
เหลือบไปเห็นรายงานที่ ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ วิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ และอดีตรองผู้ว่า กทม.ออกมาโพสต์ FB ล่าสุด ตีแผ่เรื่องที่กระทรวงคมนาคมยังคงออกมาจุดพลุแนวคิดขยายสัญญาสัมปทานทางด่วนขั้นที่2 (ทางด่วนศรีรัช)ออกไปอีก 22ปี5เดือน แลกกับการให้เอกชนก่อสร้างทางยกระดับ "Double Deck" ช่วงงามวงศ์วาน-พระราม 9 ระยะทาง 17 กม. วงเงิน 31,800 ล้าน (อ่านรายละเอียด: เนตรทิพย์:Hot Issue “ดร.สามารถ” จัดเต็ม.. มหกรรมปล้นคนกรุง! https://www.natethip.com/news.php?id=9814)

ที่จริงกระทรวงคมนาคม และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) จุดพลุเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นปี 67 โน้นแล้ว แต่ถูกผู้คนในสังคมดาหน้าค้านระงม จัดทัวร์ลงเป็นรายวัน แถมสำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังมีหนังสือทักท้วงและสั่งให้ผู้บริหารการทางพิเศษฯ กทพ. ชี้แจงข้อเท็จจริงและจัดส่งเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการดำเนินโครงการนี้ไปยังสำนักเฝ้าและระวังและประเมินสภาวะการณ์ทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. โดยด่วน

จึงทำให้เรื่องอื้อฉาวที่ตั้งแท่นกันเอาไว้ในเวลานั้น "แตกกระเจิง" แบบทางใครทางมันจนเรื่องเงียบงันไปหลายเดือน นึกว่ากระทรวงคมนาคมและ กทพ. "ปิดประตูลั่นดาน" เส้นทางสวาปามผลประโยชน์แสนล้านที่ว่านั้นลงไปแล้ว
ที่ไหนได้ทุกฝ่ายเพิ่งจะมาถึงบางอ้อเอาเมื่อพรรคฝ่ายค้านได้ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี "แพทองธาร ชินวัตร" ระหว่างวันที่ 24-26 มี.ค.ที่ผ่านมา นั่นแหล่ะ ทุกฝ่ายจึงได้ถึงบางอ้อ ขึ้นชื่อว่านักการเมือง "ขี้ฉ้อ" แล้ว ลองได้ตั้งธงกันเอาไว้แล้วต่อให้ช้างทั้งโขลงก็ฉุดไม่อยู่ว่างั้นเถอะ!
เพราะในทันทีที่ฝ่ายค้านหยิบยกเอา 2 โครงการ "ซูเปอร์ดีล" มูลค่านับแสนล้านที่ส่อเอื้อประโยชน์เอกชนเต็มคราบ และส่อมีผลประโยชน์ทับซ้อน คือ การแก้สัญญาสัมปทานโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และการต่อขยายสัญญาสัมปทานทางด่วนขั้นที่ 2 (ทางด่วนศรีรัช) แลกกับการให้เกชนก่อสร้างทางยกระดับ Double Deck เปิดทางให้บริษัทเอกชนผู้รับสัมปทานรายเดิมตักตวงผลประโยชน์กันเต็มคราบต่อไปไม่สิ้นสุด
ก่อนที่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม จะลุกขึ้นมาชี้แจงตอบโต้ฝ่ายค้านอย่างหมดเปลือก และยืนยันความจำเป็นในการแก้ไขสัญญาสัมปทานทั้งสองโครงการ โดยยืนยันไม่ได้ทำให้รัฐเสียประโยชน์คำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก

โดยเฉพาะในส่วนของการขยายสัญญาสัมปทานทางด่วนขั้นที่ 2 (ด่วนศรีรัช) นั้น นายสุริยะ ยืนยันว่า ได้คำนึงถึงการแก้ไขปัญหารจราจรเป็นหลัก ไม่ได้เป็นการหาเหตุเพื่อนำไปสู่การขยายสัญญาสัมปทานประเคนผลประโยชน์ให้เอกชนแต่อย่างใด พร้อมยืนยันประชาชนจะได้ประโยชน์จากการดำเนินการในครั้งนี้
เหตุผลของ รมว.คมนาคม ที่ยังคงมีความพยายามอย่างยิ่งยวดในการขยายสัญญาสัมปทานโครงการนี้ออกไปอีก ทั้งที่้เหลือระยะเวลาสัมปทานไม่ถึง 10 ปีจากนี้ ทั้งยังเป็นการดำเนินการที่ "ย้อนแย้ง" กับนโยบายของกระทรวงคมนาคมที่ออกมาตีปี๊บต่อการผลักดันร่าง พ.ร.บ.การบริหารจัดการตั๋วร่วม พ.ศ. ... และการดำเนินนโยบายค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ที่พ่วงเอาความพยายามหาช่องซื้อคืนสัมปทานรถไฟฟ้าจากเอกชนกลับมาเป็นของรัฐ จะได้สานต่อนโยบายค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายได้
แต่กับทางด่วนศรีรัช (ทางด่วนขั้นที่ 2) และบางปะอิน-ปากเกร็ด กทพ. และกระทรวงคมนาคม กลับมีความพยายามสร้างเงื่อนไขหาทางต่อสัญญาสัมปทานออกไปอีก ด้วยข้ออ้างที่ฟังแล้วสุดคลื่นเหียนอาเจียนว่าเพื่อแก้ไขปัญหาจราจร ทั้งที่มันคือ "มหกรรมปาหี่" หมกเม็ดปล้นผลประโยชน์มูลค่านับแสนล้าน (อาจจะมากกว่า 2.5 แสนล้าน)

ที่จริงก่อนหน้านี้ กระทรวงคมนาคมยังมีนโยบายจะให้กรมทางหลวง (ทล.) เจรจากับบริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ "ดอนเมืองโทลล์เวย์" เพื่อให้บริษัทตรึงอัตราค่าผ่านทาง แลกกับการขยายสัญญาสัมปทานเช่นเดียวกับกรณีทางด่วนศรีรัชนี้ แต่คณะทำงานกรมทางหลวงได้สรุปผลศึกษาออกมาแล้วเห็นว่าไม่เหมาะสม อีกไม่กี่ปีทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ก็จะสิ้นสุดสัญญาสัมปทานแล้ว (ปี 2577) กลับมาเป็นของรัฐแล้ว ก็สู้ปล่อยให้สัมปทานสิ้นสุดลงไปเลยจะเหมาะสมกว่า
ประกอบกับก่อนหน้านี้ สำนักเฝ้าระวังและประเมินสภาวการณ์ทุจริต สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ออกโรงมาคัดง้างและทำหนังสือจี้ไปยังฝ่ายบริหารหน่วยงาน ทั้งกรมทางหลวง และการทางพิเศษฯ (กทพ.) ให้ชี้แจงและจัดส่งเอกสารหลักฐานการแก้ไขสัญญาสัมปทานที่กำลังจะมีขึ้นทั้งสองโครงการมายัง ป.ป.ช. โดยด่วน ด้วยเกรงว่ามีความเสี่ยงที่อาจทำให้รัฐเสียผลประโยชน์ และอาจเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนคู่สัญญา
ในส่วนของกรมทางหลวง (ทล.) ได้มีหนังสือตอบกลับไปยัง ป.ป.ช. ลงวันที่ 7 สิงหาคม 2567 ยืนยันว่าจะไม่ขยายสัมปทานดอนเมืองโทลล์เวย์ที่จะสิ้นสุดลงในปี 2577 แล้ว

ขณะที่ กทพ.นั้น กลับมีหนังสือแจ้งขอเลื่อนการชี้แจงข้อเท็จจริงและขอเลื่อนการจัดส่งเอกสารการต่อขยายสัมปทานทางด่วนศรีรัช (ทางด่วนขั้นที่ 2) ออกไป 30 วัน อ้างเนื่องจากมีข้อมูลและเอกสารที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก
แต่จนแล้วจนรอดถึงวันนี้ที่ผ่านมากว่า 7 เดือนเข้าไปแล้ว ก็ไม่มีข่าวคราวใดๆ ออกมาว่า ตกลงแล้ว กทพ. ได้เข้าชี้แจงและจัดส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ไปยังสำนักงาน ป.ป.ช. แล้วหรือไม่ และสำนักเฝ้าระวังฯ สำนักงาน ป.ป.ช. ที่ได้เห็นเอกสารหลักฐานเหล่านั้นแล้ว เชื่อโดยสนิทว่า การดำเนินโครงการนี้ไม่มีวาระซ่อนเร้น ไม่ติดใจสงสัยอะไร หรือไม่มีข้อกังขาอะไรเลยหรือ?
เรื่องมันถึงได้หายเข้ากลีบเมฆแบบนี้
สำหรับ "แก่ง หินเพิง" แล้ว ผมมีความรู้สึกเดียวกับสาธารณชนผู้เฝ้าติดตามโครงการนี้นั่นแหละ เหตุใดกระทรวงคมนาคมและรัฐบาลจึงเลือกที่จะขยายสัมปทานทางด่วนศรีรัช ทั้งๆ ที่ เหลือเวลาอีกไม่ถึง 10 ปีจากนี้ สิทธิ์ในการบริหารทางด่วนทั้งหมดก็จะกลับมาเป็นของรัฐ คือ กทพ. แล้ว
ถึงเวลานั้น กทพ. และคมนาคม จะเปิดให้ประชาชนใช้ทางฟรี หรือจะปรับลดค่าผ่านทางให้ถูกลงอย่างไรเท่าไหร่ก็ทำได้ทั้งนั้น หรือหากรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม ใจร้อนอยากจะปรับลดค่าผ่านทางช่วงงามวงศ์วาน – พระราม 9 ให้เหลือ 50 บาทวันนี้เลย ก็สามารถทำได้อยู่แล้ว เพราะเป็นการปรับลดรายได้ในส่วนของภาครัฐ คือ กทพ. ไม่ได้ไปแตะต้องส่วนแบ่งรายได้ของบริษัทเอกชนแม้แต่น้อย
กรณีทางด่วนศรีรัช หากอ้างว่ารัฐต้องการให้เอกชนผู้รับสัมปทานลงทุนก่อสร้าง Double Deck ช่วงงามวงศ์วาน-พระราม 9 ระยะทาง 17 กิโลเมตร มูลค่า 34,800 ล้านบาท จึงจำเป็นต้องขยายสัมปทานให้เอกชน ทำให้เกิดคำถามว่า แล้วทำไมรัฐจึงไม่ลงทุนก่อสร้างเอง ? เพื่อประชาชนจะได้ใช้ค่าผ่านทางที่ถูกลง

อย่ามาอ้างนะว่า ติดเงื่อนไขสัญญาสัมปทานที่มีอยู่กับเอกชนผู้รับสัมปทานรายเดิมอยู่น่ะ เพราะรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา ได้สั่งให้ กทพ. และคมนาคม ไปดำเนินการยกเลิกข้อสงวนหรือเงื่อนไขการห้ามการสร้างทางแข่งขันที่เคยเป็นหนามยอกอกสัมปทานโครงการรัฐไปหมดแล้ว ซึ่งก็แปลว่า หาก กทพ. จะลงทุนเองย่อมสามารถดำเนินการได้ทันที
หาไม่เช่นนั้น กระทรวงคมนาคม และกรมทางหลวง (ทล.) จะผุดโครงการทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ ส่วนต่อขยายรังสิต-บางปะอิน หรือ M5 ที่จะเปิดให้เอกชนเข้ามารับสัมปทานร่วมลงทุนวงเงินลงทุนกว่า 31,000 ล้านได้หรือ?
แก่งหิน เพิง
หมายเหตุ: อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม:
-เนตรทิพย์:Hot Issue
การเมืองมีสะดุ้งเฮือก! ป.ป.ช.ไล่บี้ 2 โปรเจ็กต์อื้อฉาวคมนาคม ขยายสัมปทาน “ทางด่วน BEM - โทลล์เวย์”
http://www.natethip.com/news.php?id=8804

-เนตรทิพย์:Special Report
กทพ. ชิ่งหนีเผือกร้อน "ด่วนศรีรัช"... อ้างเอกสารเยอะ - หลบชี้แจงพัลวัน!
http://www.natethip.com/news.php?id=8919

-เนตรทิพย์:Hot Issue
ย้อนแย้ง!.. “ซื้อสัมปทานรถไฟฟ้าคืน”.. แต่ขยายสัมปทานทางด่วน!
http://www.natethip.com/news.php?id=9123
-เนตรทิพย์:Special Report
จากสัมปทานทางด่วน กทพ. ถึงไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน บทพิสูจน์น้ำยา ป.ป.ช.! จะ "ปาหี่-ปกปิดแช่" ข้ามภพข้ามชาติหรือไม่?
http://www.natethip.com/news.php?id=9140

-เนตรทิพย์:Hot Issue
“ไม่จำเป็น” ต้องขยายสัมปทานทางด่วนศรีรัช!
http://www.natethip.com/news.php?id=9252
-คมนาคม:Hot Issue
รู้แล้วอึ้ง ! ขยายสัมปทานทางด่วนศรีรัช.. เอกชนได้เงินค่าผ่านทางเท่าใด ?
http://www.natethip.com/news.php?id=9266
-YouTube@เนตรทิพย์ ออนไลน์
ยืดสัมปทานทางด่วนศรีรัช..เอกชนฟันเละ 3.5 แสนล้าน
https://youtu.be/OxVf5wT41_s
-เนตรทิพย์:Hot Issue
ไม่ต้องสร้าง “Double Deck” ก็ “แก้รถติดบนทางด่วน” ได้
https://www.natethip.com/news.php?id=9333
-เนตรทิพย์:Columnist
จี้ “สุริยะ” เร่งก่อสร้าง 2 สาย รถไฟความเร็วสูง...ล่าช้ามาก “Double Deck” ควรประมูลใหม่
https://www.natethip.com/news.php?id=9508
