นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก นายเทพภิญโญ โคตรนนท์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านวิชาการชั่งตวงวัด ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการกองชั่งตวงวัด ว่า กรมฯ ได้รับข้อร้องเรียนจากเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ว่าได้นำรถบรรทุกมันสำปะหลังไปขายที่ลานรับซื้อแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี เมื่อชั่งน้ำหนักแล้วพบว่าน้ำหนักของมันสำปะหลังน้อยกว่าที่ชั่งจากเครื่องอื่น 300 กก. จึงได้ส่งสายตรวจเฉพาะกิจสำนักงานกลางชั่งตวงวัด กรมการค้าภายใน ไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดลพบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ. เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2567 โดยใช้วิธีการซุ่มคอยที่ลานรับซื้อ เมื่อมีรถบรรทุกมันสำปะหลังขึ้นชั่งปรากฎว่า น้ำหนักหายไป 300 กก.
ตามข้อร้องเรียนของเกษตรกร สายตรวจจึงแสดงตัวแล้วให้ผู้ที่เป็นคนชั่งน้ำหนักนำเข้าตรวจค้นบริเวณห้องชั่งน้ำหนักและห้องนอนที่อยู่ติดกัน พบกล่องสีดำที่ใช้รับสัญญาณวิทยุ มีสายสัญญาณต่อพ่วงกับสายสัญญาณของโหลดเซลล์ และตรวจพบรีโมทคอลโทรล ซึ่งมีปุ่มสำหรับส่งสัญญาณวิทยุใช้สำหรับลดทอนค่าน้ำหนัก จำนวน 1 อัน
จากการตรวจสอบพบว่า ชุดอุปกรณ์ดังกล่าวสามารถใช้ลดทอนค่าน้ำหนักสิ่งของที่นำไปชั่งได้ครั้งละ 50- 500 กก. จึงได้จับกุมผู้ที่เป็นคนชั่งน้ำหนัก โดยแจ้งข้อกล่าวหาตาม พ.ร.บ. มาตราชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 75/1, 75 แก้ไข/ดัดแปลงส่วนประกอบหรือโปรแกรมที่ใช้กับเครื่องชั่ง เพื่อให้เครื่องชั่งแสดงค่าน้ำหนักผิดจากความเป็นจริง และมาตรา 76 (2) ใช้เครื่องชั่งที่มีการดัดแปลงฯ มีโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 280,000 บาท
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า พฤติกรรมในลักษณะนี้เป็นการจงใจเอาเปรียบเกษตรกรซึ่งไม่สามารถยอมรับได้ จึงได้สั่งการให้สำนักงานกลางชั่งตวงวัดจัดการอย่างเด็ดขาด โดยบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสืบสวนหาข่าวและจับกุมผู้กระทำความผิดมาลงโทษ หากประชาชนหรือเกษตรกรพบเบาะแสการกระทำในลักษณะนี้ขอให้แจ้งเบาะแสมาทางสายด่วนกรมการค้าภายใน โทร 1569 หรือสำนักงานสาขาชั่งตวงวัด/สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ