ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และปัจจุบันในฐานะประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ได้ออกมาความคิดเห็นการซื้อขายหุ้นอยู่ในภาวะตกต่ำ โดยโพสต์ในเฟซบุ๊กว่า "เลิก Program Trading… จะดี" นั้น
มีความเคลื่อนไหวล่าสุดจาก นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวได้หารือกับทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แล้ว พร้อมได้สั่งการให้ ก.ล.ต. ไปพิจารณา เนื่องจากเป็นอำนาจของ ก.ล.ต.ว่า การใช้โปรแกรมเทรดดิ้ง มีผลกระทบหรือไม่อย่างไร ถ้าหากตรวจสอบแล้ว พบว่า มีผลกระทบ และไม่ควรมีการใช้โปรแกรมเทรดดิ้ง ก็ต้องมีมาตรการหรือประกาศยกเลิกต่อไป
ส่วนมีผลกระทบต่อหุ้นที่กระทรวงการคลังหรือรัฐบาลเข้าไปถือหรือไม่นั้น ยืนยันว่า ไม่มีผลกระทบ เนื่องจากการถือหุ้นของภาครัฐไม่ใช่ทำเพื่อการเก็งกำไร แต่เป็นก็เข้าไปถือหุ้นตามนโยบายเท่านั้น
"ปลัดกระทรวงการคลังได้หารือกับ ก.ล.ต. อยู่ตลอด เนื่องจากเป็นกรรมการของ ก.ล.ต.อยู่แล้ว ดังนั้น ไม่ว่าจะเรื่องใดก็มีการหารือกันตลอด ซึ่งท่านนายกฯ ก็มอบหมายให้ปลัดกระทรวงการคลัง ดูแลต่อเนื่อง ทั้ง ก.ล.ต. รวมถึงตลาดหลักทรัพย์ และ ธนาคารแห่งประเทศไทยด้วย"
รมช.คลัง ยังกล่าวต่อว่า ส่วนที่ตลาดหุ้นอยู่ในภาวะตกต่ำนั้น น่าจะเกิดจากสาเหตุเฉพาะภายในตลาดทุนเอง อย่างไรก็ดี เสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศยังดีมาก โดยมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ที่ 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ มีเงินคงคลังมีกว่า 5 แสนล้านบาท ส่วนอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) อยู่ที่กว่า 19% ซึ่งมากกว่าที่ ธปท.กำหนด รวมถึงดุลการค้าประเทศก็ยังดีอยู่ และเรื่องการจัดดับเครดิตประเทศก็ยังดีอยู่เช่นกัน ดังนั้น ยืนยันว่า เรื่องของตลาดหุ้นน่าจะเป็นปัญหาเฉพาะภายในตลาดเองเท่านั้น