ขนาด "ไอ้เสือ" ส.ป.ก.ยังถอย! กรณีหมุด ส.ป.ก.ปริศนาที่ไปโผล่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หวังจะสวมรอย “สะด๊วบ” ผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ไปกะเขาด้วย ยังลนลานล่าถอย หลังจากสื่อมวลชนและเครือข่ายในภาคประชาชนลุกฮือขึ้นมาตีแผ่ขบวนการสวมสิทธิ์เตรียมออกโฉนด ส.ป.ก.4-01
จน รมต.เกษตร นายธรรมนัส พรหมเผ่า ที่เคยถลำลึก ลุกขึ้นมาฟ้อนเงี้ยวกางแผนที่ ส.ป.ก.ใส่กรมอุทยานในวันนั้น ยังต้องกลับลำหันมาประสาน ปปง. งัดกฎหมายการฟอกเงินเตรียม “ไล่บี้” นายทุนที่ดอดไปร่วมฮุบที่ ส.ป.ก.กะเขาด้วย
แล้วรถไฟฟ้า “สายสีส้ม” ที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ปาหี่จัดประมูลกันเอาไว้ตั้งแต่ปีมะโว้ 2565 และ “ตั้งแท่น” เสนอผลประกวดราคาที่อ้างว่าดำเนินการมาอย่างถูกต้อง โปร่งใสไร้ใบเสร็จ (แต่กลับไม่สามารถชี้แจงความกระจ่างแก่สังคมได้ว่า เหตุใดผลประมูลมันถึงได้แพงสุดลิ่มถึง 78,287 ล้านบาท เทียบกับวงเงินที่คู่แข่งเคยยื่นข้อเสนอขออุดหนุนจากรัฐแค่ 9,635 ล้านบาทเท่านั้น) จะยังกล้า “ดั้นเมฆ” ลุยไฟกันอีกหรือ?
จะชี้แจง “ส่วนต่าง” ตั้ง 68,000 ล้าน ทั้งที่เนื้องานการดำเนินโครงการยังคงเดิมทุกกระเบียดนิ้วกันอย่างไร? !
และเมื่อเทียบกับโครงการรถไฟฟ้า สายสีเหลือง และสายสีชมพู ของ รฟม.เอง ที่ประมูลในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ทั้งสองโครงการล้วนของบสนับสนุนงานโยธาจากภาครัฐแค่ 10,000-20,000 ล้านบาทเท่านั้น แต่ทำไมรถไฟฟ้าสายสีส้มถึงกระโดดค้ำถ่อดอดของบอุดหนุดจากรัฐไปตั้ง 75,000 ล้านบาทได้!
แถมยังมีข่าวเรื่องของ “เงินทอน” 30,000 ล้าน ที่ “เฮียชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” เคยออกมากระซวกไส้จนใครต่อใครในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กระเจิดกระเจิง! คณะรัฐมนตรี (ครม.) ในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ชุดก่อนต่างชิ่งหนี “เผือกร้อน” โครงการนี้กันจ้าละหวั่น!
จะยกแม่น้ำทั้งห้า มาสาธยายแก้ต่างอย่างไรก็ยากจะฟอกขาว “ส่วนต่าง” ที่สูงลิ่วกว่า 68,000 ล้าน ที่คู่แข่งอีกเจ้าเคยยื่นข้อเสนอและถูกปิดผนึกเอาไว้ แต่ รฟม.ชิงประกาศยกเลิกประกวดราคาไป
ทั้งที่หากเดินหน้าเปิดซองราคากันไปในวันนั้น (15 พ.ย. 63) วันนี้ (4 ปีมาแล้ว) ชาวมีนบุรีคงได้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรีไปแล้ว!
แถม “ส่วนต่างราคา” กว่า 68,000 ล้านที่ว่านั้น พรรคเพื่อไทย (พท.) เอง เมื่อครั้งเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านยังร่วมกับพรรคฝ่ายค้านยื่นเรื่องร้องทุกข์กล่าวโทษต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้เข้ามาตรวจสอบขบวนการฮั้วประมูลโครงการนี้อีกด้วย
ตัวอดีต รมต.คมนาคม ที่ถูกร้องเรียนในวันนั้นยังถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำพิพากษาให้พ้นจากตำแหน่ง รมต.คมนาคม และต้องยุติบทบาททางการเมืองไปตลอดศก !
แล้ววันนี้เกิดอะไรขึ้น ?
เหตุใด รมต.คมนาคม จากพรรคเพื่อไทย (พท.) ถึง “กลับลำ” 360 องศา ตั้งแท่นชง ครม. ให้ “ไฟเขียว” ผลประกวดราคาที่ถูกเก็บงำกันเอาไว้ตั้งแต่ปีมะโว้ (8 ก.ย.2565) หรือเมื่อกว่า 1 ปี 6 เดือนก่อน แบบ “ไม่กลัวไฟ” ทั้งที่ไม่มีปัจจัยอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมแม้แต่น้อย
หรือว่า เพราะเวลาเปลี่ยน แต่ “ผลประโยชน์ก้อนโต” มันไม่เปลี่ยน!
(หมายเหตุ : จะทำอะไรทั่น รมต.และรัฐบาลก็คงต้องรีบทำรีบดำเนินการกันเสียนะ เพราะอีกเดี๋ยวไม่ถึง 2 เดือน ประมาณ พ.ค.นี้ “เฮียชูวิทย์” ก็จะบินกลับมาแล้วนะ จะบอกให้)