“เหรียญย่อมมี 2 หน้า” ผูกโยงเข้ากับสำนวนโบราณ “จ้างผีโม่แป้ง” เกี่ยวอะไรกับ “ทัวร์ศูนย์เหรียญ - จีนใกล้เทา – ฟรีวีซ่าจีน -ไทย” เกี่ยว! เพราะมี จนท.รัฐไทยและคนไทยร่วม “สมคบคิด” เปิดช่องใช้นโยบายฟรีวีซ่า ให้คนจีนบางจำพวกเข้ามาแย่งอาชีพของคนไทย
……
1 มีนาคม 2567 “ดีเดย์” ฟรีวีซ่าจีน-ไทย หมายความว่า... จากนี้ไป ผู้คนจาก 2 ประเทศ “จีน-ไทย” สามารถเดินทางเข้าระหว่างกัน แบบไม่ต้องขอวีซ่าเข้าประเทศ อยู่ในนานถึง 30 วัน
ก่อนหน้านั้น...25 กันยายน 2566 รัฐบาลไทยเปิดฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถาน เป็นการนำร่อง แต่ดูเหมือนในฝั่งจีน จะไม่ประสบผลสำเร็จตามที่คาดหวัง
ประเด็นสำคัญ...เพราะดันมี ข่าวลือ...ข่าวลวง ทั่วโลกโซเชียลของจีน ทำนอง...ไทยคือศูนย์กลางความชั่วร้าย “แหล่งค้ามนุษย์” มีเป้าหมายอยู่ที่นักท่องเที่ยวจีน ผสมโรงด้วยภาพยนตร์จีนเรื่อง No More Bets (จะไม่มีการพนันอีกต่อไป) ยิ่งทำให้ “นักท่องเที่ยวจีนไม่มาตามนัด”
เกิดปรากฏการณ์ “กลัว” การมาท่องเที่ยวในประเทศไทย ระดับ “อุจาระขึ้นสมอง”
กว่าทางการจีนจะช่วยแก้ไขภาพลักษณ์ของไทย ที่เสียหายจาก “ข่าวลือ...ข่าวลวง” ก็ทอดเวลาไปเกือบปี นั่นจึงนำไปสู่แนวนโยบายของ 2 ชาติ คือ ฟรีวีซ่าไทย-จีน ในอีก 20 กว่าวันข้างหน้า...
ลึกๆ ว่ากันว่า...เหตุที่ทางการจีน ลงมาหยุด “ข่าวลือ...ข่าวลวง” ดังกล่าวนั้น คือ มันต้องแลกกับการที่รัฐบาลจะต้องเร่งเดินหน้าสร้างโครงการรถไฟฟ้าไทย-จีน พร้อมกับขยายเส้นทางลงใต้ ให้คนจีนได้เดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูงไปยัง...มาเลเซียและสิงคโปร์
ทิ้งเรื่องข้อต่อรองที่ยังไม่รู้ว่า... รัฐบาลไทยจะทำให้ได้ในระดับใด? พักเอาไว้ก่อน หันมาดูกันต่อถึงสิ่งที่จะมีตามมาจากนโยบายฟรีวีซ่าจีน-ไทย
หากใครเชื่อใน ทฤษฎี “เหรียญมี 2 หน้า” ย่อมต้องเชื่อกับแนวคิดต่อไปว่า “ในดีย่อมมีเสีย!”
ความหมายคือ...ไม่มีอะไรที่จะมีด้านดีเพียงอย่างเดียว เช่นกัน นโยบายฟรีวีซ่าไทย-จีน ย่อมมีปัญหา-ภาระตามมาเกินกว่าเรื่องของนักท่องเที่ยวจีนจะเข้าไทยมากขึ้น
ลำพังนักท่องเที่ยวปกติ...ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนัก แต่นักท่องเที่ยวที่ไม่ปกตินี่สิ น่ากลัวที่สุด!
อะไร...ใคร? คือ นักท่องเที่ยวที่ไม่ปกติ???
นักท่องเที่ยวที่ไม่ปกติ ก็คือ...นักท่องเที่ยวที่ไม่ได้มีเป้าหมายเดินทางเพื่อการท่องเที่ยวเป็นหลัก แต่คาดหวังจะแฝงตัว... สร้างเครือข่าย ทำธุรกิจการค้าทั้งที่ถูกและไม่ถูกกฎหมาย
เรื่องถูกกฎหมาย...ทำเป็นธุรกิจในระดับอุตสาหกรรม ตรงนี้ไม่มีปัญหา แต่พวกที่แฝงตัวเข้ามา “แย่งอาชีพคนไทย” แม้จะมีกฎหมายคุ้มครองแล้วก็ตาม แต่คนพวกนี้...มีกลอุบายและวิธีการที่ “แทรกตัว” เข้ามาหาประโยชน์ในประเทศไทย
สำนวนจีนโบราณ “จ้างผีโม่แป้ง!” แปลความเป็นไทยได้ใจความว่า... “เงิน...ง้างได้ทุกอย่าง แม้กระทั่ง ทำผิดให้เป็นถูก?”
คนไทย...โปรดรู้กันไว้?
คนจีน..ตั้งแต่จีนขาว ยันจีนเทา กระทั่ง จีนดำสกปรก! ล้วนเข้าใจตรงกันและสื่อสารถึงกันโดยตลอด ทำนอง...เจ้าหน้าที่รัฐไทย “จ่ายเงิน...ก็ทำงานสกปรกให้” มิต่างจากการ “จ้างผีโม่แป้ง!”
ยิ่งนโยบาย 2 ประเทศ “จีนและไทย” กำลังจะเปิดให้มีการ “ฟรีวีซ่าระหว่างกัน” แนวโน้มที่...คนจีน โดยเฉพาะ คนรุ่นใหม่...หนุ่มสาววัยทำงาน ทั้งที่ยังโสด มีคู่รัก และมีครอบครัวอยู่แล้ว ตั้งเป้าจะเข้ามาใช้ชีวิตในไทย มีสูงมากขึ้น
สถิติบอกได้ชัด! ยอดนักท่องเที่ยวจีนในปี 2566 ทะลุ 3.72 ล้านคน แม้จะต่ำกว่าเป้าที่ทางการไทย (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท.) วางไว้ในระดับ 4 ล้านคนขึ้นไป หลังจากมีการเปิดฟรีวีซ่าขาเดียวให้กับ นักท่องเที่ยวจีน เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา
ทว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวจีน นับแต่ต้นปี 2567 เป็นต้นมา ก็น่าสนใจไม่น้อย เฉพาะเดือนแรกของปี (มกราคม 2567) พบจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยแล้วกว่า กว่า 5 แสนคน เทียบกับเดือนธันวาคม 2566 เพิ่มขึ้นถึง 23%
อันที่จริง นักท่องเที่ยวจีน เพิ่มมากขึ้นมาโดยตลอด ยิ่งเดือนสุดท้ายของปี 2566 (ธันวาคม) พบว่า... มีนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้านี้ (พฤศจิกายน 2566) มากถึง 34%
คาดว่าในเดือนแห่งความรัก ประสานปีใหม่จีน (ตรุษจีน) นั้น จะมีนักท่องเที่ยวจีนไหลทะลักเข้ามาท่องเที่ยวยังประเทศไทยมากถึงเกือบเท่าตัว เมื่อเทียบกับเดือนมกราคมที่ผ่านมา
เราอาจได้เห็นนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาท่องเที่ยงในประเทศไทย ช่วงวันหยุดยาวๆ ของจีน พุ่งทะลุถึง 1 ล้านคนในเดือนกุมภาพันธ์นี้
ถามว่าดีหรือไม่?
หากจะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขนาดนี้ “สำนักข่าวเนตรทิพย์” ก็ต้องบอกความจริงว่า...ดีแน่! หากนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มนี้ จะไม่มี “วาระซ่อนเร้น” แอบแฝงมา...
แต่ขึ้นชื่อว่า คนจีน ไม่ว่าจะยุคสมัยใด? ลูกเล่นเยอะ ตรงไปตรงมา...เป็นไม่มี!!!
การเปิดฟรีวีซ่า! ไม่ว่าจะ “ขาเดียว” (รัฐไทยเปิดให้คนจีนเข้าไทย) หรือ “2 ขา” (ต่างคนต่างเปิดฟรีวีซ่า) ล้วนเปิดช่องให้คนจีนบางกลุ่ม? ได้ “แฝงตัว” เข้ามาหาโอกาสและสร้างประโยชน์ในประเทศไทย แบบ “ไม่ถูกต้อง...ตรงไปตรงมา”
โดยใช้กลอุบาย “จ้างผีโม้แป้ง” กับเจ้าหน้าที่รัฐไทย ในกลุ่มจะเกี่ยวข้องกับผลประโยนชน์ของพวกเขา
คนจีนกลุ่มนี้...ไม่ได้มองประเทศไทย ในฐานะ “สวรรค์ของการท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ” ในมิติของการท่องเที่ยวอย่างเดียว แต่ยังมองเห็นในมิติการสร้างโอกาสเชิงธุรกิจ แม้จะทำผิดกฎหมาย “ห้ามแย่งอาชีพคนไทย” ทว่าพวกเขาก็มีทางออก...
และเป็นทางออกที่คนดีๆ เขาไม่ทำกัน เพราะ ฟรีวีซ่า! อายุการพักอาศัยนานสูงสุดก็แค่ 30 วัน แต่มันน้อยมาก...หากคิดจะทำมาหากินในประเทศไทย ดังนั้น คนจีนกลุ่มนี้ จึงจำเป็นจะต้องสร้างกลอุบายเพื่อให้ตัวเองอยู่ในประเทศไทยได้นานขึ้น โดยอาศัยเครือข่ายของคนจีนที่แอบมาพำนักพักอาศัยในประเทศไทยแล้วก่อนหน้านี้
นาทีนี้...พบข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ระบุว่า...ปัจจุบันมีคนจีนที่ลักลอบอยู่เกินกำหนดเวลาและทำมาหากิน แย่งอาชีพสงวนของคนไทยในประเทศไทย รวมกันไม่ต่ำกว่า 5 แสนคน
ยิ่งสำนวนโบราณ “จ้างผีโม่แป้ง” ใช้ได้ดีกับเจ้าหน้าที่รัฐไทย ยิ่งเปิดช่องให้คนจีนกลุ่มนี้ เตรียมกระเป๋าเดินทางเข้าไทย โดยอาศัยนโยบายฟรีวีซ่าได้ง่ายและมากขึ้น
กระแสที่กลุ่มคนหนุ่มสาวชาวจีนรุ่นใหม่ หลั่งไหลเข้ามาทำธุรกิจการค้าในประเทศไทย กลายเป็นสิ่งที่ภาครัฐของไทย ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด เพราะแนวคิดของคนจีนรุ่นใหม่ แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากคนจีนยุคเสื่อผืนหมอนใบ เมื่อหลายสิบปีก่อนหน้านี้ ยิ่งนัก!
จะด้วยเหตุผลที่เศรษฐกิจจีนยามนี้...ไม่จะสู้ดีนัก เพราะผลพวงจากพิษธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ล้มละลายไปหลายสิบบริษัท กระทั่ง ส่งผลกระทบต่อไปยังธุรกิจธนาคาร จนสร้างความชิบหายกับนักธุรกิจชาวจีนเป็นจำนวนมาก หรือเพราะ กฎระเบียบที่ทางการจีนคุมเข้มสุดๆ จนเกิดข่าวลือทำนอง “ยึดเงิน-ยึดธุรกิจ” ของมหาเศรษฐีจีน จนหลายคนต้องรีบนอกประเทศ..
เกรดดีๆ ไปอเมริกา ยุโรป ในเอเชีย ก็เป็น...สิงคโปร์
เกรดต่ำ กระทั่งไร้เกรด ก็มาอยู่ในประเทศไทย เพราะที่นี่ เงินซื้อได้ทุกสิ่ง มิต่างจากสำนวน “จ้างมีโม่แป้ง”
ใครที่เคยผ่านไปยังย่าน…ย่านถนนรัชดา ห้วยขวาง ถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ ถนนพหลโยธินตัดรามอินทรา ย่านสะพานใหม่ดอนเมือง แม้กระทั่ง ย่าน “ไชน่าทาวน์-เก่า” เยาวราช พาหุรัด ไถลไปถึง...ย่านตลาดโบ๊เบ๊ ฯลฯ
ทุกย่านที่กล่าวมา...ล้วนก่อเกิดเป็น “ไชน่าทาวน์แห่งใหม่” มีทั้ง...ร้านรวงธุรกิจร้านค้าและร้านอาหารจีน ที่คลาคล่ำไปด้วยป้ายภาษาและอักษรจีน ยิ่งเป็นยามราตรีด้วยแล้ว เหมือนเดินอยู่ในประเทศจีนก็มิปาน
เทคนิคการเข้ามาแย่งอาชีพของคนไทย โดยที่กฎหมายเอาผิดยาก แต่ทำได้ง่ายๆ ในประเทศนี้ นั่นคือ...
หนึ่ง...ซื้อเจ้าหน้าที่รัฐไทย (จ้างผีโม่แป้ง) ต่อด้วย สอง...จ้างคนไทยเป็น “นอมินี” หรือ “ตัวแทนอำพราง” เปิดทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวในประเทศไทย ตั้งแต่ร้านค้า ขายของกินของใช้ทั่วไป ยันร้านขายของฝาก ร้านอาหาร แม้กระทั่ง เปิดบริษัทนำเที่ยว (ทัวร์ศูนย์เหรียญ) โดยจ้าง ไกด์คนไทย มานั่งเฉยๆ แล้วสวมตอด้วย ไกด์คนจีน มาบอกเล่าและให้ข้อมูลผิดๆ เกี่ยวกับการท่องเที่ยวในประเทศ
กล่าวกันว่า...นับเวลาจากนี้ไป “ทัวร์ศูนย์เหรียญ” ในประเทศไทยจะกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง หลังจากที่เคยโดนปราบปรามอย่างรุนแรงไปเมื่อหลายปีก่อนหน้านี้
คนไทยลองคิดกันเอง...พฤติกรรมของคนจีนกลุ่มนี้ และเจ้าหน้าที่รัฐไทยกลุ่มนั้น มันส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวของไทยแค่ไหน?
ยิ่งการเปิด ฟรีวีซ่าจีน-ไทย “ดีเดย์” 1 มีนาคม 2567 ด้วยแล้ว ภาพอนาคตของการท่องเที่ยวในประเทศไทย ฉากทัศน์การแย่งงานแย่งอาชีพคนไทย และภาพเลวร้ายๆ อื่นๆ จะเป็นเช่นใด? คงเดากันได้ไม่ยากนัก!!!