นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณีนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ ระบุว่านอกจากพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่แล้ว ยังพบ ส.ป.ก.บุกรุกพื้นที่อุทยานอื่นอีกกว่า 100 ไร่ ว่า การแถลงเมื่อวานนี้ ( 21 ก.พ.) เป็นข้อตกลงระหว่างกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กับสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ ส.ป.ก. ว่าจะกลับไปสำรวจทั้งหมดที่ ส.ป.ก. ไปปักหมุด แล้วรายงานกลับเข้ามา ขณะนี้ขอให้หยุดปักหมุดเพิ่มก่อน และให้สำรวจที่ออกประกาศไปแล้ว เรื่องนี้จะเร่งรัดเรื่องดังกล่าวให้เร็วที่สุด ซึ่งภายในสัปดาห์นี้ทั้ง 2 หน่วยงานจะหารือกัน และหากเป็นการออกประกาศทับพื้นที่อุทยานก็จะต้องยกเลิกเหมือนที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พูดไว้ว่า ป่าอนุรักษ์ออกไม่ได้อยู่แล้ว ต้องถอยและคืนให้เป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ไป รวมถึงพื้นที่เขตติดต่อนั้น ส.ป.ก. ก็ระบุว่า จะไม่ออกประกาศให้ แล้วคืนพื้นที่ให้กับ ทส. ส่วนพื้นที่ที่มีการปักหมุด ส.ป.ก. ไปแล้ว จะทำอย่างไรนั้น นายจตุพร กล่าวว่า ย้ำว่าจะต้องไปดูว่าหากเป็นป่าหรือเป็นอะไรต้องคืนหมด โดยหลังจากนี้การออกพื้นที่ ส.ป.ก. จะต้องมีเจ้าหน้าที่ของส่วนราชการอื่นเข้าไปด้วย ไม่ใช่ ส.ป.ก. ไปหน่วยงานเดียวไม่ได้ ต้องเชิญหน่วยงานที่ดูแลที่ดินของรัฐไปดูทั้งหมด เมื่อถามว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความขัดแย้งของเจ้าหน้าที่หรือฝ่ายการเมืองใช่หรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่มากกว่าที่ออกไม่รอบคอบ การเมืองไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ส่วนการแถลงข่าวร่วมกันระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ นายจตุพร กล่าวว่า ไม่มี เพราะอธิบดีกรมอุทยานฯ มาร่วมแถลง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงของนายชัยวัฒน์ ไม่น่ามีปัญหาอะไร จากนี้ต้องยึดถือมาตรการที่วางร่วมกันซึ่งหลังจากนี้ นายชัยวัฒน์ยังสามารถเดินหน้าตรวจสอบเรื่องนี้ได้อยู่ใช่หรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติ เพราะเราพูดชัดว่าให้สำรวจพื้นที่ ส.ป.ก.ที่ออกไปแล้ว และพื้นที่ติดแนวเขตอุทยาน หากเป็นป่าอนุรักษ์มันไม่สามารถออกเป็น ส.ป.ก.ได้อยู่แล้ว ส่วนที่มีปัญหาก็ให้คณะกรรมการกลางดูอยู่ ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ข้าราชการไม่สามารถดำเนินการเองได้ หากไม่มีผู้มีอำนาจเหนือกว่าสั่งการ นายจตุพร กล่าวว่า ไม่มี เรื่องนี้เป็นเรื่องของคณะกรรมการระดับจังหวัด เมื่อถามว่า การยกเลิก ส.ป.ก. ในพื้นที่ที่มีปัญหา จะต้องไปเอาผิดข้าราชการที่ออกประกาศ ส.ป.ก. ดังกล่าวด้วยหรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า ต้องดูเป็นกรณีไป ถ้าออกโดยไม่ถูกต้องตามระเบียบก็ต้องว่าไปตามนั้น
