ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2567 นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนกรกฎาคม 2567 ดังต่อไปนี้
การผลิต
จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนกรกฎาคม 2567 มีทั้งสิ้น 124,829 คัน ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2566 ร้อยละ 16.62 เพราะผลิตขายในประเทศลดลงร้อยละ 40.85 ตามยอดขายรถยนต์ในประเทศที่ลดลง จากการเข้มงวดในการให้สินเชื่อของสถาบันการเงินเพราะหนี้ครัวเรือนสูงและเศรษฐกิจที่อ่อนแอ แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 7.34
จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม - กรกฎาคม 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 886,069 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - กรกฎาคม 2566 ร้อยละ 17.28
รถยนต์นั่ง เดือนกรกฎาคม 2567 ผลิตได้ 46,046 คัน ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2566 ร้อยละ 8.94 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่ง Internal Combustion Engine มีจำนวน 32,251 คัน ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2566 ร้อยละ 17.83
• รถยนต์นั่ง Battery Electric Vehicle มีจำนวน 522 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2566 ร้อยละ 18,300
• รถยนต์นั่ง Plug-in Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 372 คัน ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2566 ร้อยละ 54.80
• รถยนต์นั่ง Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 12,871 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2566 ร้อยละ 22.65
ยอดผลิตของรถยนต์นั่ง ตั้งแต่เดือนมกราคม - กรกฎาคม 2567 มีจำนวน 329,269 คัน เท่ากับร้อยละ 37.16 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม - กรกฎาคม 2566 ร้อยละ 11.40 โดยแบ่งเป็น
• รถยนต์นั่ง Internal Combustion Engine มีจำนวน 209,571 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - กรกฎาคม 2566 ร้อยละ 28.39
• รถยนต์นั่ง Battery Electric Vehicle มีจำนวน 5,505 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - กรกฎาคม 2566 ร้อยละ 3,670.55
• รถยนต์นั่ง Plug-in Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 3,561 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - กรกฎาคม 2566 ร้อยละ 44.10
• รถยนต์นั่ง Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 110,632 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - กรกฎาคม 2566 ร้อยละ 52.71
รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตัน ขึ้นไป ในเดือนกรกฎาคม 2567 ไม่มีการผลิต รวมเดือนมกราคม - กรกฎาคม 2567 ผลิตได้ 10 คัน ลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 87.80
รถยนต์บรรทุก เดือนกรกฎาคม 2567 ผลิตได้ทั้งหมด 78,783 คัน ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2566 ร้อยละ 20.53 และตั้งแต่เดือนมกราคม - กรกฎาคม 2567 ผลิตได้ทั้งสิ้น 556,790 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2566 ร้อยละ 20.40
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนกรกฎาคม 2567 ผลิตได้ทั้งหมด 77,838 คัน ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2566 ร้อยละ 19.14 และตั้งแต่เดือนมกราคม - กรกฎาคม 2567 ผลิตได้ทั้งสิ้น 544,576 คัน เท่ากับร้อยละ 61.46 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2566 ร้อยละ 19.93 โดยแบ่งเป็น
• รถกระบะบรรทุก 88,323 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - กรกฎาคม 2566 ร้อยละ 29.03
• รถกระบะดับเบิลแค็บ 361,177 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - กรกฎาคม 2566 ร้อยละ 19.26
• รถกระบะ PPV 95,076 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - กรกฎาคม 2566 ร้อยละ 12.25
รถบรรทุกขนาดต่ำกว่า 5 ตัน - มากกว่า 10 ตัน เดือนกรกฎาคม 2567 ผลิตได้ 945 คัน ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2566 ร้อยละ 67.19 รวมเดือนมกราคม - กรกฎาคม 2567 ผลิตได้ 12,214 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - กรกฎาคม 2566 ร้อยละ 37
ผลิตเพื่อส่งออก
เดือนกรกฎาคม 2567 ผลิตได้ 87,538 คัน เท่ากับร้อยละ 70.13 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2566 ร้อยละ 1.01 ส่วนเดือนมกราคม - กรกฎาคม 2567 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 603,721 คัน เท่ากับร้อยละ 68.13 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากปี 2566 ระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 2.20
รถยนต์นั่ง เดือนกรกฎาคม 2567 ผลิตเพื่อการส่งออก 25,958 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2566 ร้อยละ 8.02 และตั้งแต่เดือนมกราคม - กรกฎาคม 2567 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 177,466 คัน เท่ากับร้อยละ 53.90 ของยอดผลิตรถยนต์นั่ง ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม - กรกฎาคม 2566 ร้อยละ 3.72
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนกรกฎาคม 2567 มียอดการผลิตเพื่อการส่งออก 61,580 คัน ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2566 ร้อยละ 1.67 และตั้งแต่เดือนมกราคม - กรกฎาคม 2567 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 426,255 คัน เท่ากับร้อยละ 78.27 ของยอดการผลิตรถกระบะ ลดลงจากเดือนมกราคม - กรกฎาคม 2566 ร้อยละ 4.47 โดยแบ่งเป็น
• รถกระบะบรรทุก 35,322 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2566 ร้อยละ 24.35
• รถกระบะดับเบิลแค็บ 314,612 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2566 ร้อยละ 7.69
• รถกระบะ PPV 76,321 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2566 ร้อยละ 30.01
ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ
เดือนกรกฎาคม 2567 ผลิตได้ 37,291 คัน เท่ากับร้อยละ 29.87 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2566 ร้อยละ 40.85 และเดือนมกราคม - กรกฎาคม 2567 ผลิตได้ 282,348 คัน เท่ากับร้อยละ 31.87 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2566 ร้อยละ 37.80
รถยนต์นั่ง เดือนกรกฎาคม 2567 ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 20,088 คัน ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2566 ร้อยละ 24.30 แต่ตั้งแต่เดือนมกราคม - กรกฎาคม 2566 ผลิตได้ 151,803 คัน เท่ากับร้อยละ 46.10 ของยอดการผลิตรถยนต์นั่ง โดยเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม - กรกฎาคม 2566 ลดลงร้อยละ 24.30
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนกรกฎาคม 2567 มียอดการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 16,258 คัน ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2566 ร้อยละ 51.65 และตั้งแต่เดือนมกราคม - กรกฎาคม 2567 ผลิตได้ทั้งสิ้น 118,321 คัน เท่ากับร้อยละ 21.73 ของยอดการผลิตรถกระบะ และลดลงจากเดือนมกราคม - กรกฎาคม 2566 ร้อยละ 49.42 ซึ่งแบ่งเป็น
• รถกระบะบรรทุก 53,001 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2566 ร้อยละ 31.84
• รถกระบะดับเบิลแค็บ 46,565 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2566 ร้อยละ 56.28
• รถกระบะ PPV 18,755 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2566 ร้อยละ 62.22
รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตัน ขึ้นไป ในเดือนกรกฎาคม 2567 ไม่มีการผลิต รวมเดือนมกราคม - กรกฎาคม 2567 ผลิตได้ 10 คัน ลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 87.80
รถบรรทุก เดือนกรกฎาคม 2567 ผลิตได้ 945 คัน ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2566 ร้อยละ 67.19 และตั้งแต่เดือนมกราคม - กรกฎาคม 2567 ผลิตได้ทั้งสิ้น 12,214 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม - กรกฎาคม 2566 ร้อยละ 37
รถจักรยานยนต์
เดือนกรกฎาคม 2567 ผลิตรถจักรยานยนต์ได้ทั้งสิ้น 179,176 คัน ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2566 ร้อยละ 8.01 แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 150,947 คัน ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 11.27 แต่ชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 28,229 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 14.52
ยอดการผลิตรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม – กรกฎาคม 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,376,369 คัน ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 8.33 โดยแยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 1,145,520 คัน ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 11.73 แต่ชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 230,849 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 13.30
ยอดขาย
ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนกรกฎาคม 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 46,394 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 2.66 และลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 20.58 เพราะการเข้มงวดในการให้สินเชื่อโดยเฉพาะรถกระบะและรถบรรทุกจากความกังวลเรื่องหนี้ครัวเรือนที่สูงถึงร้อยละ 91 ของ GDP ของประเทศและเศรษฐกิจที่เติบโตต่ำในอัตราร้อยละ 1.5 ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2567 จากงบประมาณรายจ่ายปีที่ล่าช้า
รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 27,736 คัน เท่ากับร้อยละ 59.78 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 7.03
• รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 11,837 คัน เท่ากับร้อยละ 25.51 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 37.57
• รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) 6,835 คัน เท่ากับร้อยละ 14.73 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 54.01
• รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 160 คัน เท่ากับร้อยละ 0.34 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 20.30
• รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) 8,904 คัน เท่ากับร้อยละ 19.19 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 41.29
รถกระบะมีจำนวน 13,167 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 35.17 รถ PPV มีจำนวน 2,958 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 36.70 รถบรรทุก 5 – 10 ตัน มีจำนวน 1,318 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 42.57 และรถประเภทอื่นๆ มีจำนวน 1,215 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 7.11
ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 141,557 คัน ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2566 ร้อยละ 5.97 และลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2566 ร้อยละ 6.12
ตั้งแต่เดือนมกราคม - กรกฎาคม 2567 รถยนต์มียอดขาย 354,421 คัน ลดลงจากปี 2566 ในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 23.71 แยกเป็น
รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 212,217 คันเท่ากับร้อยละ 59.88 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 8.58
• รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 94,497 คัน เท่ากับร้อยละ 26.66 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 36.59
• รถยนต์นั่งแหละรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) 40,343 คัน เท่ากับร้อยละ 11.38 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 12.75
• รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 1,363 คัน เท่ากับร้อยละ 0.38 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 6.26
• รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) 76,014 คัน เท่ากับร้อยละ 21.45 ของยอดขายรถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 65.75
รถกระบะ มีจำนวน 102,748 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 39.56 รถ PPV มีจำนวน 21,814 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 42.50 รถบรรทุก 5 – 10 ตัน มีจำนวน 9,657 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 37.38 และรถประเภทอื่นๆ มีจำนวน 7,985 คัน ลดลงจากเดือนช่วงกันในปีที่แล้ว 11.89
ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 1,032,091 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2566 ร้อยละ 9.84 แบ่งเป็นรถจักรยานยนต์ ICE จำนวน 1,031,891 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันร้อยละ 9.78 รถจักรยานยนต์ BEV จำนวน 200 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันร้อยละ 9.09
ส่งยอดรถยนต์ 83,527 คัน!
สำหรับยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปในเดือนกรกฎาคม 2567 ส่งออกได้ 83,527 คัน ลดลงจากเดือนที่แล้วร้อยละ 6.22 และลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2566 ร้อยละ 22.70 เพราะปัญหาการขนส่งไปตะวันออกกลางและยุโรปจากสงครามอิสราเอลกับฮามาส จึงส่งออกลดลงในตลาดเอเชีย ออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง ยุโรป อเมริกากลางและอเมริกาใต้ แบ่งเป็น
• รถกระบะ 45,439 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 54.40 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 24.68
• รถยนต์นั่ง ICE 26,288 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 31.47 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 22.65
• รถยนต์นั่ง HEV 3,684 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 4.41 ของการส่งออกทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 405.35
• รถ PPV 8,116 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 9.72 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 37.59
มูลค่าการส่งออกรถยนต์ 56,397.87 ล้านบาท ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2566 ร้อยละ 16.56
• เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 4,047.92 ล้านบาท ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2566 ร้อยละ 15.22
• ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 18,450.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2566 ร้อยละ 3.52
• อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 2,537.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2566 ร้อยละ 23.69
รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนกรกฎาคม 2567 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 81,434.29 ล้านบาท ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2566 ร้อยละ 11.71
เดือนมกราคม – กรกฎาคม 2567 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 602,567 คัน ลดลงจากช่วงระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 5.39 แบ่งเป็น
• รถกระบะ ICE 346,939 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 57.58 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 7.68
• รถยนต์นั่ง ICE 146,449 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 24.30 ของการส่งออกทั้งหมด ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 21.93
• รถยนต์นั่ง HEV 31,196 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 5.18 ของการส่งออกทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 490.50
• รถ PPV 77,983 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 12.94 ของการส่งออกทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ14.36
มูลค่าการส่งออกรถยนต์ 419,872.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2566 ร้อยละ 5.82 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
• เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 19,980.06 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2566 ร้อยละ 5.83
• ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 112,219.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2566 ร้อยละ 7.76
• อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 15,108.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2566 ร้อยละ 12.24
รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนมกราคม – กรกฎาคม 2567 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 567,180.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2566 ร้อยละ 5.90
รถจักรยานยนต์
เดือนกรกฎาคม 2567 มีจำนวนส่งออก 58,757 คัน (รวม CBU + CKD) เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2567 ร้อยละ 7.39 และลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2566 ร้อยละ 8.53 โดยมีมูลค่า 4,624.92 ล้านบาท ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2566 ร้อยละ 18.72
• ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 240.21 ล้านบาท ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2566 ร้อยละ 21.33
• อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 209.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2566 ร้อยละ 13.83
รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์ เดือนกรกฎาคม 2567 ชิ้นส่วนและอะไหล่รถจักรยานยนต์ 5,074.94 ล้านบาท ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2566 ร้อยละ 17.88
เดือนมกราคม – กรกฎาคม 2567 รถจักรยานยนต์ มีจำนวนส่งออก 473,075 คัน (รวม CBU + CKD) ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 3.82 มีมูลค่า 37,354.60 ล้านบาท ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 10.10
• ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 1,450.71 ล้านบาท ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 20.45
• อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 1,011.83 ล้านบาท ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 19.36
รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม – กรกฎาคม 2567 ชิ้นส่วนและอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 39,817.14 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2566 ร้อยละ 10.79
เดือนกรกฎาคม 2567 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่น ๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 86,509.24 ล้านบาท ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 12.10
เดือนมกราคม – กรกฎาคม 2567 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 606,997.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 4.62