ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2567 เวลา 8.30 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวภายหลังตรวจเยี่ยมด่านตรวจจำเพาะสินค้าผลไม้ด่านรถไฟโม่ฮาน และรับฟังข้อมูลสถานการณ์การขนส่งสินค้าผ่านด่านรถไฟโม่ฮาน จากหน่วยงานภาครัฐจีน เย็นวานนี้ (28 เม.ย. 67) โดยนายภูมิธรรม ได้นำคณะลงพื้นที่ด่านบ่อเต็น สปป.ลาว และด่านโม่ฮาน มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีนด้วย เพื่อเจรจาขอเพิ่มเวลาทำการลดการแออัดบริเวณด่านและขอบคุณที่อำนวยความสะดวกให้การขนส่งผลไม้ไทย
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ช่วงเดือนหน้าเป็นต้นไปผลผลิตผลไม้ไทยจะเริ่มออกสู่ตลาดมาก ที่ผ่านมาเราประสบปัญหาเรื่องความแออัดบริเวณด่านบางครั้งต้องใช้เวลาถึง 5 วัน สำหรับรอตู้ผ่านเข้าจีนแล้วกลับออกมาบ่อเต็น และปัญหาเรื่องแคร่ที่จะมารับตู้คอนเทนเนอร์ไม่เพียงพอ ซึ่งก่อนที่ผลผลิตผลไม้จะออกมาก ตนจึงมาคุยกับทางการจีน และได้หารือผู้ว่าการเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา เสนอขอให้เพิ่มเวลาทำการเปิด-ปิดด่าน จากปกติ 8.00-18.00 น. ขอให้เพิ่มเวลาทำการอีก 3 ชั่วโมง เป็น 8.00-21.00 น. เพื่อลดความแออัดของรถบรรทุกบริเวณหน้าด่าน ซึ่งประสบความสำเร็จ ทางจีนตอบรับให้การสนับสนุน และเรื่องช่องทางการเข้า-ออกของรถบรรทุกที่คับแคบ ทางด่านโม่ฮานแจ้งว่ากำลังปรับปรุงขยายถนนออกไปอีก จากเดิม 2 ช่อง (จุดตรวจรถเข้า-ออก) เป็น 12 ช่อง และขอให้ช่วยประสานบ่อเต็นและทางการลาว คาดว่าภายใน 2 ปี จะทำช่องทางเสร็จ
นอกจากนั้น ตนได้หารือกับนายอ่อนจัน คำพาวง รองเจ้าแขวงหลวงน้ำทา สปป.ลาว ซึ่งท่านเห็นด้วยในการเพิ่มเวลาทำการ ซึ่งการค้าผ่านแดนจุดนี้เป็นจุดใหญ่ที่สุด มีความสำคัญมาก เพราะเป็นช่องทางเข้าสู่ตลาดจีนตอนใต้และกระจายไปทั่วประเทศ และได้ขอให้ทางฝั่งลาวช่วยรายงานสภาพการจราจรบริเวณด่านและส่งให้ไทยทุกเดือน เพื่อจะได้เป็นข้อมูลในการบริหารจัดการ ซึ่งทางการลาวรับไปพิจารณา และได้มอบหมายกรมการค้าต่างประเทศติดตามผลการขยายเวลาทำการของด่าน ว่าจะทำให้การส่งออกผลไม้ในเส้นทางนี้คล่องตัวขึ้นแค่ไหนเพียงใด
“ตนได้มาที่ด่านตรวจจำเพาะสินค้าผลไม้ด่านรถไฟโม่ฮาน ดูกระบวนการตรวจผลไม้ อาทิ ทุเรียน มังคุด ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรฯ ทางการจีน ศุลกากรจีน เราประสานงานการทำงานร่วมกัน คิดว่าจะสามารถแก้ปัญหาได้ดี จะช่วยให้ผู้บริโภคชาวจีนได้ทานผลไม้ที่สด ลดต้นทุนการขนส่ง เป็นประโยชน์กับผู้บริโภคชาวจีน และในวันพรุ่งนี้ตนจะพบไปกับธุรกิจสิบสองปันนาที่สนใจไปลงทุนที่ไทย ซึ่งการเดินทางมาสิบสองปันนา ที่ด่านโม่ฮานและด่านบ่อเต็น ครั้งนี้เป็นประโยชน์มาก” นายภูมิธรรม กล่าว
ข้อมูลจากกรมการค้าต่างประเทศระบุว่า ในปี 2566 ไทยส่งสินค้าผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง มูลค่ารวม 6,941.55 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 22.77 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน แบ่งเป็น (1) ผลไม้สด มูลค่าส่งออกรวม 5,400.75 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 22.30 (2) ผลไม้แช่แข็ง 764 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 52.17 และ(3) ผลไม้แห้ง 320.89 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัวร้อยละ 4.39 โดยมีจีนเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับ 1 มีมูลค่าการส่งออกคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 89.68 ของการส่งออกผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้งของไทย
อนึ่ง มีข้อสังเกตว่า รองนายกฯ ภูมิธรรม มีตำแหน่งรับผิดชอบจนงานล้นมือหรือไม่ ทั้งรองนายกฯ, รมว.พาณิชย์ รับผิดชอบแก้รัฐธรรมนูญและอีอีซี โดยเฉพาะอีอีซี มีปัญหาและงานให้แก้ไขและผลักดันจำนวนมาก ที่ผ่านมาการประชุมอีอีซีสำคัญๆ มีการส่งเฉพาะ “มวยแทน” หรือตัวแทนเข้าร่วมประชุม ทั้งตัวแทนทางการเมืองและข้าราชการประจำ ทำให้อีอีซีติดหล่มอยู่ขณะนี้
หมายเหตุ: อ่านข้อมูลเพิ่มเติม..
เนตรทิพย์:Columnist
#อีอีซี ติดล็อค ติดหล่ม (ดินถล่มยังไม่ขยับ)
http://www.natethip.com/news.php?id=8262