเชื่อมั่นเศรษฐกิจภาคบริการในอนาคตที่ดีขึ้น เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวไทยตามโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อยู่ที่ระดับ 77.4 ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้นโดยเฉพาะในภาคบริการ เนื่องจากจำนวนนักเที่ยวปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ต่อเนื่อง และในภาคการลงทุน เนื่องจากผู้ประกอบการภาคบริการบางรายมีแนวโน้มที่จะขยายกิจการของตนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจภัตตาคารดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันตก อยู่ที่ระดับ 76.8 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้น โดยเฉพาะในภาคบริการ เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับมีโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 และในภาคการลงทุน เนื่องจากผลประกอบการที่ปรับตัวดีขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการบางรายมีแนวโน้มจะขยายกิจการเพิ่มขึ้นดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคกลางอยู่ที่ระดับ 71.9 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้นโดยเฉพาะในภาคบริการ เนื่องจากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ต่อเนื่อง และความเชื่อมั่นเศรษฐกิจภาคการลงทุนในอนาคตที่ดีขึ้น จากการที่ผู้ประกอบการบางรายมีแนวโน้มที่จะขยายกิจการของตนเพิ่มขึ้นดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของ กทม. และปริมณฑล อยู่ที่ระดับ 60.9 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้นโดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากคาดว่ายอดคำสั่งซื้อจากคู่ค้าในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้น และในภาคบริการจากจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการบางรายมีความกังวลต่ออัตราค่าไฟฟ้าที่อยู่ในระดับสูง