“หมอลี่ - นพ.ประวิทย์” อดีต กสทช. ทิ้งบอมบ์ประธาน กสทช. ชี้ขาดคุณสมบัติตั้งแต่มีชื่อเป็นกรรมการอิสระแบงก์กรุงเทพ - รับตรวจรักษาคนไข้ รพ.รามา แล้ว ยันเป็นไปไม่ได้ที่แบงก์จะขอเอาชื่อไปตั้งโก้ๆ แฉพิรุธสำนักงาน กสทช. ดอดถอนเรื่องตีความปมคุณสมบัติจากกฤษฎีกาผู้สื่อข่าวรายงานว่า ”หมอลี่ - นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา” อดีตกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้ให้สัมภาษณ์รายการ ”อินไซท์ทอล์ก” โดย เฉลิมชัย ยอดมาลัย และ ณัฏฐพล กรรณสูต ถึงประเด็นร้อนเรื่องที่คณะกรรมาธิการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสารและการโทรคมนาคม (กมธ.ไอซีที) วุฒิสภา ได้รายงานผลการตรวจสอบข้อร้องเรียนเกี่ยวกับปมคุณสมบัติของ ศ.คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. กรณีเป็นกรรมการอิสระธนาคารกรุงเทพ และยังคงตรวจรักษาคนไข้ที่ รพ.รามาธิบดี ซึ่งถือเป็นลูกจ้างรัฐที่เข้าข่ายขาดคุณสมบัติการเป็นกรรมการ กสทช. โดย “หมอลี่” ระบุว่า กรณีที่ประธาน กสทช. ถูกทาบทามให้เป็นกรรมการอิสระของธนาคารกรุงเทพ ซึ่งทางธนาคารได้จัดพิมพ์เอกสารส่งให้ผู้ถือหุ้นและบรรจุอยู่ในวาระที่ต้องขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 12 เม.ย. 2565 ก่อนที่เจ้าตัวจะได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นประธาน กสทช. นั้น แม้จะออกมาปฏิเสธ แต่เอกสารที่ธนาคารเผยแพร่ออกมาก็เป็นหลักฐานที่ชัดแจ้งในตัวเองอยู่แล้ว เพราะธนาคารคงไม่สามารถแต่งตั้งกรรมการอิสระโดยพลการเองได้ จะต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าตัวเสียก่อน ทั้งยังต้องผ่านขั้นตอนการตรวจสอบกลั่นกรองจากแบงก์ชาติอีกด้วยส่วนเรื่องที่ กมธ.ไอซีที ให้ความสำคัญมากที่สุด ก็คือ ประเด็นการร้องเรียนประธาน กสทช. ยังคงออกตรวจรักษาคนไข้ใน รพ.รามาธิบดีอยู่ แม้เจ้าตัวจะยืนยันว่า เป็นการตรวจรักษาคนไข้เก่าเพื่อรักษาชีวิตคนไข้โดยไม่ได้รับเงินค่ารักษาพยาบาล แต่การตรวจรักษาใน รพ.รัฐ ก็หมิ่นเหม่ว่าทำได้หรือไม่ เพราะโดยปกติหมอทั่วไปคงไม่สามารถเดินเข้าไปตรวจรักษาคนไข้ใน รพ.ของรัฐ และใช้เครื่องมือเครื่องไม้ของ รพ.รัฐ ได้ ต้องมีคำสั่งจากทาง รพ.รามาในการอนุญาตให้ตรวจรักษาจึงจะทำได้ ดังนั้นกรณีนี้จึงต้องตรวจสอบในเชิงลึกไปถึงรายการเสียภาษีเงินได้ว่า ประธาน กสทช. มีรายได้จาก รพ.หรือไม่ หากมีก็ชัดในตัวเองอยู่แล้ว ทั้งนี้ เรื่องที่ กมธ.ไอซีที แสดงความกังวลเรื่องคุณสมบัติของประธาน กสทช.นั้น ทาง กมธ.ได้มีข้อเสนอแนะให้สำนักงาน กสทช. ส่งเรื่องไปให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาตีความข้อกฎหมายอีกชั้นว่า กรณีที่มีชื่อประธาน กสทช. เป็นกรรมการอิสระแบงก์กรุงเทพภายหลังได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่ง กสทช. และยังคงตรวจรักษาคนไข้ใน รพ.รัฐนั้น ถือว่ามีคุณสมบัติขัดแย้งตามที่กำหนดไว้หรือไม่ เพราะการเป็น กสทช. นั้น ต้องทำงานเต็มเวลา ไม่สามารถทำงานนอกได้ และต้องไม่เป็นลูกจ้างหน่วยงานของรัฐใดๆ อีกด้วย“ล่าสุด ในการประชุมบอร์ด กสทช. เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 67 ที่ผ่านมา มีการหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นสอบถามความคืบหน้าในที่ประชุม แต่คำตอบที่ได้รับกลับทำเอาที่ประชุม กสทช. มีอึ้ง เมื่อพบว่า สำนักงาน กสทช. ได้ไปขอถอนเรื่องที่ส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความในเรื่องคุณสมบัติของประธาน กสทช.ไปแล้ว ทั้งที่เป็นเรื่องใหญ่ แต่สำนักงาน กสทช. กลับดอดไปดำเนินการถอนเรื่องออกมาโดยลำพัง”ส่วนเรื่องการแต่งตั้งเลขาธิการ กสทช. ที่ว่างเว้นมาร่วม 4 ปี นับจากที่ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ลาออกจากตำแหน่งเมื่อกลางปี 62 เป็นอีกเรื่องที่ กมธ.ไอซีที แสดงความกังวล เพราะส่งผลต่อการปฏิบัติหน้าที่ขององค์กร กสทช. โดยรวม ซึ่งจนถึงวันนี้ กสทช.ยังคงไม่สามารถสรรหาและแต่งตั้งเลขาธิการคนใหม่ได้ ต้องให้รองเลขาฯ ทำหน้าที่รักษาการมาจะร่วม 4 ปี แถมตัวรักษาการเลขาธิการ กสทช. ที่ว่า ยังมีปัญหาถูกที่ประชุมบอร์ด กสทช. เสียงส่วนใหญ่มีมติให้พ้นรักษาการไปแล้ว แต่กลับยังคงทำหน้าที่อยู่ เพราะประธาน กสทช. ใช้อำนาจตนเองรับรองการทำหน้าที่ จนทำให้เกิดปัญหาว่าทำได้หรือไม่