กระทรวงการคลัง โดยกรมสรรพสามิต เผยผลการปราบปรามสินค้าสรรพสามิต ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (1 ต.ค. 2566 – 30 ก.ย. 2567) รวมทั้งสิ้น 33,359 คดี สูงขึ้นกว่าปีก่อน 28.11% คิดเป็นเงินค่าปรับ 690.75 ล้านบาท และประมาณการค่าปรับ 2,465.86 ล้านบาท
ดร. เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กรมสรรพสามิตเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทในการดำเนินมาตรการภาษีสรรพสามิตเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และดูแลพี่น้องประชาชน โดยไม่ได้มุ่งเน้นการจัดเก็บภาษีเพียงอย่างเดียว แต่ได้ให้ความสำคัญกับการปราบปรามสินค้าผิดกฎหมาย ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตและสุขภาพของพี่น้องประชาชนหากบริโภคสินค้าปลอม ไม่ได้คุณภาพมาตรฐาน ผลการปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตทั่วประเทศ ผ่านช่องทางต่าง ๆ รวมถึง การดำเนินงานของศูนย์ปราบปรามสินค้าออนไลน์ว่า ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (ต.ค. 2566 - ก.ย. 2567) พบการกระทำผิด จำนวน 33,359 คดี สูงขึ้นกว่าปีก่อน 28.11% คิดเป็นเงินค่าปรับ 690.75 ล้านบาท และประมาณการค่าปรับ 2,465.86 ล้านบาท โดยจำแนกเป็น
1. สุรา จำนวน 15,974 คดี ค่าปรับ 150.69 ล้านบาท ประมาณการค่าปรับ 48.59 ล้านบาท จำนวนของกลาง แบ่งเป็นสุราในประเทศ 117,361.70 ลิตร และสุราต่างประเทศ 30,340.54 ลิตร
2. ยาสูบ จำนวน 13,170 คดี ค่าปรับ 361.73 ล้านบาท ประมาณการค่าปรับ 2,334.40 ล้านบาท จำนวนของกลาง แบ่งเป็นยาสูบในประเทศ 301,961 ซอง และยาสูบต่างประเทศ 2,579,434 ซอง
3. น้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน จำนวน 1,465 คดี ค่าปรับ 76.86 ล้านบาท ประมาณการค่าปรับ 11.41 ล้านบาท จำนวนของกลาง 2.56 ล้านลิตร
4. รถจักรยานยนต์ จำนวน 1,109 คดี ค่าปรับ 29.75 ล้านบาท ประมาณการค่าปรับ 6.34 ล้านบาท จำนวนของกลาง 1,493 คัน
5. ไพ่ จำนวน 575 คดี ค่าปรับ 7.07 ล้านบาท ประมาณการค่าปรับ 10.14 ล้านบาท จำนวนของกลาง 79,561 สำรับ
6. รถยนต์ จำนวน 268 คดี ค่าปรับ 27.89 ล้านบาท ประมาณการค่าปรับ 34.16 ล้านบาท จำนวนของกลาง 269 คัน
7. เครื่องหอมและเครื่องสำอาง จำนวน 226 คดี ค่าปรับ 13.40 ล้านบาท ประมาณการค่าปรับ 20.32 ล้านบาท จำนวนของกลาง 244,723 ขวด
8. เครื่องดื่ม จำนวน 216 คดี ค่าปรับ 5.84 ล้านบาท ประมาณการค่าปรับ 3.84 แสนบาท จำนวนของกลาง 108,259.31 ลิตร
9. แบตเตอรี่ จำนวน 210 คดี ค่าปรับ 13.78 ล้านบาท จำนวนของกลาง 89,059 ก้อน
10. สินค้าอื่น ๆ จำนวน 146 คดี ค่าปรับ 3.69 ล้านบาท ประมาณการค่าปรับ 83,240 บาท
กรมสรรพสามิต ได้ยกระดับการทำงานเชิงรุกในด้านการปราบปรามและสืบค้นในทุกช่องทาง อีกทั้งยังมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อสืบค้นการกระทำผิดในช่องทางออนไลน์ ผ่านศูนย์ปราบปรามสินค้าออนไลน์ของกรมสรรพสามิต นอกจากนี้ ยังได้มีการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก อาทิ กรมการปกครอง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมการขนส่งทางบก กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ไปรษณีย์ไทย แฟลช เอ็กซ์เพรส ศรชล. กองทัพเรือ กองทัพบก เป็นต้น เพื่อปราบปรามและจับกุมขบวนการผู้กระทำผิดตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 จากการดำเนินการเชิงรุกทั้งด้วยกำลังคนและออนไลน์ รวมถึงการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานภายนอก ส่งผลให้กรมสรรพสามิตสามารถจับกุมผู้กระทำผิดพร้อมของกลางได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ดร. เผ่าภูมิ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า สินค้าที่มิได้เสียภาษีสรรพสามิตส่งผลเสียต่อทั้งด้านเศรษฐกิจ และสังคม การปราบปรามและดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดที่ขายหรือมีไว้เพื่อขายซึ่งสินค้าที่เป็นสินค้าที่มิได้เสียภาษี จึงเป็นภารกิจที่สำคัญยิ่งของกรมสรรพสามิต ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อพี่น้องประชาชนในการบริโภคสินค้าที่ได้มาตรฐาน และยังเป็นการสร้างความชอบธรรมต่อผู้ประกอบการที่เสียภาษีโดยสุจริต