ควันหลงจากการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ระหว่างทีม “ช้างศึก” ทีมชาติไทย และทีมชาติเกาหลี ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อค่ำวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา แม้จะจบเกมลงไปด้วยสกอร์อันน่าผิดหวัง “ทีมช้างศึก” ของไทยไม่สามารถจะ “หักด่าน” นักเตะแดนกิมจิ เกาหลีใต้ ไปได้ ต้องพ่ายไปด้วยสกอร์ 0 ต่อ 3
และต้องไปลุ้นวัดดวงเอากับ 2 แมตช์ที่เหลือกับสาธารณรัฐประชาชนจีน และสิงคโปร์ ซึ่งต้องชนะทั้ง 2 แมตช์รวดเท่านั้น จึงจะการันตีเข้ารอบ หากเสมอทีมชาติใดไปสักแมตช์ก็ต้องไปลุ้นวัดดวงประตูได้เสีย เรียกได้ว่าต้องได้ลุ้นระทึกไปจนวินาทีสุดท้ายเลยก็ว่าได้
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับกันว่าก่อนหน้านี้ทีมช้างศึกของไทยได้สร้างปาฏิหาริย์ สร้างความหวังให้กับประเทศไทยเราหลังจากบินไปทำศึกกับทีมชาติเกาหลีถึงถิ่น และสามารถยันสกอร์ 1 ต่อ 1 เอาไว้ได้ ทำให้เกิดความหวังลุ้นตั๋วไปบอลโลกขึ้นมาได้ หากเกมในนัดเมื่อคืน (26 มีนาคม 67) ไทยสามารถยันสกอร์กับทีมเกาหลีใต้ได้อีกครั้ง หรือถึงขั้นหักด่านไปได้แล้ว ก็การันตี “ตีตั๋วเข้ารอบต่อไป” ได้เลย
จึงไม่แปลกใจที่ถนนทุกสายต่างมุ่งสู่ “สนามราชมังคลากีฬาสถาน” สนามกีฬาแห่งชาติหัวหมากแห่งนี้ แฟนบอลชาวไทยกว่า 55,000 คน และอาจจะมากกว่านั้น ต่างหลั่งไหลเดินทางไปยังสนามกีฬาแห่งนี้กันตั้งแต่หัววัน จนนัยว่า ก่อนเกมจะเริ่มขึ้น รถราโดยรอบถนนรามคำแหง - ศรีนครินทร์ ที่ทอดยาวไปยังสนามกีฬาแห่งนี้ติดขัดวินาศสันตะโร
แม้แต่รถที่มาจากทางด่วนที่จะมาลงถนนรามคำแหง ก็ยังลงไม่ได้ติดขัดทอดยาวไปยังอนุสาวรีย์ชัย-จตุจักร นับ 10 กิโล ยิ่งถนนพื้นราบโดยรอบบริเวณด้วยแล้ว ติดขัดตั้งแต่หัววันไปยันเที่ยงคืน – ตี 1 กว่าจะเริ่มคลี่คลาย
ท่าน “นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน” ที่ให้เกียรติเดินทางมาให้กำลังใจนักกีฬาทีมชาติไทยด้วยตนเอง รวมทั้งบรรดาเซเลปจากทั่วฟ้าเมืองไทยที่เข้ามาชมและเชียร์ทีมชาติไทยในครั้งนี้ จะมองเห็นสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นโดยรอบสนามกีฬาแห่งนี้หรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น
ทุกครั้งที่มีมหกรรมการแข่งขันกีฬาระดับชาติ หรือคอนเสิร์ตระดับแม่เหล็ก ณ สนามราชมังคลากีฬาสถานแห่งนี้ การจราจรบริเวณโดยรอบเป็นติดขัดวินาศสันตะโร และพลอยทำให้การจราจรรอบกรุงติดขัดวินาศสันตะโรไปด้วย
ท่านนายกฯ เศรษฐา คงไม่รู้สึก เพราะคงไม่ได้ขับรถยนต์มาด้วยตนเอง ไม่ได้เดินทางมาด้วยรถแท็กซี่ แกร็ป หรือรถเมล์ รถโดยสาร จึงคงไม่ได้เห็นสภาพอันน่า “อดสู” ของผู้ชมที่ต้องขวนขวายมาชมมาเชียร์สุดยอดมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ จะนัดนี้หรือนัดที่ผ่าน ๆ มาก็ตามทีเหอะ แม้เกมกีฬาจะจบลงไปแล้วตั้งแต่ 3 ทุ่ม แต่กว่าจะเดินทางออกจากสนามแห่งนี้ได้ก็ต้องกินเวลาอีก 2-3 ชั่วโมง ปาเข้าไปเที่ยงคืน ตี 1 จึงจะเริ่มคลี่คลาย
ประชาชนที่ออกจากสนามกีฬาแห่งนี้ต้องขวนขวายหาหนทางกลับบ้านกันสุดแสนทุลักทุเล เพราะยิ่งรถราติดขัดวินาศสันตะโร บรรดารถแท็กซี่ สาธารณะ แกร็ปคาร์ ทั้งหลายก็ไม่ยอมเข้าไปในพื้นที่ หรือกว่าจะมีหลงเข้าไปสักคัน ผู้คนก็ยิ่งชิงกัน (ยังกะเปรตขอส่าวนบุญ) จะหวังพึ่งวินมอเตอร์ไซด์แถวนั้นเพื่อโดยสารไปยังสถานีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองแถวแยกลำสาลี หรือก็ถูกโขกสับค่าโดยสารราวถูกปล้น
ท่านนายกฯ รู้ไหมว่าปัญหาเกิดจากอะไร?
เพราะโครงข่ายรถไฟฟ้าสายสีส้มที่อยู่หน้าสนามกีฬาแห่งนี้ ที่แม้จะสร้างเสร็จแล้วตั้งแต่ปีมะโว้ แต่กลับยังคงไม่เปิดให้บริการ จึงทำให้หนทางในอันที่แฟนบอลแฟนคอนเสิร์ตที่จะเดินทางไปยังสนามกีฬาแห่งนี้ต้องขวนขวายไปใช้หนทางอื่น ๆ กันแทนที่จะโดยสารรถไฟฟ้ามาขึ้นที่สถานีรถไฟฟ้าหน้าสนามกีฬาโดยตรง
จนก่อให้เกิดคำถามเกิดอะไรขึ้นกับรถไฟฟ้าสายนี้ ทำไมก่อสร้างเสร็จแล้ว จึงยังไม่เปิดให้บริการ ทำไมกระทรวงคมนาคมและการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ที่เป็นเจ้าของโครงการจึงยังทนดูความอดสูของปัญหาที่เกิดขึ้นได้
ยิ่งกับ รมต.สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ด้วยแล้ว ที่น่าจะรู้ตื้นลึกหนาบางของโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มนี้ดี เพราะหาใช่ใครอื่นไกลที่ไหน เคยนั่งว่าการกระทรวงคมนาคมตั้งแต่สมัย "นายใหญ่แห่งบ้านจันทร์ส่องหล้า" มาแล้ว แต่กว่า 6 เดือนที่เข้ามาก็กลับนั่งเอามือ “ซุกหีบ” วันๆ เอาแต่ติดสอยห้อยตามเป็น “ไอ้ห้อยไอโหน” ติดตามนายกฯ ออกเดินสายไปทั่วแว่นแคว้น
แทนที่จะเอาเวลาลงมาแก้ไขปัญหารถไฟฟ้าสายสีส้ม สายนี้ให้มันสะเด็ดน้ำ เพราะโครงข่ายส่วนตะวันออกที่ก่อสร้างแล้วเสร็จไปบางส่วนแล้ว แต่กลับยังไม่สามารถเปิดให้บริการได้ มันติดปัญหาตรงไหนอย่างไร มันเป็นเรื่องที่หน่วยงานต้นสังกัดสมควรจะลงไปไล่บี้-ไล่เบี้ยให้มันสะเด็ดน้ำให้มันจบไหม?
อยากจะกระเตงผลประมูลรถไฟฟ้า สายสีส้ม ที่บอร์ด รฟม. ตั้งแท่นเอาไว้ตั้งแต่ปีมะโว้ ให้ ครม. เอาคอไปพาดเขียงด้วยข้ออ้างล้มประมูลไม่ได้ มันล่าช้าไปมากแล้ว ก็เอาเลยหากคิดว่าจะไม่ทำให้ ครม. ต้องพาเหรดขึ้นเขียง หรือหากจะล้มประมูลใหม่ จัดทัพจัดประมูลกันอย่างไร ก็เอาสักอย่าง.....
ถ้าทำไม่ได้ ท่านนายกฯ จะเก็บเอาไว้ทำสากกระเบือกอะไร รมต.ไม้ประดับพวกนี้!